© 2017 Copyright - Haijai.com
คนพันธุ์ “ฉัน”
เคยได้ยินชื่อนี้ไหมครับ คนพันธ์ฉัน อย่างที่ฝรั่งเขาเรียกว่าคนยุคนี้เป็นคนยุค Generation “ME” คือพวกที่ไม่สนใจใครนอกจากตัว “ฉัน” เอง คิดถึงแต่ตัวเองเป็นหลัก รู้จักการเรียกร้องเอาแต่ได้ ไม่คิดจะให้อะไรคนอื่น หรือไม่คิดจะนึกถึงอกเขา – อกเรา คิดถึงแต่ฉัน ( ME) ไม่เคยคิดถึงหัวอกคุณ (YOU) หรือคนอื่นๆ สนใจแต่เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ เครื่องมือสื่อสารใหม่ๆ สามารถใช้เครื่องมือสื่อสารได้คล่อง แต่พูดกับคนธรรมดาๆ ไม่เป็น ใช้ภาษาคนไม่คล่อง ไม่เข้าใจเพื่อนมนุษย์ พูดขาดเป็นตอนๆ พูดต่อเนื่องยาวๆ ไม่เป็น สมาธิสั้น
เวลาทำผิดไม่รู้จักเสียใจ ขอโทษไม่เป็น จะกล่าวขอบคุณใครแบบซาบซึ้งก็ไม่เป็น แต่เวลาไม่พอใจใครจะรู้สึกว่าทำไมเขาอย่างนั้น และไม่อดทนที่จะคิดให้คำตอบต่อไป
ไม่รู้จักการวิเคราะห์หาเหตุผล ห่างไกลจากจริยธรรมและคุณธรรม มีชีวิตอยู่เหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่กินอาหารง่ายๆ เช่น ฟาสต์ฟู้ดเป็นหลัก ขาดอารมณ์สุนทรีย์และความลึกซึ้ง ขาดความคิดที่เป็นมิติ แต่จะมีอารมณ์โกรธ ผิดหวังได้อย่างรุแรง ถนัดแต่จะโกรธคนอื่น สุดท้ายจะโกรธตัวเอง เมื่อผิดหวังรุนแรงจะฆ่าตัวตายได้ง่าย เจรจาต่อรองไม่เป็น ออมชอมไม่เป็น ไม่ยืดหยุ่น เจ้าอารมณ์ ภาษาพูดและภาษาเขียนห้วนๆ เขียนยาวๆ เป็นจดหมายหรือรายงานไม่ได้ ไม่เป็นเรื่อง พูดจาให้สละสลวย ไม่เป็น ขาดลีลาและเทคนิคของการสื่อความหมายกับเพื่อนมนุษย์
มนุษย์พวกนี้ไม่มีความรักให้ใคร ไม่รู้จักด้วย แต่ยังต้องการเซ็กส์และความสนุกสนาน จึงมีเซ็กส์ได้ง่ายแม้เพิ่งรู้จักกัน และไม่คิดอะไรมากเมื่อต้องจากกันหลังมีเซ็กส์ 2–3 ชั่วโมง มีชีวิตอยู่แบบโดดเดี่ยวในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ในอพาร์ตเมนท์ หรือในบ้านของตนซึ่งไม่อยากเหี่ยวกันลึกซึ้งกว่าใครๆ แม้คนในครอบครัว
เขาเหงาเสียจนชิน จิตใจกระด้าง และไม่บ่น แต่จะแสวงหากิจกรรมที่ทำให้ตื่นเต้นกับตัวเองแบบแปลกๆ มากขึ้น คนพันธุ์นี้มีมากขึ้นในยุคนี้ อายุอยู่ในช่วง 22 – 35 ปี หลายคนมีการศึกษาและการงานที่ดี ไอคิวสูง เรียนได้ดีกรีสูงทั้งในและต่างประเทศ ถ้าจะโยงประวัติ คนพันธุ์ ”ฉัน” ก็ต้องโยงไปถึงยุคคนอายุ 45 ขึ้นไป ในขณะนี้ ที่เมื่อก่อนเคยเป็นหนุ่มฐานะดี ทันสมัย เป็นคนรุ่นใหม่ที่ใครๆ เรียกว่า ยัปปี้ (YUPPY)
พวกนี้จะสนใจและมีรสนิยมการแต่งกายและการใช้ชีวิตแบบทันสมัย แต่ยังไม่รู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับเครื่องมืออิเลคโทรนิคนักหรอก จึงยังสื่อสารกับมนุษย์ทั่วๆ ไปได้
ถัดจากพวกยัปปี้ลงมา ก็มาถึงพวก Generation X ซึ่งอายุราว 35 – 45 ปี สนใจการใช้ชีวิตกับเครื่องมือสื่อสารมากขึ้น เป็นช่วงต่อที่ใช้คอมพิวเตอร์เก่งขึ้น การสื่อสารกับมนุษย์เริ่มน้อยลง เพราะใช้เครื่องมือสื่อสารกันแทนคำพูดหรือการพบตัวตนได้มากขึ้น
ต่อจากพวก Generation X ก็จะเป็นพวก Generation “ME” นี่แหละที่สื่อสารทางคอมพิวเตอร์มากขึ้น จนไม่เรียนรู้จักที่จะพูด หรือเขียนกันด้วยภาษามนุษย์ตามปกติอย่างแต่ก่อน แต่จะต้องการให้ได้ทุกอย่างรวดเร็ว คนพันธ์นี้ถูกกระหน่ำด้วยความเป็นวัตถุนิยมเต็มรูปแบบ พ่อแม่ทำงานหนักเพื่อหาเงินและอุปกรณ์ทันสมัยในชีวิตมาใช้ ทำให้ไม่มีเวลาอบรมสั่งสอนหรือพูดคุยกับลูกๆ ด้วยอารมณ์ปกติและภาษาที่เป้นความรัก พ่อแม่หวังให้ลูกเรียนสูงๆ เพื่อหางานทำดีๆ ลูกก็ตั้งห้าตั้งตาเรียนและติวเข้มเพื่อให้จบมหาวิทยาลัย ซึ่งก็สามารถจบได้เป็นจำนวนมากในแต่ละปี โดยขาดคุณภาพของการเป็นมนุษย์ที่จะเจริญเติบโตต่อไปในสังคม อย่างมีศักยภาพ สื่อความหมายกับเพื่อนมนุษย์ไม้ได้ดี ลูกห่างเหินจากพ่อแม่ พึ่งตัวเอง อยู่กับตัวเองมากขึ้น หายใจเป็นความสำเร็จและความอยากรวยเร็วๆ บางคนพอผิดหวังก็ก้าวร้าวกับทุกคน แม้พ่อแม่ ด่าว่าพ่อแม่ หลายคน หลายรายติดเหล้าหรือยาเสพติด และลงท้ายก็อยากทำร้ายตัวเอง
นี่คือชีวิตของคนกลุ่มใหญ่ในสังคมทุกวันนี้ ที่กำลังแข็งแรงเป็นพลังของชาติและสังคม แต่เป็นคนพันธุ์ ME กันเสียมาก ลักษณะของคนพันธุ์นี้เป็นกันมากทั่วโลกด้วย
หวังว่าทุกท่านคงรู้จัก ลักษณะของคนพันธุ์ฉัน ซึ่งจะกลายเป็นคนพันธ์ ฉันๆๆๆๆๆๆ หรือ Generation ME ME ME ๆๆๆ มากขึ้น
จะได้เข้าใจและเห็นใจกันได้เมื่อถึงคราวจะต้องร่วมทุกข์กันมากกว่านี้
หมอวิทยา
(Some images used under license from Shutterstock.com.)