Haijai.com


ผื่นคันปัญหาใหญ่ของวัยเบบี๋


 
เปิดอ่าน 3376
 

ผื่นคันปัญหาใหญ่ของวัยเบบี๋

 

 

คุณพ่อคุณแม่เคยสังเกตไหมคะว่าเด็กเล็กๆ มักจะมีผื่นคันเกิดขึ้นให้รำคาญใจอยู่บ่อยๆ ทั้งๆ ที่คุณก็ดูแลลูกเป็นอย่างดี ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ลูกเกิดผดผื่นนั้นมีมากมายหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน เรามาดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง คุณพ่อคุณแม่จะได้เข้าใจและไม่กังวลมากเกินไปค่ะ

 

 

1.ผื่นจากต่อมเหงื่อ

 

ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ร่างกายก็ต้องระบายความร้อนออกจากร่างกาย ซึ่งส่วนหนึ่งระบายออกมาทางผิวหนังพร้อมกับเหงื่อ แต่เนื่องจากพื้นที่ผิวของเด็กมีขนาดเล็กกว่าของผู้ใหญ่มาก  จึงทำให้ร่างกายของเด็กขับเหงื่อออกมามากกว่าผู้ใหญ่เพื่อระบายความร้อน แต่ต่อมเหงื่อของเด็กเล็กยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์ จึงทำให้ต่อมเหงื่อเกิดการอุดตันและกลายเป็นผดผื่นในที่สุด ผดผื่นที่เกิดจากต่อมไขมันอุดดันจะมีทั้งผดใส ผดแดง และ ผดสีขุ่น ซึ่งเด็กจะมีผดแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับความลึกของต่อมเหงื่อที่อุดตัน ถ้าอุดตันที่ผิวหนังชั้นนอก ก็จะเห็นเป็นผดเม็ดใสๆ ถ้าอุดตันที่ผิวหนังชั้นกลางก็จะเป็นผดแดง และถ้าอุดตันที่ผิวหนังชั้นในก็จะเป็นผดสีขุ่น

 

 

นอกจากการเกิดผดผื่นเนื่องจากต่อมเหงื่อมีการอุดตันแล้ว คุณแม่อาจจะรู้สึกว่าลูกตัวร้อนกว่าปกติด้วย นั่นก็เป็นเพราะร่างกายของลูกขับความร้อนออกมามากกว่าผู้ใหญ่นั่นเองค่ะ เพราะฉะนั้นหากคุณแม่รู้สึกว่าลูกตัวร้อนกว่าปกติ ก่อนที่จะตัดสินว่าลูกเป็นไข้ไม่สบาย ให้คุณแม่สังเกตอาการโดยทั่วไปของลูกก่อน ถ้าเจ้าตัวเล็กยังร่าเริงแจ่มใส กินนมได้เป็นปกติ ก็แสดงว่าลูกยังแข็งแรงดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงค่ะ

 

 

การป้องกันผื่นคันจากต่อมเหงื่ออุดตันนั้นทำได้ไม่ยาก หากเป็นช่วงหน้าร้อน คุณแม่สามารถอาบน้ำให้ลูกบ่อยขึ้นเพื่อช่วยระบายความร้อนของร่างกาย จัดให้ลูกอยู่ในห้องที่ปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย  สำหรับเด็กเล็กๆ คุณแม่ควรเลือกผ้าห่อตัวให้เหมาะกับสภาพอากาศและไม่ควรห่อตัวลูกให้แน่นจนเกินไปเพราะจะทำให้ผิวหนังระบายความร้อนได้ลำบาก ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดผื่นคันเพราะต่อมเหงื่ออุดตันในที่สุด

 

 

2.ผื่นจากต่อมไขมัน

 

ผดผื่นที่เกิดจากต่อมไขมัน มักจะเกิดกับเด็กเล็ก โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกหลังคลอด ซึ่งเป็นช่วงที่รูเปิดของต่อมไขมันยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์ แต่ถูกกระตุ้นด้วยฮอร์โมนที่ลูกได้รับมาจากคุณแม่ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ จึงทำให้ต่อมไขมันเกิดการอุดตันและอักเสบได้ง่าย เมื่อเวลาผ่านไป ฮอร์โมนของคุณแม่ที่อยู่ในตัวลูกลดลง ผดผื่นที่เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมันก็จะหายไป ซึ่งจะหายเร็วหรือช้าก็ขึ้นอยู่กับว่าฮอร์โมนที่รับมานั้นมีมากน้อยแค่ไหน

 

 

ผดผื่นที่เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมันมักจะเกิดขึ้นบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก เช่น ศีรษะ คิ้ว ใบหู หลังหู  รวมไปถึงใบหน้า แก้ม ข้อพับต่างๆ ซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ หน้าอก และ แผ่นหลัง ซึ่งคุณแม่จะเห็นเป็นคราบไขมันเหลือง หนา และแห้งเป็นเกร็ดติดอยู่ตามส่วนต่างๆ ที่มีต่อมไขมันอยู่มาก ซึ่งเจ้าคราบไขมันที่ว่านี้จะถูกผลิตออกมาเรื่อยๆ  แต่ไม่ทำให้เกิดอาการคัน

 

ผื่นจากต่อมไขมันอุดตันนี้ไม่สามารถป้องกันได้เพราะเกิดจากฮอร์ดมนของคุณแม่ที่มีอยู่ในตัวลูก  ซึ่งถ้าเป็นไม่มากก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไร แต่หากผิวมีไขมันเกาะติดมาก คุณแม่สามารถใช้น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์หรือ เบบี้ออยล์ นวดผิวทิ้งไว้ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง ให้เกร็ดไขมันอ่อนตัวลงแล้วใช้ผ้าเช็ดออกให้สะอาด หากมีเกร็ดไขมันเกิดขึ้นที่ศีรษะ หลังจากใช้น้ำมันนวดแล้วให้สระออกให้สะอาด

 

 

3.ผื่นจากภูมิแพ้ผิวหนัง

 

ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากพันธุกรรม เจ้าตัวเล็กบ้านไหนที่คนในครอบครัวมีประวัติเป็นผื่นภูมิแพ้ที่ผิวหนังลูกก็มักจะมีอาการแพ้สิ่งที่มากระตุ้นได้ง่าย เช่น  แพ้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว แพ้ผลิตภัณฑ์ซักผ้า หรือแม้แต่แพ้เหงื่อของตัวเอง โดยจะมีอาการคันและเป็นผื่นแดง ซึ่งความรุนแรงของอาการก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและปริมาณของสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการแพ้

 

 

วิธีการป้องกันคือต้องพยายามอย่าให้ผิวของลูกสัมผัสกับสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการแพ้ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ต้องสัมผัสกับผิวหนังก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ควรเลือกที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ และ ไม่มีน้ำหอมชุน และควรมีการทดสอบการแพ้ก่อนใช้ทุกครั้ง หากลูกเกิดอาการแพ้ขึ้นแล้ว ถ้าอาการไม่รุนแรง อาการจะดีขึ้นได้เอง  แต่ถ้าหากมีอาการแพ้อย่างรุนแรงควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อใช้ยาปฏิชีวนะช่วยบรรเทาอาการ นอกจากนี้คุณแม่ไม่ควรอาบน้ำฟอกสบู่ให้ลูกบ่อยๆ เพราะเด็กที่มีอาการแพ้ที่ผิวหนังมักจะมีผิวแห้ง การอาบน้ำบ่อยๆ โดยเฉพาะการอาบด้วยน้ำอุ่นจะยิ่งทำให้ผิวของลูกแห้งและคัน การเกาก็จะยิ่งทำให้ผื่นแพ้ลุกลามได้

 

 

4.ผื่นจากความอับชื้น

 

ผื่นคันกรณีนี้มักจะเกิดจากการที่คุณแม่สวมผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้ลูกนานเกินไปโดยไม่เปลี่ยน  ทำให้ทั้งน้ำปัสสาวะและอุจจาระเกิดการหมักหมมจนทำผิวหนังเกิดผื่นคันและอักเสบในที่สุด ซึ่งเราเรียกกันว่า “ผื่นผ้าอ้อม”  ผื่นคันจากความอับชื้นนี้มักจะเกิดขึ้นบริเวณที่ผิวหนังต้องสัมผัสกับความอับชื้น เช่น ร่องก้น โคนขา และ อวัยวะเพศ เป็นต้น หากคุณแม่ปล่อยให้ผิวหนังของลูกเกิดการหมักหมมเป็นเวลานานอาจจะทำให้เกิดเชื้อรา Candida  ร่วมกับการเกิดผื่นคันด้วย นอกจากนี้หากผิวหนังสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรียทีมากับอุจจาระก็จะทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบและพุพองได้

 

 

การป้องกันผื่นคันที่เกิดจากความอับอื้นก็มีหลักการง่ายๆ คือ พยายามอย่าให้ผิวของลูกอับชื้น บ้านไหนที่ชอบใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้ลูก ควรเปลี่ยนมาใช้ผ้าอ้อมผ้า หรือถ้าจำเป็นต้องใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปก็ควรเปลี่ยนบ่อยๆ หลังอุจจาระและปัสสาวะเสร็จควรล้างอวัยวะเพศ ก้น และบริเวณใกล้เคียงให้สะอาด เช็ดให้แห้ง และอาจใช้แป้งทาตามจุดอับชื้นเพื่อช่วยดูดซับความความชื้น โดยเลือกแป้งที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติ ซึ่งมีความอ่อนโยนต่อผิวบอบบางของลูก ไม่ทำให้เกิดการแพ้ และในกรณีที่ลูกเกิดผดผื่นคันขึ้นแล้ว คุณแม่สามารถเลือกใช้แป้งที่ช่วยบรรเอาการผดผื่นคันได้ ซึ่งปัจจุบันมีแป้งที่ช่วยรักษาอาการผดผื่นคัน โดยใช้สารที่กลั่นมาจากดอกคาร์โมมายด์ ซึ่งสามารถช่วยรักษาผดผื่นคันได้อย่างปลอดภัยและได้ผลค่ะ

 

 

การเกิดผดผื่นคันที่ผิวเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลูกหงุดหงิดงอแง เมื่อหงุดหงิดงอแงก็จะทำให้ขาดการเรียนรู้ที่ดี ซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการการเรียนรู้ของลูก เพราะฉะนั้นคุณแม่ควรดูแลให้ลูกสบายตัวอยู่เสมอ เจ้าตัวน้อยจะได้อารมณ์ดี มีความพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ซึ่งจะส่งผลให้พัฒนาการของลูกดีตามไปด้วยค่ะ

(Some images used under license from Shutterstock.com.)