© 2017 Copyright - Haijai.com
10 วิธี ท้องนี้ไม่มียาก Ten ways to boost your fertility
จริงอยู่ที่ว่าภาวะเจริญพันธุ์ของผู้หญิงนั้นจะอยู่ที่อายุประมาณ 25 ปีและน้อยลงเรื่อยๆ จนถึงอายุ 35 แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนไป ทำให้การแต่งงานและความพร้อมที่จะมีเจ้าตัวเล็กเพื่อเติมเต็มชีวิตคู่นั้นดูจะช้าออกไปหลายปีอยู่ หลายคู่เมื่อผ่านจากท้องแรกมาก็ได้สักพัก ทั้งเจ้าตัวเล็กและคุณพ่อ บางครั้งอาจจะลามไปถึงญาติๆ ด้วย ต่างร่ำร้องกันว่าอยากจะมีน้องให้หนูสักคน สำหรับคุณแม่ที่ท้องแรกไม่มีปัญหาก็คงจะไม่ยากเท่าไหร่ แค่หาวันไข่ตกแล้วปุ๊บปั๊บก็มีน้องได้สมใจ แต่สำหรับคุณแม่ที่แค่ท้องแรกก็ยากเหลือหลาย เรามีวิธีง่ายๆ มาช่วยให้คุณแม่ได้อยู่ใน “ภาวะเจริญพันธุ์” ที่ง่ายต่อการตั้งครรภ์ ด้วย 10 วิธี เสริมสร้างสุขภาพเพื่อเจ้าตัวเล็กที่จะเกิดมาค่ะ
5 ห้าม
1.ห้ามดื่ม สุราเมรัยนอกจากจะผิดศีลห้าแล้วยังมีผลต่อสุขภาพโดยตรงด้วยนะคะ รายงานจากการวิจัยชิ้นหนึ่งชี้ชัดว่า การดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่า 5 หน่วยต่อสัปดาห์ (ประมาณไวน์ 5 แก้ว) จะมีโอกาสในการตั้งครรภ์น้อยกว่าผู้หญิงที่ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์กว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียวนะคะ แถมอีกนิดว่ากาแฟก็ร้ายพอกัน งานวิจัยบอกว่าการดื่มกาแฟวันละแก้วจะทำให้โอกาสที่คุณจะตั้งครรภ์ยากขึ้นอีกด้วยค่ะ
2.ห้ามสูบ การสูบบุหรี่นอกจากจะทำร้ายตัวคุณแล้วยังทำร้ายคนข้างๆ ได้อย่างเหลือเชื่อ ในคุณแม่เราคิดว่าส่วนใหญ่คงไม่สูบกันเท่าไหร่หรอกจริงไหมคะ แต่ถ้าคุณพ่อที่สูบนี่สิคะ เพราะควันบุหรี่ที่แม้ว่าคุณจะไม่ได้สูบเอง (ที่เรียกกันว่าควันบุหรี่มือสอง) แต่ก็มีผลกับคนข้างกายอย่างคุณไม่น้อยทีเดียว โดยไม่เฉพาะแต่คุณแม่ที่เตรียมตัวตั้งครรภ์เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อคุณแม่ตั้งครรภ์แล้วอีกด้วย รศ.ดร. ผ่องศรี ศรีมรกต ประธานเครือข่ายพยาบาลต้านบุหรี่และสารเสพติดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ควันบุหรี่มือสองทำให้หญิงมีครรภ์ มีโอกาสแท้งบุตร หรือคลอดบุตรที่มีน้ำหนักน้อยกว่าปกติ และเด็กอาจมีความผิดปกติอีกด้วย
3.ห้ามไขมัน (ร้าย) ฝรั่งว่า You are what you eat. แต่ไม่ใช่ว่าไขมันทุกอย่างจะไม่ดีไปเสียหมดนะ เพราะร่างกายเราก็ต้องการไขมันบ้างเพื่อเป็นทั้งพลังงานและใช้ในการละลายวิตามินบางตัวเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้ได้ต่อไป แต่ไขมันร้ายๆ อย่างไขมันชนิดทรานส์ ซึ่งเป็นไขมันที่ทำจากไขมันชนิดไม่อิ่มตัว ผ่านขบวนการเติมไฮโดรเจน เพื่อให้เป็นไขมันที่คงตัวในอาหารสำเร็จรูป สามารถเก็บได้นาน หรือมักเห็นบ่อยๆ บนฉลากอาหารคือ Hydrogenated oil หรือ Partially hydrogenated oil เป็นไขมันชนิดที่อันตรายกับร่างกายที่สุด โดยมักพบในเนยแท่ง มาร์การีน เนยถั่ว อาหารทอด ขนมขบเคี้ยวที่บรรจุถุง ขนมอบ และในอาหารอื่นๆ นอกจากนี้ ไขมันชนิดนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและโรคเบาหวาน ไขมันชนิดนี้ จะส่งผลรบกวนการทำงานของตัวรับที่เซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ เมตาบอลิซึมของกลูโคส และความไวต่ออินซูลิน
เรื่องนี้ยืนยันได้ด้วยงานวิจัยจากศูนย์วิจัยเนสท์เล่ ในวารสารโภชนคลีนิคของอเมริกัน พบว่า หญิงที่ต้องการจะตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทที่มีไขมันชนิดทรานส์ โดยเมื่อหญิงเหล่านี้กินอาหารที่มีไขมันชนิดทรานส์ (Trans fats) มากเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสเป็นหมันมากขึ้นเท่านั้น และยังเป็นการเพิ่มน้ำหนักตัวอีกด้วย
4.ห้ามเครียด รู้ไหมคะว่าความเครียดเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้วงจรร่างกายเปลี่ยนแปลงและส่งผลต่อสุขภาพกายไม่น้อยเลยนะคะ ยิ่งเกี่ยวกับวงจรการตกไข่และประจำเดือนยิ่งเสียไปใหญ่ แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่จะตั้งครรภ์ได้ล่ะคะ
ความเครียดจะส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติหรือมากระปริดกระปรอยได้และยิ่งกว่านั้นอาจจะทำให้ไข่ไม่ตกในบางเดือนได้เนื่องจากฮอร์โมนเกิดการเปลี่ยนแปลง เห็นไหมคะว่าเรื่องของจิตใจก็สำคัญไม่แพ้กันทีเดียว จากการศึกษาของสถาบันหนึ่งในประเทศเนเธอร์แลนด์ ศึกษาในคู่สมรส 393 คู่ที่ต้องการจะมีบุตร พบว่าคู่ที่ฝ่ายหญิงมีระดับความเครียดสูง จะส่งผลต่อการตั้งครรภ์ในอัตราที่ต่ำกว่ามาก
การลดความเครียดโดยการออกกำลังกายและเข้ากลุ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในหมู่คุณแม่ที่ต้องการจะตั้งครรภ์ช่วยลดความเครียดได้อย่างเห็นผลค่ะ พิสูจน์แล้วโดย Harvard University&;#39;s Mind-Body Center for Women&;#39;s Health ที่พบว่าคุณแม่ที่เข้ารับการทำกลุ่มบำบัดเพื่อพูดคุยลดความเครียด สามารถตั้งครรภ์สูงกว่าก่อนบำบัดถึง 3 เท่าเชียวนะคะ
5.ห้ามขี้เกียจออกกำลังกาย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนั้นเป็นเสมือนการเตรียมร่างกายให้แข็งแรงก่อนการตั้งครรภ์ การออกกำลังกายนั้นให้ผลดีอย่างไม่น่าเชื่อ คุณแม่ที่ร่างกายแข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ กล้ามเนื้อจะมีความยืดหยุ่นที่ดีและมีความแข็งแรง การปวดหลังขณะตั้งครรภ์จะน้อยลง คลอดง่ายขึ้น นอกจากนั้นการออกกำลังกายจะเป็นผลดีต่อเนื่องไปจนถึงหลังคลอด คุณแม่จะทนต่อความเครียดในการเลี้ยงลูกได้ดีกว่า และควบคุมน้ำหนักหลังคลอดได้ดีขึ้นค่ะ
5 ให้
1.ให้พักผ่อน การพักผ่อนอย่างเพียงพอนอกจากจะช่วยในเรื่องของสุขภาพโดยรวมให้ดีขึ้นแล้ว ช่วงการนอนหลับนี้เอง ร่างกายจะได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ยิ่งถ้าการเข้านอนแต่หัวค่ำจะทำให้ระบบการเจริญพันธุ์ และฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญพันธุ์สามารถทำงานได้เต็มที่ จนเกิดการตกไข่ที่สมบูรณ์ และฝ่ายชายนั้นการพักผ่อนก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ ผู้ชายที่พักผ่อนอย่างเพียงพอจะมีการผลิตตัวอสุจิที่สมบูรณ์เพียงพอที่จะเกิดการปฏิสนธิระหว่างไข่ของฝ่ายหญิง ส่งผลให้การตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้นค่ะ
2.ให้ทานอาหารและอาหารเสริม นอกจากอาหารครบห้าหมู่แล้ว คุณแม่ที่เตรียมตั้งครรภ์ควรเสริมสารอาหารบางตัวเพื่อเสริมสร้างให้ภาวะเจริญพันธุ์นั้นสูงขึ้น และเพื่อเสริมสร้างร่างกายให้พร้อมกับการที่อีกหนึ่งชีวิตเข้ามาด้วย หนึ่งในสารอาหารที่เราจะแนะนำก็คีอ โฟเลท หรือ Folic Acid ในช่วงตั้งแต่ก่อนการตั้งครรภ์ Folic Acid สามารถสร้างสมองระบบประสาทและประสาทไขสันหลังได้ และยังป้องกันโรคปากแหว่ง และเพดานโหว่ในทารกได้ อาหารที่มีคุณภาพ และอุดมไปด้วย Folic Acid เช่น น้ำส้ม ผักใบเขียว ถั่ว ธัญพืช และควรเสริม Folic Acid วันละ 4 มิลลิกรัมก่อนตั้งครรภ์ 1 เดือนไปเรื่อยๆ จน ถึง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ค่ะ
3.ให้ไปเที่ยว การพักผ่อนโดยการท่องเที่ยวนั้นนอกจากจะเป็นการผ่อนคลายความเครียดและความเหนื่อยล้าของจิตใจแล้ว ยังเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศใหม่ๆ ให้กับชีวิตรักอีกด้วย ไม่แน่นะคะอะไรที่มันเคยน่าเบื่อ อาจจะน่าตื่นเต้นขึ้นมาก็ได้ เลือกที่เที่ยวแบบใดนั้นคงเป็นไปตามสไตล์ของคุณและครอบครัวค่ะ แนะนำว่าเที่ยวสบายๆ หน่อยก็ดี ถ้าสมบุกสมบันมากทริปนี้อาจจะกลับไปแล้วเหนื่อยกว่าเดิมแทนที่จะได้พักผ่อนก็เป็นได้
4.ให้รักษาความสะอาด โดยเฉพาะอวัยวะที่เกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ เพราะนี่ก็เป็นด่านแรก หากติดเชื้ออะไรเข้าล่ะก็ ช่วงนี้คงต้องรักษาให้หายก่อนล่ะค่ะ เพราะบางโรคนั้นอาจจะติดต่อเข้าไปถึงเจ้าตัวเล็กได้ และเชื้อบางชนิดก็อาจจะส่งผลต่อการแท้งด้วย ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าในคุณแม่ที่เตรียมตั้งครรภ์นั้นไม่ควรใช้ที่ฉีดชำระค่ะ ใช้เพียงการล้างและเช็ดตามปกติน่าจะสะอาดเพียงพอแล้ว เพราะการใช้ที่ฉีดชำระบางครั้งทำให้สมดุลย์ของแบคทีเรียในช่องคลอดเสียไปค่ะ
5.ให้กุ๊กกิ๊กบ่อยขึ้นอีกนิด พูดถึงเรื่องการตั้งครรภ์ถ้าจะไม่ให้เรื่องนี้ก็เหมือนกินข้าวแล้วไม่ได้ดื่มน้ำ ดูจะค้างๆ คาๆ ว่ากันด้วยเรื่องนี้ก็ต้องขอเอางานวิจัยมาอ้างอิงกันหน่อยล่ะค่ะว่า การมีเพศสัมพันธ์ที่ดีที่สุดนั้นควรจะเว้นระยะห่างกันประมาณ 48 ชั่วโมงค่ะ เพราะสเปิร์มก็เหมือนนักฟุตบอล ให้เวลาพักหน่อยจะได้มีแรงเตะ แต่ถ้าพักนานเกินไม่ได้ซ้อมขาแข้งก็จะอ่อน เตะถูกเตะผิดกันไปหมด นี่เป็นข้อมูลจาก Athena Institute for Women&;#39;s Wellness ที่ Pennsylvania สหรัฐอเมริกา และเสริมอีกนิดว่าในคุณแม่ที่ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือวงจรประจำเดือนเสียไปหลังจากเลิกรับประทานยาคุมกำเนิดนั้น ให้มีเพศสัมพันธ์ที่สม่ำเสมอทุก 2-3 วัน เป็นเวลา 1 เดือน แล้ววงจรของประจำเดือนจะมาเป็นปกติขึ้นค่ะ
เรื่องแบบนี้ใช่จะทำคนเดียวได้ ต้องร่วมมือกันทั้งสองฝ่ายค่ะ ที่สำคัญอย่าลืมตรวจสุขภาพทั้งคุณพ่อและคุณแม่นะคะ เพราะบางครั้งความผิดปกติอาจจะซ่อนอยู่แต่ไม่แสดงอาการ และหากว่ามีภาวะผิดปกติอะไรจะได้รักษาให้หายก่อนสายเกินแก้ค่ะ
(Some images used under license from Shutterstock.com.)