
© 2017 Copyright - Haijai.com
Summer Baby ร้อนจริงๆ ร้อนจริงๆ เลยจ้า
ผื่นที่เกิดจากต่อมไขมัน
รูขุมขนที่ระบายของต่อมไขมันยังทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพค่ะ และด้วยฮอร์โมนจากตัวของคุณแม่ที่ยังคงหลงเหลือตั้งแต่ที่เจ้าตัวน้อยอยู่ในครรภ์นั่นแหละที่เป็นตัวกระตุ้น จึงเป็นสาเหตุให้ผิวหนังอักเสบได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณขาหนีบต่างๆ ตั้งแต่ข้อพับ ซอกคอ รักแร้ หลังหู ซึ่งมีต่อมไขมันมากกว่าส่วนอื่นค่ะ อาจปรากฏในรูปของสะเก็ดสีเหลืองแข็งๆ ผื่นชนิดนี้ป้องกันไม่ได้แต่จะหายไปเองหลังจากที่ฮอร์โมนที่สะสมไว้หมดลง วิธีการทำความสะอาดคือใช้ น้ำมันมะกอก เบบี้ออยล์ ฯลฯ นวดทิ้งไว้บริเวณสะเก็ดประมาณ 2-3 ชั่วโมง จนสะเก็ดนุ่มลงแล้วจึงเช็ดทำความสะอาดค่ะ
ผื่นที่เกิดจากต่อมเหงื่อ
การทำงานของต่อมเหงื่อมีส่วนคล้ายกับการทำงานของต่อมไขมันค่ะ คือยังทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพนัก จึงเกิดการอุดตันในรูปของผดใส ผดแดงและผดลึก ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยมากในช่วงหน้าร้อนค่ะ ดังนั้นวิธีการป้องกันผดผื่นประเภทนี้คือ
1.ให้เจ้าตัวน้อยอยู่ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเท ไม่ร้อนอบอ้าว ควรเปิดพัดลมให้ลมโกรก หรือเปิดเครื่องปรับอากาศไปเลยก็จะเป็นหนทางที่เจ้าตัวน้อยจะปลอดผดผื่น
2.เนื้อผ้าที่ลูกสวมใส่ ควรเป็นเนื้อผ้าบางเบา ระบายอากาศได้ดี
3.ไม่ควรห่อตัวลูกแน่นจนเกินไป เพราะจะทำให้ต่อมเหงื่อของลูกทำงานหนักยิ่งขึ้น ทำให้รูขุมขนอุดตัน และเกิดผดผื่นจนถึงขั้นผิวหนังพุพองได้
4.หมั่นเช็ดตัวหรืออาบน้ำให้เจ้าตัวน้อยเพื่อให้ร่างกายได้ระบายความร้อนไม่เกิดการหมักหมม
5.หากลูกมีอาการคัน ให้ทาคาลาไมน์เพื่อลดอาการคันค่ะ
เรื่องผดผื่นกับหน้าร้อนเห็นจะเป็นของคู่กันเลยนะคะ ช่วงปิดเทอมเดือนเมษายนอากาศร้อน เด็กๆ ที่ออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านกลับมาก็จะมีผื่นแดงตามมา หรือในคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็กๆ กลัวลูกไม่สบายห่อตัวลูก ใส่เสื้อแขนยาว ขายาวหรือห่มผ้าหนาๆ ให้ลูก ก็จะทำให้เหงื่อระบายออกยาก เป็นสาเหตุให้เกิดผดร้อนตามมา
ผดร้อน (Miliaria rubra) เกิดจากการอุดตันของต่อมเหงื่อ ขณะระบายความร้อนออกนอกร่างกาย ทำให้ร่างกายขับเหงื่อไม่ได้ ผื่นจะเป็นตุ่มสีแดงเม็ดเล็กๆ บางครั้งพบเป็นตุ่มน้ำใส พบมากบริเวณไรผม หน้าผาก คอ หลัง บางครั้งอาจพบบริเวณข้อพับแขนขาได้ แต่ไม่ค่อยพบบริเวณหน้าอกหรือท้อง ผื่นจะหายได้เอง ถ้าเกาบ่อยๆ อาจเกิดการติดเชื้อเป็นตุ่มหนองตามมาได้
ถ้าลูกเป็นผดร้อนคุณแม่สามารถดูแลได้เองที่บ้านนะคะ โดยมีข้อควรปฏิบัติดังนี้
• ให้ลูกอยู่ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ร้อนอบอ้าว ควรเปิดพัดลมให้ลมโกรก หรือเปิดเครื่องปรับอากาศไปเลยก็จะเป็นหนทางหนึ่งที่ลูกจะปลอดจากผดผื่น (กรณีนี้เหมาะสำหรับเด็กขี้ร้อนมาก)
• อาบน้ำหรือหมั่นเช็ดตัวให้ลูกบ่อยๆ เพื่อให้ร่างกายได้ระบายความร้อน ไม่เกิดการหมักหมมของเหงื่อ
• ให้ลูกสวมใส่เสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าบางเบา ระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย หลีกเลี่ยงผ้าไนล่อน หรือไยสังเคราะห์
• ไม่ควรห่อตัวลูกแน่นจนเกินไป เพราะจะทำให้ต่อมเหงื่อของลูกทำงานหนักยิ่งขึ้น ทำให้รูขุมขนอุดตัน และเกิดผดผื่นจนถึงขั้นผิวหนังพุพองได้
• โดยปกติผดร้อนมักไม่มีอันตราย และมักจะหายได้เองใน 1-2 สัปดาห์ ถ้าลูกคันมากคุณแม่อาจใช้คาลาไมน์ทาวันละ 2-3 ครั้ง แต่ถ้าเกามากจนเป็นแผลติดเชื้อควรไปพบคุณหมอนะคะ
Tips for Mom
1.คุณแม่ไม่ควรอาบน้ำให้ลูกวัยเบบี๋ด้วยสบู่ เพราะสบู่จะนำเอาความชุ่มชื้นออกไปจากผิวลูก ซึ่งผิวทารกเป็นผิวที่บอบบางมาก ดังนั้นคุณแม่ควรอาบน้ำเปล่าให้ลูกจนลูกอายุได้ 6 สัปดาห์ หลังจากนั้นจึงเริ่มใช้สบู่อาบน้ำให้ลูกได้บ้าง แต่ไม่ต้องมาก
2.อย่าลืมล้างตัวลูกให้ทั่วและสะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณข้อพับและขาหนีบ จากนั้นให้เช็ดตัวลูกให้แห้ง อย่าให้เหลือความชื้นตกค้างอยู่ตามข้อพับต่างๆ เพราะจะก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อผิวของลูกได้
3.เลือกเสื้อผ้าให้ลูกวัยเบบี๋ เสื้อผ้าที่ใส่ตอนกลางวันควรจะเป็นผ้ายืด ถอดง่าย คอกว้างและค่อนข้างหลวม ควรเป็นเสื้อผ้าที่ผลิตจากวัสดุที่อ่อนนุ่ม เช่น ผ้าฝ้าย และผ้าสำลี แล้วให้ตรวจดูด้วยว่าผ้าตรงบริเวณตะเข็บไม่แข็งจนเกินไป เพราะอาจทำให้ลูกเกิดความไม่สบายตัวได้ และควรเลือกเสื้อผ้าที่ออกแบบมาเพื่อให้เปลี่ยนผ้าอ้อมได้สะดวกด้วยค่ะ
4.คุณแม่ไม่ควรทาครีมกันแดดให้ลูกที่อายุน้อยกว่า 6 เดือน เพราะสารเคมีในครีมกันแดดอาจทำปฏิกิริยากับผิวหนังอันละเอียดอ่อนของลูกได้ ดังนั้นเมื่อลูกมีอายุครบ 6 เดือนแล้ว คุณแม่อาจทาครีมกันแดดบางๆ ให้เขาเวลาต้องออกไปเผชิญแสงแดด โดยมีข้อควรระวังดังนี้
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าครีมกันแดดที่ใช้นั้นมีระดับ SPF ตั้งแต่ 15 ขึ้นไปและปราศจาก PABA
• ก่อนพาลูกไปว่ายน้ำ ควรทาครีมกันแดดให้ทั่วบริเวณที่อยู่นอกร่มผ้า รวมทั้งหน้าและใบหูด้วย
ควรทาครีมกันแดดให้ลูกก่อนออกจากบ้านหรือลงน้ำอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้ครีมกันแดดซึมลงไปในผิวก่อน
(Some images used under license from Shutterstock.com.)