
© 2017 Copyright - Haijai.com
Christmas Crisis เมื่อลูกป่วยหลังปาร์ตี้
“you better watch out you better not cry you better watch out I’m telling you why, Santa Claus is coming to town!!”
เชื่อว่าในช่วงเดือนที่กำลังมาถึงนี้ คุณพ่อคุณแม่และเจ้าตัวน้อยทั้งหลาย น่าจะได้ฟังและได้ร้องเพลงวันคริสต์มาส ปีใหม่กันหลายสิบรอบเป็นแน่น แล้วหนำซ้ำคุณพ่อคุณแม่ ก็อาจจะต้องกระเตงลูกไปสังสรรค์งานปาร์ตี้ต่างๆ ทั้งบ้านคุณย่า บ้านคุณยาย แล้วไหนจะบ้านเพื่อนๆ อีก และการที่หนูน้อยต้องออกนอกบ้านไปงานสังคมบ่อยๆ ในช่วงนี้ ก็อาจทำให้เจ้าตัวดีมีอาการเจ็บป่วยได้ง่ายๆ โรคสุดฮิตที่พบบ่อยในช่วงนี้ มีอะไรกันบ้าง เรามาอัพเดทไปพร้อมๆ กันดีกว่า
กินจุ๊บ กินจิ๊บ อาหารเป็นพิษเสียแล้ว
สถานการณ์สมมติ คุณแม่พาน้องโมเมวัย 3 ขวบ ไปงานเลี้ยงที่บ้านคุณยาย ที่ทำอาหารโปรดของลูกๆ หลานๆ ไว้คอยท่า ทั้งไก่ทอด กุ้งเผา บาร์บีคิว ให้เด็กๆ ได้ปิ้งไปกินไปกันสนุก พี่มอสวัย 6 ปี ปิ้งกุ้งเผา ป้อนให้น้องโมเมอ้ำคำโต โดยหารู้ไม่ว่ากุ้งนั้นยังไม่สุก เวลาผ่านไปยังไม่ทันข้ามคืน น้องโมเมร้องไห้ปวดท้อง มีไข้ต่ำๆ อาเจียน จนทำเอาทุกคนตกใจไปหมด
เกิดอะไรขึ้น กรณีของน้องโมโม น่าจะมาจากการกินกุ้งเผาที่ไม่สุกทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย และมีอาการปวดท้อง อาเจียน ท้องเสีย อย่างเฉียบพลัน กรณีที่มีไข้ร่วมด้วย น่าจะมาจากการได้รับเชื้อ Salmonella หรือ Shigella ซึ่งพบในเนื้อสัตว์ที่ไม่สุก ซึ่งเป็นอาการที่รุนแรงกว่าอาหารเป็นพิษทั่วไป
ทำอย่างไรดี เด็กๆ วัยต่ำกว่า 5 ปีนั้น นับว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเผชิญกับอาการอาหารเป็นพิษค่ะ เนื่องจากภูมิคุ้มกันของร่างกายยังไม่แข็งแรงเต็มที่ โดยทั่วไปหากลูกอาหารเป็นพิษเมื่ออาเจียนและถ่ายท้องแล้วก็จะหายเป็นปกติได้เร็ว ภายใน 1-2 วัน ระหว่างนี้คุณพ่อคุณแม่ควรจะให้ลูกกินยาแก้อาเจียน ดื่มน้ำเกลือแร่ แต่ไม่ควรให้ลูกกินยาแก้ท้องเสียนะคะ เพราะจะทำให้เชื้อโรคอยู่ในร่างกายนานขึ้น ควรเลือกอาหารอ่อนๆ อย่างโจ๊ก หรือข้าวต้ม นมควรงดไว้ก่อนคะ กรณีที่มีไข้ร่วมด้วยความรีบพาลูกไปพบแพทย์คะ
เป็นไข้ ส่งท้ายปี
สถานการณ์สมมติ วันนี้คุณพ่อคุณแม่ของน้องต้นข้าว นัดเพื่อนๆ ที่มีลูกวัยเดียวกันมาฉลองปีใหม่ที่บ้าน น้องอาร์ม เพื่อนซี้ของน้องต้นข้าวก็มาด้วย แต่มาพร้อมกับน้ำมูกไหลย้อย และจามฮัดเช้ยๆ อยู่ตลอด คุณแม่น้องอาร์มบอกว่าน้องอาร์มพึ่งค่อยยังชั่วจากไข้หวัดใหญ่ แต่ก็ยังไม่หายดี คุณพ่อคุณแม่ของน้องต้นข้าวได้แต่มองหน้ากัน และได้แต่หวังว่าน้องต้นข้าวจะไม่ติดไข้หวัดจากเพื่อนสนิทคนนี้ หลังจากงานสังสรรค์ผ่านไป 2 วัน น้องต้นข้าวก็เซื่องซึมผิดปกติ จับตัวดูก็รู้สึกเหมือนมีไข้รุมๆ น้ำมูกไหล และไม่ยอมกินข้าว
เกิดอะไรขึ้น ในช่วงหน้าหนาว อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ เช่นนี้ เจ้าตัวเล็กมีโอกาสเป็นไข้หวัดได้ง่ายคะ ยิ่งหากอยู่ใกล้ๆ กับเด็กที่ป่วยด้วยแล้ว ก็ยิ่งมีโอกาสที่โรคจะติดต่อกัน และทำให้ลูกป่วยได้ง่าย หากอุณหภูมิร่างกายของลูกสูงกว่า 37 องศาเซลเซียส ก็แสดงว่าหนูน้อยเป็นไข้เข้าให้แล้วค่ะ ซึ่งอาการไข้ นอกจากจะตัวร้อนแล้วก็อาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น น้ำมูกไหล หรือเบื่ออาหาร ฯลฯ
ทำอย่างไรดี ถ้าลูกมีไข้สูงเกินกว่า 38 องศาเซลเซียส ควรใช้ยาลดไข้สำหรับเด็ก โดยให้ปริมาณที่เหมาะกับอายุของลูก และเช็ดตัวให้หนูน้อย โดยเฉพาะบริเวณซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ เช็ดบ่อยๆ จนกว่าไข้จะลด เมื่อไข้ลดลงถึง 38 องศาเซลเซียส ควรติดตามวัดไข้ทุก 30 นาที นอกจากนี้ ควรให้ลูกดื่มน้ำมากๆ หากไข้ไม่ลด หรือมีอาการอื่น เช่น ชัก งอแงมาก อาเจียน ปวดศีรษะรุนแรง หรือคุณพ่อคุณแม่รู้สึกกังวลใจ ก็ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อการตรวจที่แน่นอนคะ
กล่องของขวัญ แลกด้วยเลือด
สถานการณ์สมมติ น้องกรณ์ กำลังช่วยคุณพ่อห่อของขวัญที่จะนำมาจับฉลากในงานปีใหม่ ระหว่างที่คุณพ่อกำลังสาละวนอยู่กับการตัดกระดาษด้วยกรรไกรนั่นเอง น้องกรณ์ก็ไปคว้าคัตเตอร์มาจะช่วยตัด แต่เกิดพลาด ทำให้ใบมีดเฉือนเข้าที่มือน้อยๆ ของลูก กระดาษห่อของขวัญเปื้อนไปด้วยเลือด
เกิดอะไรขึ้น อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอค่ะ โดยเฉพาะหากคุณพ่อคุณแม่เลือกเครื่องมือไม่เหมาะสมกับเจ้าตัวเล็ก เด็กๆ ไม่ควรใช้คัตเตอร์ หรือกรรไกรที่มีปลายแหลมคมโดยเด็ดขาดค่ะ
ทำอย่างไรดี หากลูกถูกของมีคมบาด จนเลือดไหล คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรตกใจ โวยวายค่ะ เพราะยิ่งจะทำให้ลูกใจเสีย ควบคุมสติของคุณ แล้วปลอบลูก ก่อนจะพาไปล้างแผลด้วยน้ำสะอาด ด้วยการเปิดก๊อกให้น้ำไหลผ่านแผล ไม่ต้องเอามือถูบริเวณแผลนะคะ เสร็จแล้วใช้ผ้าสะอาดกดแผลเพื่อหยุดเลือด โดยยกบริเวณที่เลือดไหลให้อยู่สูงประมาณ 3-5 นาที แล้วจึงใส่ยาฆ่าเชื้อโรครอบๆ แผล อาจปิดด้วยพลาสเตอร์หรือผ้าพันแผลด้วยก็ได้ แต่ถ้าเลือดไม่หยุด ควรพาลูกส่งแพทย์คะ
(Some images used under license from Shutterstock.com.)