
© 2017 Copyright - Haijai.com
อาหารสมองลูกน้อย เริ่มเมื่อไรดี Baby Food
“สิ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์กินตอนท้อง มีผลต่อสุขภาพของลูกเมื่อเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่”
กินอย่างไรให้ลูกน้อยฉลาด
อาหารที่จะช่วยบำรุงสมองให้กับเจ้าตัวน้อยนั้น เริ่มได้ตั้งแต่ในครรภ์ มีงานวิจัยที่พบว่าสิ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์กินตอนท้อง มีผลต่อสุขภาพของลูกเมื่อเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และมีความเป็นไปได้ว่าพฤติกรรมการกินของแม่ขณะตั้งครรภ์ จะส่งผลต่อพฤติกรรมการกินของลูกได้ อย่างไรก็ตาม หากถามว่ากินอย่างไรให้ลูกน้อยฉลาด คุณพ่อคุณแม่ก็ควรเข้าใจก่อนว่า เรื่องของสติปัญญานั้นขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย คือ พันธุกรรม และสิ่งแวดล้อม โดยพันธุกรรมมีผลประมาณ 60% และสิ่งแวดล้อมมีผลประมาณ 40% ดังนั้น เรื่องของอาหารใจ และการสร้างสภาพแวดล้อมให้อบอุ่น ก็มีความสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นสมองของลูกได้ไม่แพ้อาหารกาย
เลือกนมที่ดีที่สุดสำหรับเจ้าตัวน้อย
แน่นอนว่าหากกล่าวถึงนมที่ดีที่สุด สำหรับลูก ก็คงหนีไม่พ้นนมแม่ค่ะ ซึ่งเคล็ดลับที่จะทำให้น้ำนมของคุณแม่มีมากพอ สำหรับลูกน้อยก็คือ
• คุณแม่ต้องให้ลูกดูดนมเร็วที่สุด หรือ 30-40 นาทีแรกหลังคลอด
• ให้ลูกดูดนมบ่อยๆ
• ดูดให้ถูกท่า
• ดูดให้หมดเต้า และไม่จำเป็นต้องให้เจ้าตัวเล็กดูดน้ำหลังให้นม แต่ทั้งนี้หากอากาศร้อนมากๆ ก็อาจให้น้ำลูกในปริมาณไม่มากนักได้ค่ะ
วัยไหน กินอะไรดี
• ในระยะ 6 เดือนแรก เด็กทารกควรได้รับนมแม่เพียงอย่างเดียว ซึ่งน้ำนมแม่สะอาดมีสารอาหารครบถ้วนทั้งโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุต่างๆโคลอสตรุมหรือหัวน้ำนม ที่เด็กได้รับเมื่อแรกคลอดจะเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรค มีฮอร์โมนและสารกระตุ้นการเจริญเติบโตของสมองมีผลต่อการพัฒนาต่อสติปัญญา สำหรับการให้อาหารอื่นนอกจากนมแม่จะทำให้เกิดผลเสีย เช่น ทำให้ท้องอืด เนื่องจากกระเพาะอาหารยังไม่พร้อมจะรับอาหารอื่น และทำให้ทารกอิ่มจนรับประทานนมแม่ได้น้อยกว่าปกติ ทำให้ได้รับสารอาหารน้อยกว่าที่ควร
• หลังจาก 6 เดือนไปแล้ว การทำงานของระบบทางเดินอาหาร รวมทั้งน้ำย่อยต่างๆจะพัฒนามากขึ้นตามอายุ เพื่อให้สามารถย่อยอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน และสามารถนำอาหารเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ในร่างกายให้ได้มากที่สุด
• อาหารสำหรับหนูน้อยวัย 1 ปี ขึ้นไป เด็กวัยนี้สามารถรับประทานอาหารได้เกือบทุกอย่าง แต่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด โดยเฉพาะหวานจัด และเค็มจัด ให้ได้นานที่สุด ส่งเสริมให้ลูกกินอาหารที่หลากหลายครบทุกหมู่ รวมถึงผักและผลไม้ด้วย
อาหารกับการเรียนรู้
• โพลิคแอซิด มีอยู่มากในผักใบเขียวทุกชนิด ตับ ไข่แดง ฟักทอง ถั่ว แดง ข้าวซ้อมมือ
• ไนอาซิน มีในข้าวซ้อมมือ ปลา ไข่ ถั่วลิสงคั่ว ไก่
• สังกะสี จมูกข้าว เมล็ดฟักทอง ไข่นม
• โปตัสเซียม ส้มโอ มะเขือเทศ ผักใบเขียว กล้วยน้ำว้า มันเทศ มันฝรั่ง
• วิตามินบี 1 ข้าวซ้อมมือ รำข้าว นม ข้าวสาลีไม่ขัดขาว เนื้อหมู ผัก
• วิตามินบี 6 ข้าวสาลีไม่ขัดขาว จมูกข้าว ตับ กะหล่ำปลี นม ไข่
• วิตามินบี 12 ตับ เนื้อสัตว์ ไข่ นมเนย
อาหารเสริม เริ่มอย่างไร
อาหารเสริมมื้อแรกสำหรับเจ้าตัวเล็กควรเริ่มเมื่อหนูน้อยอายุ 6 เดือน โดยอาหารที่เหมาะสมควรเป็นอาหารประเภทแป้งหรือผัก เพราะเด็กจะได้ไม่แพ้ อาจจะเป็นข้าวบดกับผัก หรือจะปรับอาหารที่ปรุงเพื่อรับประทานเอง เช่น ต้มน้ำซุปใส่ไก่ เราก็เอาน้ำซุปให้ลูกได้ หากป้อนให้ลูกแล้วในครั้งแรก เจ้าตัวน้อยเอาลิ้นดันออกมา ทั้งนี้เป็นเพราะปฏิกิริยารีเฟล๊ก ที่เด็กยังไม่คุ้นเคย แต่หากพยายามต่อไปลูกก็จะกินได้ในที่สุด การเริ่มอาหารให้หลากหลายขึ้น ควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป เริ่มทีละชนิด รอดูสักสัปดาห์ แล้วค่อยเริ่มอาหารชนิดใหม่ เพื่อที่ว่าหากลูกเกิดแพ้อาหาร คุณก็จะรู้ได้ว่าอะไรเป็นสาเหตุ
ทำอย่างไรหากลูกอมข้าว
สาเหตุที่เด็กๆ อมอาหาร อาจเป็นเพราะเด็กเคี้ยวไม่เป็น ขี้เกียจเคี้ยว ส่วนใหญ่เมื่ออมข้าวไว้นานๆ ข้าวก็จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล มีรสหวานซึ่งจะทำให้ฟันผุได้ หากเจ้าตัวเล็กของคุณอมข้าวไม่ยอมกลืน ควรให้เขาคายแล้วป้อนคำใหม่ ระยะเวลาการกินข้าวแต่ละมื้อ ไม่ควรเกิน 45 นาที หากลูกไม่กิน หรือกินไม่หมดก็ไม่ควรบังคับ ระหว่างมื้อนั้น หากลูกไม่มีอะไรกินก็ให้เขาดื่มน้ำเปล่า เพื่อให้เขาเรียนรู้ว่าหิวเป็นอย่างไร และเรียนรู้ว่าการกินอาหารเป็นสิ่งที่เขาต้องทำเพื่อตัวเขาเอง ไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำเพราะพ่อแม่บังคับ คุณอาจจะต้องใจแข็งเพื่อฝึกวินัยการกินให้ลูก ซึ่งจะป้องกันปัญหาที่เด็กๆ นำการกินข้าวมาต่อรองในภายหลังได้
รู้หรือไม่ว่า เด็กๆ ที่กินนมแม่นั้น จะขับถ่ายบ่อยกว่าเด็กที่กินนมผสม ผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่มีกระเป๋ารูปหัวใจ เพื่อรองรับอุจจาระของลูก ไม่ให้ไหลซึม จะช่วยลดการเปรอะเปื้อน เหนอะหนะไม่สบายผิว ทำให้ลูกน้อยอารมณ์ดีได้ตลอดทั้งวัน
พญ.วรีรัตน์ ยมจินดา
(Some images used under license from Shutterstock.com.)