เลี้ยงลูกแบบไทย แบบไหนไม่น่านิยม

เลี้ยงลูกแบบไทย แบบไหนไม่น่านิยม

การเลี้ยงลูกแบบที่ “ขาดความพอดี” เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณควรระวังเป็นอย่างยิ่งค่ะ หากเราจะแบ่งสไตล์การเลี้ยงลูกของคุณพ่อคุณแม่ที่พบเห็นได้ทุกวันนี้คงแบ่งได้เป็น 3 ประเภท เริ่มจากปกป้องลูกมากเกินไป ปกป้องแบบพอดี และเลี้ยงแบบตามมีตามเกิด ประเภทที่สองนั้นถือว่าวางใจได้ระดับหนึ่ง แต่พ่อแม่ที่ปกป้องลูกมากเกินไป กับปล่อยแบบตามมีตามเกินนั้น เป็นสิ่งที่ควรกลับมาให้ความสำคัญอันอีกนิดค่ะ

• ปกป้องลูกมากเกินไป ไม่ว่าลูกจะทำอะไรก็ประคบประหงมไปเสียหมด ไม่อยากให้ลูกเจ็บ ไม่อยากให้ลูกลำบาก โดยลืมคิดไปว่าการที่คุณไม่ได้ฝึกให้ลูกได้ช่วยเหลือตัวเองตามสมควรนั้น จะส่งผลให้ลูกเติบโตไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างยากเย็นยิ่งขึ้น ยิ่งหากว่าคุณพ่อคุณแม่ดูแลแม้กระทั่งไม่อยากให้ลูกผิดหวัง ไม่อยากให้ลูกเสียใจด้วยแล้ว เด็กๆ ก็จะไม่เคยเรียนรู้การควบคุมอารมณ์ตนเอง และจัดการกับความเศร้า ส่งผลให้ลูกมีปัญหาชีวิตต่อไม่เมื่อเป็นผู้ใหญ่

• ปล่อยปละลูกมากเกินไป พ่อแม่บางครอบครัวคิดว่า การเลี้ยงดูลูกนั้นแค่มีนม มีข้าวให้กิน ก็เพียงพอแล้ว คิดว่าเด็กๆ ไม่รู้เรื่อง ไม่จำเป็นต้องพูดคุย หยอกเล่น ทำให้เด็กๆ ที่เติบโตมามีปัญหาเรื่อไอคิวต่ำกว่าเกณฑ์ มีภาวะพัฒนาการล่าช้า ขาดสารอาหาร จนส่งผลต่อสุขภาพและจิตใจของเด็กในระยะยาวได้

การละเล่นแบบไทย สอนอะไรหนูบ้าง

ลองชวนเจ้าตัวน้อยมาเล่นการละเล่นแบบไทยๆ แทนการนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เล่นวีดีโอเกมส์ ก็น่าจะทำให้เกิดความสนุกและได้ประโยชน์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันค่ะ

รีรีข้าวสาร

คุณพ่อคุณแม่อาจจะจับมือกันทำเป็นอุโมงค์ให้ลูกได้เดินลอดไปข้างใต้ พร้อมกับร้องเพลงรีรีข้าวสาร ไม่เพียงแต่จะเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัวด้วยการทำกิจกรรมร่วมกัน แต่เจ้าตัวน้อยยังได้ยืดเส้นยืดสายอีกด้วย

ขี่ม้าก้านกล้วย

บ้านไหนมีต้นกล้วยนำก้านมาตัดให้เป็นม้าตัวยาว ตัดส่วนปลายให้เป็นหัว ส่วนท้ายให้เป็นหาง แล้วให้เจ้าตัวเล็กขี่วิ่งเล่นไปรอบๆ บ้าน เป็นของเล่นปลอดสารพิษที่ทำให้คุณหนูได้ออกกำลังกายได้ดีทีเดียว

กำทาย

นำเมล็ดถั่ว ประมาณ 30 เมล็ด มาวางกองไว้ในภาชนะ ผู้เล่นคนแรกหลับตาแล้วกำเมล็ดถั่วขึ้นมา ผู้เล่นอีกคนทายว่าในมือมีเมล็ดถั่วเท่าไร ใครทายถูกได้เมล็ดถั่วไป เมื่อจบเกมใครมีเมล็ดถั่วมากที่สุดชนะ เกมนี้สอนให้เด็กๆ หัดนับเลข เรียนรู้เรื่องจำนวนมากกว่า น้อยกว่า แต่ต้องระวังไม่ให้ลูกนำเมล็ดถั่วใส่เข้าไปในปากและจมูกด้วยนะคะ

มอญซ่อนผ้า

ในวันที่ลูกมีเพื่อนมาเล่นที่บ้านหลายคน กิจกรรมหนึ่งที่เด็กๆ จะทำร่วมกันได้คือ การเล่นมอญซ่อนผ้าค่ะ ให้เด็กๆ นั่งเป็นวงกลม เลือก 1 คนออกมากำผ้าเช็ดหน้าไว้ในมือ เดินไปรอบๆ วง ขณะที่เพื่อนๆ ช่วยกันร้องเพลงมอญซ่อนผ้า ระหว่างนั้นเด็กคนที่เดินหย่อนผ้าเช็ดหน้าลงด้านหลังคนที่นั่ง เมื่อคนที่นั่งรู้ตัว ก็หยิบผ้าเช็ดหน้าวิ่งไล่ หากไล่ไม่ทันคนนั้นก็ต้องทำหน้าที่เป็นมอญซ่อนผ้าต่อไป สิ่งที่เด็กๆ ได้เรียนรู้คือการหัดสังเกต และการเล่นรวมกับคนหมู่มากค่ะ

เดินกะลา

วิธีการคือนำเชือกเส้นหนึ่งยาวประมาณ 1 วา ร้อยกะลามะพร้าว 2 อัน แล้วให้เด็กๆ ขึ้นไปยืนบนกะลามะพร้าว โดยใช้นิ้วหัวแม่เท้ากับนิ้วชี้หนีบเส้นเชือกเอาไว้ทั้ง 2 เท้า เหมือนกับหนีบรองเท้าฟองน้ำ แล้วเดินทรงตัวบนกะลาให้ได้ เป็นการฝึกการทรงตัว ออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อของเด็กๆ ได้ แต่ทางที่ดีควรมีผู้ใหญ่ดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิดด้วยค่ะ