Haijai.com


ลูกสาว 3 เดือน ท้องอืดและใหญ่ ทานนมแม่ไม่ได้


 
เปิดอ่าน 2650
 

คลินิกสุขภาพเด็ก

 

 

ถามหมอ ลูกสาวอายุได้ 3 เดือน มีปัญหาเรื่องท้องอืดและใหญ่ ทานนมแม่ไม่ได้ คุณหมอเลยให้ทานนมกระป๋อง  Free แลคโตส ท้องก็หายอืด และท้องใหญ่ก็ยุบลง แต่ช่วงที่ทาน 1 สัปดาห์แรก น้องถ่ายทุกวัน วันละครั้ง ช่วงหลังถ่ายสองวันครั้ง  พอครบ 3 เดือน คุณหมอก็เปลี่ยนให้มาทานนมถั่วเหลือง ไฮโซมิลค์ ฟรีแคคโตส  3 วันบางทีน้องยังไม่ถ่ายเลยค่ะ พอถ่ายก็จะถ่ายเหนียวและออกน้อย แต่อุจจาระนิ่ม เวลาถ่ายน้องก็จะร้องค่ะ ถ้าเป็นอย่างนี้จะเปลี่ยนให้ลูกสาวกลับมากินนม Nanเหมือนเดิม  หรือเปล่าคะ  แล้วตอนนี้น้องสามารถกินกล้วย กับน้ำส้มได้หรือยังคะ

 

 

หมอตอบ เรื่องการเปลี่ยนนม บางครั้งเป็นเรื่องที่ยากจะอธิบายในการรักษาอาการต่างๆ ของระบบทางเดินอาหารอยู่ไม่น้อย เพราะบางคราวการเปลี่ยนนมจากยี่ห้อหนึ่งเป็นอีกยี่ห้อหนึ่งแต่เป็นนมประเภทเดียวกันนั้น พ่อแม่หลายคนก็บอกว่าบางอาการหายไป โดยที่กุมารแพทย์เองก็อธิบายไม่ได้เหมือนกัน กรณีของลูกคุณแม่นั้นเป็นการเปลี่ยนจากนมปกติ เป็นนมที่ไม่มีน้ำตาลแลกโตส อาการท้องอืดก็ดีขึ้น และมีความถี่ของการถ่ายอยู่ในเกณฑ์ปกติ  และ กุมารแพทย์เปลี่ยนเป็นนมถั่วเหลือง (ไม่ทราบสาเหตุ) เลยมีปัญหาเรื่องท้องผูกตามมา

 

 

สิ่งที่ผมเสียดายที่สุด ก็คือ การที่น้องไม่ได้กินนมแม่ ซึ่งเป็นนมที่ปลอดภัย และเหมาะสมสำหรับน้องที่สุด  ช่วงชีวิต 6 เดือนแรก การกินนมแม่โดยไม่ได้รับนมผงผสมชนิดอื่นๆ [โดยเฉพาะนมวัว] จะลดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดการแพ้โปรตีนนมวัว หรือ ภาวะแทรกซ้อนอื่นของระบบทางเดินอาหารได้เป็นอย่างมาก

 

 

ในระยะหลังเราพบอาการของการแพ้นมวัวเป็นได้หลายอย่าง ตั้งแต่ ท้องเสีย ท้องอืด ร้องกวนเป็นพักๆเป็นผื่นตามตัว เป็นหวัดบ่อยๆ อาการหอบหืดเมื่อโตขึ้น หรือกระทั่งอาการท้องผูก  ดังนั้นในกรณีของน้องนั้นผมแนะนำให้ปรึกษากุมารแพทย์อีกครั้งในเรื่องของการวินิจฉัย และเหตุผลของการวินิจฉัย เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกชนิดของนมที่เหมาะสม   โดยปกติแล้วหลังอายุ 3 เดือนเด็กสามารถรับอาหารเสริมได้บ้างแล้ว กล้วยสุกครูดเป็นสิ่งที่เหมาะสมและหาได้ง่ายสำหรับบ้านเรา   จะมีประโยชน์ในแง่ของการกระตุ้นให้เด็กใช้กล้ามเนื้อในการเคี้ยว  เพียงวันละมื้อก็เพียงพอแล้ว  นอกจากนี้เส้นใยอาหารจากกล้วย และน้ำส้มจะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย 

 

 

หลังจากป้อนอาหารเสริมทุกครั้งควรให้ดื่มน้ำ  และใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดเหงือกและกระพุ้งแก้มเบาๆ เพื่อลดการหมักหมมของเศษอาหารในปาก  และช่วยให้เด็กคุ้นเคยกับความสะอาดในช่องปาก ต่อไปเมื่อสอนแปรงฟันเด็กจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ป้องกันการเกิดฟันผุในอนาคต  การเช็ดเหงือกนี้ถือเป็นการสอนแปรงฟันให้กับเด็กเลยทีเดียว

 

 

เด็กในวัยนี้เริ่มมีสังคม และจะจดจำใบหน้าของผู้เลี้ยงดูได้แล้ว  การยิ้มเล่น สัมผัสอย่างนุ่มนวลจะช่วยสร้างเสริมความสัมพันธ์ที่ดี  เด็กจะอารมณ์ดี ไม่หงุดหงิด และเลี้ยงดูได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นอย่าลืมทำอารมณ์ให้ดี ยิ้มเล่นกับน้องบ่อยๆ นะครับ

 

 

น.พ. สมฤทธิ์ จันทรประทิน”

รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต

(Some images used under license from Shutterstock.com.)