
© 2017 Copyright - Haijai.com
มะรุม ช่วยลดจำนวนก้อนมะเร็ง
การศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดลพบว่า มะรุมต้มสามารถป้องกันและรักษาโรคมะเร็งลำไส้ได้ โดยมีผลช่วยลดจำนวนก้อนมะเร็ง
ผศ. ดร. ชนิพรรณ บุตรยี่ อาจารย์ประจำสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดลแนะนำว่า การกินมะรุมในรูปของอาหารนับว่าเพียงพอ ไม่จำเป็นที่จะต้องกินมะรุมในรูปผงบรรจุแคปซูลให้สิ้นเปลือง เพราะอาจไม่ได้ให้ผลดีมากไปกว่ามะรุมจากอาหาร
นอกจากนี้ยังมีคำเตือนจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ว่า หากจะกินใบ เนื้อในฝัก หรือดอกมะรุม เพื่อจุดประสงค์ในการรักษาโรค ย่อมทำได้ แต่ไม่ควรกินในปริมาณมากหรือติดต่อกันนานเกินไป เพราะอาจเกิดการสะสมสารบางอย่างในร่างกายซึ่งเป็นพิษ
รายงานความเป็นพิษในสัตว์ทดลองพบว่า การกินมะรุมในปริมาณมากและติดต่อกันนานเกินไป อาจทำให้เกิดการแท้ง ดังนั้นสตรีมีครรภ์ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง ทั้งนี้ผู้ป่วยที่กินมะรุมในรูปอาหารเสริม กินในปริมาณมากกว่าปกติ เช่น ดื่มน้ำคั้น หรือกินติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรตรวจการทำงานของตับร่วมด้วย เพราะพบว่า อาจมีผลทำให้เอนไซม์ตับเพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งบอกถึงความผิดปกติของตับ
How to choose
การนำมะรุมมาทำอาหารนั้นสามารถใช้ได้ตั้งแต่
-ยอดอ่อน ฝัก ดอก และใบ โดยนิยมนำยอดอ่อนไปเป็นเครื่องเคียงอาหารรสจัด
-ฝักอ่อน สามารถนำมาปรุงโดยไม่ต้องปอกเปลือก นิยมนำมาผัดน้ำมันหรือทำยำ
-ส่วนฝักแก่เปลือกจะแข็งเกินไป กินไม่ได้ ต้องปอกเปลือกออกก่อน นิยม นำมาทำแกงส้มปลาช่อน
ในตลาดสดส่วนใหญ่มักนิยมนำฝักแก่มาขายมากที่สุด การเก็บรักษามะรุมให้สดใหม่อยู่ได้นาน สามารถทำได้หลายวิธี เช่น ปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นท่อนสั้นๆ ขนาดตามต้องการ ใส่กล่องปิดให้มิดชิด แช่ตู้เย็นช่องธรรมดา
ทางที่ดีที่สุด คือ ควรกินมะรุมร่วมกับผักชนิดอื่นให้หลากหลาย ไม่กินผักชนิดใดชนิดหนึ่งซ้ำๆ เพียงชนิดเดียว แนะนำให้ปรุงเป็นอาหาร เช่น แกงส้มมะรุมใส่พัดผัก ทั้งอร่อยแถมได้ประโยชน์จากสารอาหารในส่วนผสมหลายชนิด ดีกว่ากินมะรุมผงปริมาณมากเพียงอย่างเดียว เพราะกินได้ไม่นานก็เบื่อ หรือกินมากไปอาจได้รับผลเสียมากกว่าผลดีอีกด้วย
(Some images used under license from Shutterstock.com.)