Haijai.com


10 อาหารแสลงต้องห้ามสำหรับการรักษาโรค


 
เปิดอ่าน 35697

10 TRUE OR FALSE อาหารแสลง

 

 

หลักสำคัญที่จะทำให้คนไข้สามารถหายจากอาการเจ็บป่วยได้ นอกจากการวินิจฉัยโรค การวางแผนการรักษา และการให้ยาที่ถูกต้องเหมาะสมกับบุคคลในแต่ละโรคแล้ว การปฏิบัติตัวและทำตามคำแนะนำของหมอ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งเหมือนกัน

 

 

โดยเฉพาะการรักษาด้วยการแพทย์แผนไทยที่มีข้อปฏิบัติและข้อห้ามต่างๆ มากมาย เช่น เรื่องอาหาร พฤติกรรมซึ่งเรียกว่า แสลง ให้มีความเหมาะสมและถูกกับโรค เพราะหากไม่ปฏิบัติตามหรือไม่ระวัง จะส่งผลให้อาการกำเริบขึ้นหรือแย่ลงได้ ในบางรายอาจกลายเป็นอาการเรื้อรังตามมา จนทำให้ธาตุในร่างกายแปรปรวน

 

 

คำว่าแสลง หรือขะลำในภาคอีสานมีความหมายว่า เป็นสิ่งที่ต้องห้ามหรือไม่ควรทำ ยังมีความคล้ายคลึงกับทาบู (Taboo) ในวัฒนธรรมพื้นเมืองของชาวโพลีนีเซีย ที่กล่าวถึงพื้นที่เกษตรกรรมต้องห้าม เพื่อไม่ให้ผู้อื่นบุกรุก ข้อห้ามต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวบุคลโดยตรง เช่น การกิน การทำอาหาร และวัฒนธรรมในเอเชียกับข้อห้ามต่างๆ ที่เป็นในลักษณะทาบู เช่น ห้ามแต่งงานข้ามวรรณะของคนในอินเดีย ห้ามกินอาหารบางอย่างในบางศาสนา

 

 

คราวนี้เรากลับมาดูอาหารและพฤติกรรมที่จัดว่าแสลง หรือเป็นข้อห้ามในการปฏิบัติตัวสำหรับการรักษาโรค ที่เราควรจะต้องทำความเข้าใจจุดประสงค์และเป้าหมาย โดยเฉพาะตัวของคนไข้เอง ที่หากนำไปปฏิบัติก็จะช่วยให้หายจากโรคที่เป็นอยู่ได้เร็วขึ้น ดังต่อไปนี้

 

1.อาการไข้สูง ห้ามกินอาหารรสเผ็ดร้อน เปรี้ยว และมัน

 

เพราะอาการไข้สูงเกิดจากธาตุไฟกำเริบ ทำให้ร่างกายมีความร้อนมากขึ้นกว่าปกติ ดังนั้นการกินอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน เปรี้ยว และมัน จะเป็นตัวเสริมให้ความร้อนในร่างกายสูงขึ้น เราจึงแนะนำให้เลือกกินอาหารที่มีรสเย็นขมแทน เช่น ฟ้าทลายโจร บอระเพ็ด มะระขี้นก เพราะมีสารออกฤทธิ์ในกลุ่มแอลคาลอยด์

 

 

2.อาการไอเจ็บคอ หากกินอาหารทอด อาหารมันและน้ำเย็น จะทำให้มีอาการมากขึ้น

 

โดยปกติแล้วการไอเป็นกลไกอย่างหนึ่งของร่างกาย เพื่อกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่ติดหรืออุดกั้นบริเวณหลอดลมและปอด ดังนั้น การกินอาหารทอดหรืออาหารที่มีความมันจะส่งผลให้หลอดลมเกิดการระคายเคืองตลอดเวลา จึงทำให้ร่างกายต้องมีการไอเพื่อเอาสิ่งแปลกปลอมนั้นออก และน้ำเย็นจะเป็นตัวกระตุ้นให้หลอดลมมีการหดตัว ทำให้มีอาการไอมากขึ้น

 

 

3.ท้องผูก ไม่ควรกินอาหารที่มีรสฝาด

 

เมื่อมีอาการท้องผูก เราควรกินอาหารที่มีรสเปรี้ยว ซึ่งมีสารแอนทราควิโนน เพื่อไปกระตุ้นการทำงานของลำไส้ให้มีการบีบตัว เช่น ใบมะขามแขก ใบมะขามยาดำ (หรือยางว่านหางจระเข้) แต่ในทางตรงกันข้ามการกินอาหารที่มีรสฝาด ซึ่งมีสารแทนนิน เช่น เปลือกมังคุด ใบฝรั่ง ใบชา จะไปทำปฏิกิริยาตกตะกอนโปรตีน ยับยั้งเอนไซม์ในกระเพาะอาหาร ทำให้ไม่สามารถทำหน้าที่ในการย่อยได้ ส่งผลให้เกิดอาการท้องอืดท้องผูกตามมา

 

 

4.กินถั่วลิสง ไข่ ทำให้เกิดแผลเป็นนูน

 

แม้ในทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ระบุว่า โปรตีนเป็นส่วนหนึ่งของการสังเคราะห์กรดแอมิโนในกระบวนการสร้างคอลลาเจน เพื่อทำให้แผลหายเร็วขึ้น แต่การแพทย์แผนไทยก็ยังมีการห้ามกิน เพราะในอดีตกลัวว่าการกินโปรตีนที่มากจนเกินไปนั้น อาจจะส่งผลให้เกิดการซ่อมแซมของร่างกายมากเกินไป จนเป็นแผลคีลอยด์หรือแผลนูนแดง

 

 

5.อาหารที่ทำให้เกิดอาการคัน เช่น อาหารทะเล อาหารหมักดอง

 

แพทย์แผนไทยระบุว่า อาการคันเกิดจากความผิดปกติของระบบน้ำเหลือง หรือระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งเกิดได้หลายกรณี เช่น ธาตุลม ลักษณะเป็นแผลพุพอง ธาตุไฟผิดปกติ ลักษณะเป็นแผลแห้ง ตกสะเก็ด การห้ามกินอาหารทะเล และอาหารหมักดองนั้น จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะเหล่านี้เป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย เช่น การแพ้สารไคตินจากเปลือกกุ้ง การแพ้สารเคมีที่ใช้ในอาหารหมักดอง

 

 

6.ท้องอืดท้องเฟ้อ ห้ามกินอาหารรสเย็น ขม ฝาด

 

โดยเฉพาะการกินผักสด ผลไม้ ที่มีรสเย็น เช่น ผักกาด ตำลึง หรือรสขมเย็น เช่น ใบย่านาง ฟ้าทลายโจร เพราะการกินในปริมาณมากเกินไป จะทำให้มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้ โดยเฉพาะรสฝาดที่มีปฏิกิริยาต่อเอนไซม์ในกระเพาะอาหาร ทำให้มีอาการท้องอืดตามมา อย่างไรก็ตามถ้ามีอาการท้องอืด ควรกินอาหารหรือสมุนไพรที่มีรสร้อน เช่น กะเพรา ขิง ข่า อบเชย ฯลฯ

 

 

7.ไข้ทับระดู ห้ามกินอาหารรสเผ็ดร้อนและรสเย็นจัด

 

อย่างที่กล่าวไปในข้อแรก อาหารรสเผ็ดร้อนนั้น มีผลทำให้ธาตุไฟในร่างกายสูงขึ้น โดยเข้าไปเร่งอุณหภูมิให้ร่างกายให้ร้อนขึ้นอีก ส่วนอาหารรสเย็นจัด เช่น แตงโม น้ำมันมะพร้าว รสเปรี้ยว เช่น สับปะรด น้ำส้มสายชู ถึงแม้ว่าความเย็นจะช่วยให้ความร้อนลดลงบ้าง แต่ถ้าเป็นรสเย็นจัดก็ควรต้องระมัดระวัง เพราะการพยายามทำให้ร่างกายเย็นลงอย่างรวดเร็วนั้น จะส่งผลให้ธาตุในร่างกายแปรปรวน ทำให้อาการแย่ลง อีกทั้งความเย็นจะทำให้ธาตุลมไหลเวียนไม่สะดวก เกิดการหดรัดและหนาตัวของมดลูก จนอาจทำให้มีอาการปวดมากขึ้นไปอีก

 

 

8.ห้ามกินข้าวเหนียว

 

ข้าวเหนียวเป็นอาหารอีกชนิดหนึ่งที่ต้องห้าม หากได้รับการรักษาด้วยแพทย์แผนไทย โดยเฉพาะอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เพราะเชื่อว่าการกินข้าวเหนียวทำให้เลือดมีความหนืด การไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อได้ไม่ดี แทนที่จะหายได้ไวขึ้น กลับทำให้หายช้าลง เนื่องจากข้าวเหนียวทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น และให้พลังงานมากกว่าข้าวธรรมดานั่นเอง

 

 

9.ห้ามกินหน่อไม้

 

หน่อไม้เป็นอาหารแสลงในตำราแพทย์แผนไทย โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคกระดูกและข้อ เพราะหน่อไม้มีสารพิวรีนสูง เป็นสารต้นแบบในการผลิตกรดยูริก ซึ่งถ้ามีมากไป ก็จะสะสมตามข้อต่างๆ ของร่งากาย ส่งผลให้เป็นโรคเกาต์ หรือมีอาการปวดข้อได้

 

 

10.ห้ามกินเครื่องในสัตว์

 

เครื่องในสัตว์ เช่น ตับ กึ๋น หัวใจ ก็เช่นเดียวกัน เพราะมีปริมาณสารพิวรีนสูง ส่งผลโดยตรงกับคนที่เป็นโรคเกาต์ หรือมีอาการปวดข้อ ดังนั้นไม่แนะนำให้คนที่มีภาวะกรดยูริกในร่างกายสูงกิน

 

 

นอกจากเครื่องในสัตว์แล้ว ยังมีอาหารที่มีสารพิวรีนสูงอื่นๆ เช่น ยอดชะอม ตำลึง ฟักแม้ว ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วเขียว ฯลฯ

 

 

ไม่อยากป่วยนาน เป็นอาการเรื้อรัง ก็ลองนำไปปรับใช้ดูนะครับ

 

 

พทป.ชารีฟ หลีอรัญ

(Some images used under license from Shutterstock.com.)





ดูดไขมัน วิธีลดหน้าท้อง สลายไขมันด้วยความเย็น คอเลสเตอรอล วิธีลดไขมันหน้าท้อง ไขมัน วิธีลดพุงผู้หญิง Coolsculpting Elite CoolSculpting vs Emsculpt วิธีลดพุง สลายไขมันต้นขา ลดไขมันหน้าท้อง นวดสลายไขมัน ผลไม้ลดความอ้วน ลดน้ำหนักเร่งด่วน อาหารคลีน กินคลีนลดน้ำหนัก ลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน กินคีโต วิธีลดความอ้วนเร็วที่สุด อาหารลดความอ้วน วิธีลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน วิธีลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน ลดความอ้วนเร่งด่วน ผลไม้ลดน้ำหนัก อาหารเสริมลดความอ้วน วิธีลดความอ้วน เมนูลดความอ้วน วิธีการสลายไขมัน ลดความอ้วน สลายไขมัน ลดน้ำหนัก สูตรลดน้ำหนัก Exilis Elite Thermage Body ออฟฟิศซินโดรม Inbody Vaginal Lift Morpheus Pro Oligio Body IV Drip Emsella เลเซอร์นอนกรน Indiba ปากกาลดน้ำหนัก Emsculpt CoolSculpting บทความดูแลรูปร่างและสุขภาพ บทความกระชับสัดส่วนรูปร่าง บทความน่ารู้ romrawin รมย์รวินท์ ดูดไขมัน ดึงหน้า ตาสองชั้น ทำตาสองชั้น เสริมจมูก ยกคิ้ว เสริมหน้าอก บทความศัลยกรรม วีเนียร์ บทความทันตกรรม สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Fit Firm Emsculpt สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Elite บทความลดน้ำหนัก ดีท็อกลำไส้ EIS BIO SCAN ICELAB IV DRIP ดริปวิตามิน บทความดูแลสุขภาพ Vaginal Lift P-SHOT O-Shot บทความสุขภาพเพศ Meso Hair LLLT ปลูกผมด้วยแสงเลเซอร์ ปลูกผมผู้ชาย ปลูกผมสำหรับผู้หญิง ปลูกผมถาวร ปลูกผม FUE ปลูกผม รักษาผมร่วง บทความรักษาผมร่วง ผมบาง บทความดูแลเส้นผม เลเซอร์รักแร้ขาว เลเซอร์ขน เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนน้องสาว เลเซอร์ขนหน้า เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน เลเซอร์ขนขา เลเซอร์หนวด เลเซอร์เครา เลเซอร์รักแร้ กำจัดขนถาวร เลเซอร์ขน บทความเลเซอร์กำจัดขน เลเซอร์รอยสิว Pico Laser Pico Majesty Pico Majesty Laser Reepot Laser Reepot บทความโปรแกรมหน้าใส NCTF 135 HA Rejuran Belotero Glassy Skin Juvederm Volite Gouri Exosome Harmonyca Profhilo Skinvive Sculptra vs ฟิลเลอร์ Sculptra บทความ Sculptra Radiesse บทความ Radiesse บทความฉีดหน้าใส UltraClear AviClear Laser AviClear Accure Laser Accure บทความโปรแกรมรักษาสิว ฟิลเลอร์คอ ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์มือ ฟิลเลอร์หน้าใส ฟิลเลอร์ร่องแก้มราคา ฟิลเลอร์ยกหน้า ฟิลเลอร์หลุมสิว หลังฉีดฟิลเลอร์กี่วันหายบวม หลังฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ยกมุมปาก ฟิลเลอร์ปากกระจับ ฟิลเลอร์ปาก 1 CC ฟิลเลอร์จมูกราคา ฟิลเลอร์กรอบหน้า ฟิลเลอร์ที่ไหนดี ฟิลเลอร์น้องสาวกี่ CC ฟิลเลอร์ราคา ฟิลเลอร์จมูก ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ฟิลเลอร์แก้มส้ม ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์น้องชาย ฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ บทความฟิลเลอร์ ฉีดโบลดริ้วรอยหางตา ฉีดโบหางตา ฉีดโบลิฟกรอบหน้า ฉีดโบหน้าผาก ฉีดโบยกมุมปาก ฉีดโบปีกจมูก ฉีดโบลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ฉีดโบลดกราม ฉีดโบรักแร้ ฉีดโบลดริ้วรอย ดื้อโบลดริ้วรอย บทความโบลดริ้วรอย Volnewmer Linear Z ยกมุมปาก Morpheus Morpheus8 ลดร่องแก้ม Ultraformer III Ultraformer MPT Emface Hifu ยกกระชับหน้า Ultherapy Prime อัลเทอร่า Ulthera Thermage FLX BLUE Tip Thermage FLX Oligio บทความยกกระชับใบหน้า ร้อยไหมหน้าเรียว ไหมหน้าเรียว ร้อยไหมเหนียง ไหมเหนียง ร้อยไหมยกหางตา ไหมยกหางตา Foxy Eyes ร้อยไหมปีกจมูก ไหมปีกจมูก ร้อยไหมกรอบหน้า ไหมกรอบหน้า ร้อยไหมร่องแก้ม ไหมร่องแก้ม ร้อยไหมก้างปลา ไหมก้างปลา ร้อยไหมคอลลาเจน ไหมคอลลาเจน ร้อยไหมจมูก ร้อยไหม บทความร้อยไหม Apex