
© 2017 Copyright - Haijai.com
แม่จ๋า หนูมาจากไหน
“แม่จ๋า หนูมาจากไหน?” หลังจากงัวเงียตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง เจ้าตัวดีวัย 4 ขวบ ก็เดินมาสะกิดขาคุณแม่ที่กำลังเตรียมอาหารเช้า และถามคำถามง่ายๆ ที่ตอบย้าก ยาก เมื่อเป็นอย่างนี้ คุณแม่อย่างเราจะตอบอย่างไรดีล่ะ
The Good Answer
ตอบด้วยการถามกลับไปว่า “แล้วหนูคิดว่าหนูมาจากไหนล่ะจ๊ะ” วิธีนี้ จะทำให้คุณเข้าใจว่าสิ่งที่ลูกอยากรู้นั้นคืออะไรกันแน่ กรณีที่น่าสนใจคือ คุณแม่ของลูกวัย 5 ขวบ ถูกลูกถามว่า “หนูมาจากไหน” แล้วคุณแม่ก็อธิบายเสียยืดยาวเปรียบเทียบกับ
ลูกนกในรัง แต่สิ่งที่เจ้าตัวเล็กตอบกลับมาคือ “อ๋อ หนูนึกว่าหนูมาจากอยุธยาเสียอีก” ปัญหาก็คือ ผู้ใหญ่มักนำเอากรอบความคิดแบบผู้ใหญ่ไปแปลคำถามของเด็กๆ ซึ่งบางครั้งอาจจะไม่ได้หมายความลึกซึ้งอย่างที่เราคิดกัน การที่คุณถามลูกกลับจะทำให้คุณเข้าใจได้ว่าสิ่งที่ลูกอยากรู้คืออะไร และตอบได้ตรงกับสิ่งที่ลูกอยากรู้
ถ้าสิ่งที่ลูกอยากรู้คือ หนูเกิดมาได้อย่างไร พยายามอธิบายให้ง่ายที่สุด เช่น “ลูกก็เกิดมาจากความรักของพ่อกับแม่ไงจ๊ะ” หากหนูน้อยยังมีคำถามต่อไปอีก คุณก็ควรจะตอบลูกไปตรงๆ ชัดเจน เข้าใจง่าย เพราะสำหรับเด็กวัยนี้เขาถามเพราะต้องการรู้เหตุผล โดยไม่เกี่ยวข้องกับอารมณ์หรือความพึงพอใจแต่อย่างใด หากคุณรู้สึกว่าลูกเริ่มถามลึกเกินไป อย่าดุหรือปฏิเสธลูกโดยสิ้นเชิง คุณต้องเข้าใจว่า นี่เป็นอีกหนึ่งกระบวนการเรียนรู้เหมือนที่หนูน้อยอยากรู้ว่ารถยนต์วิ่งได้อย่างไร สำหรับเจ้าตัวเล็ก หนูมาจากไหน สเปิร์มคืออะไร ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวที่ห้ามพูด แต่ถ้าคุณไม่ต้องการให้ลูกถามลึกเกินไปกว่านี้ ลองหันเหคำถามเกี่ยวกับคุณไปที่ตัวลูก เพื่อให้หนูเข้าใจได้ง่ายขึ้น รวมทั้งคุณอาจใช้โอกาสนี้ สอนลูกเรื่องการดูแลสงวนรักษาร่างกายตัวเองไปได้ด้วย
Bad Answer
จริงอยู่ว่าคุณควรอธิบายให้ลูกฟังตรงๆ ชัดเจน และไม่โกหก แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเล่ารายละเอียดของการมีเซ็กซ์ รวมทั้งไม่ควรบอกลูกว่า คุณเก็บเขามาจากถังขยะ หรือลูกเป็นเด็กที่ถูกนำมาทิ้งไว้หน้าบ้าน อย่าเลี่ยงว่าโตขึ้นก็รู้เอง หรือไม่ใช่เรื่องของเด็ก และไม่ควรตอบคำถามลูกด้วยความเงียบ คุณควรถือว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่จะได้คุยกับลูก และเป็นการสร้างพื้นฐานความไว้วางใจที่เมื่อลูกโตไปก็จะกล้าเปิดใจคุยกับคุณทุกๆ เรื่อง
(Some images used under license from Shutterstock.com.)