
© 2017 Copyright - Haijai.com
การเป็นผู้ใหญ่มันไม่เห็นจะยากเลย
“ก๊อก...แก๊ก...กุก...กัก... เอ้! ใครมาทำอะไรที่หน้าบ้านกันนะ เสียงดังมาถึงในครัวเลย” พอแอบย่องไปดูเท่านั้นล่ะค่ะ โอ๊ะ...โอ...คุณผู้หญิงตัวน้อยนี่เองกำลังขมีขมันใส่รองเท้าส้นสูงของคุณแม่อยู่ คุณเธอดูพยายามอย่างมากจนตัวเอียงซ้าย เอียงขวาดูน่าหวาดเสียวจะตกลงมาซะเหลือเกิน
เมื่อลูกน้อยย่างเข้าสู่วัยเตาะแตะ คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตได้ว่า พฤติกรรมของลูกน้อยนั้นจะแสดงออกมาในลักษณะการเลียนแบบไม่คุณพ่อก็คุณแม่คนใดคนหนึ่ง เพราะฉะนั้นไม่ต้องตกใจหากวันไหนคุณตื่นมาเห็นเจ้าตัวเล็กยืนอยู่หน้ากระจก แล้วเอื้อมเอาลิปสติกเอย แป้งพัฟท์เอยมาละเลงบนใบหน้าน้อยๆ จนเละ และพอเห็นว่าคุณมองเขาอยู่เขาก็จะหันมายิ้มแฉ่งให้ คล้ายๆ จะถามว่าหนูสวยมั้ยคะคุณแม่? หากเป็นลูกสาวคุณแม่ก็จะไม่คิดมากเท่าไร แต่หากเป็นลูกชายล่ะก็ เฮ้ย... ลูกชั้นเบี่ยงเบนรึป่าว? คำถามนี้ก็จะผุดขึ้นมาเป็นอันดับแรกเลยใช่ไหมล่ะคะ แต่อันที่จริงแล้วลูกชายคุณแม่ไม่ได้เบี่ยงเบนหรอกค่ะ แต่เป็นเพราะเขาอาจเห็นคุณแม่ทำสิ่งนี้ทุกเช้าก็เป็นได้ และการที่คุณแม่ทำให้เขาเห็นทุกวันๆ เขาก็จะค่อยๆ ซึมซับและทำตามโดยไม่รู้ตัว การที่ลูกน้อยเลียนแบบพฤติกรรมของคุณแม่แบบนี้เขาเรียกว่า Mirror Neurons หรือ เซลล์กระจกเงาค่ะ
เซลล์กระจกเงาคือ ในสมองมนุษย์เราจะมีเซลล์ชนิดหนึ่งเรียกว่า “เซลล์สมองกระจกเงา” ซึ่งจะตอบสนองต่อการมองเห็น การได้ยิน การเห็นภาพ และการได้กลิ่น เมื่อเรามองเห็นการกระทำนั้นมากๆเข้า ก็จะค่อยๆ ซึมซับ สุดท้ายก็จะเกิดการเลียนแบบโดยไม่รู้ตัว โดยไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งนั้นดีหรือไม่ดี ดังนั้นการที่ลูกชายตื่นขึ้นมาแล้วเห็นคุณแม่แต่งหน้าทาปากทุกเช้าๆ เป็นธรรมดาค่ะที่เขาจะเลียนแบบบ้าง แต่อย่างที่บอกไปเบื้องต้นแล้วว่า ลูกคุณแม่ไม่ได้เบี่ยงเบนอย่างแน่นอนค่ะ ดังนั้นหากคุณแม่เห็นลูกชายเริ่มมาเมียงๆ มองๆ ตอนที่แต่งหน้าอยู่ หรือร้องขอทาลิปสติกบ้าง ก็ให้เบี่ยงเบนความสนใจของลูกในตอนนั้นซะ จากนั้นเวลาจะแต่งหน้าก็ให้แอบแต่งโดยไม่ให้ลูกเห็นอีก เพียงไม่นานเขาก็จะลืมไปเองค่ะ เพราะยังมีเรื่องอะไรๆ อีกเยอะที่สมองของเขาต้องจดจำในชีวิตนี้
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายท่านคงเห็นประโยชน์จากเซลล์สมองกระจกเงาบ้างใช่มั้ยคะ ประโยชน์ที่ว่าก็คือ คงไม่ดีแน่หากลูกเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่ดีจากคุณไป แต่คุณเลือก ได้นี่คะว่าจะให้ลูกเลียนแบบพฤติกรรมที่ดีหรือไม่ดี อย่าลืมว่าคุณพ่อ คุณแม่เป็นคนที่ใกล้ชิดเขามากที่สุด ดังนั้นจึงมีอิทธิพลสำหรับลูกมากเช่นกัน หากเลือกทำแต่สิ่งที่ดีให้ลูกเห็น เช่น ยิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดีทั้งวัน ใจเย็น พูดเพราะ มีน้ำใจ ไม่หวงของ และสิ่งสำคัญคือการแสดงความรักต่อกันและกัน แล้วถ้าเลือกทำแต่สิ่งดีๆ เหล่านี้ มีหรือคะที่ลูกน้อยจะไม่เอาเป็นแบบอย่าง
Good to Know
ในระยะเริ่มแรกทฤษฎีเซลล์กระจกเงาถูกนำมาประยุกต์ใช้ในเรื่องการพัฒนาเด็ก เพราะสมองของเด็กนั้นมีความยืดหยุ่นสูง จึงสามารถปลูกฝังพฤติกรรมที่ดีให้แก่เด็กได้เห็นและทำให้เกิดการลอกเลียนแบบได้ และ ใ นปัจจุบันยังได้นำทฤษฎีเ ซลล์กระจกเงาไปใช้ในการบำบัดรักษาโรคได้อีกด้วย เช่น อัมพาตครึ่งซีกหรือโรคออทิสติก เป็นต้น
(ข้อมูลอ้างอิง เซลล์สมองกระจกเงา ศูนย์ข้อมูลสุขภาพกรุงเทพ)
(Some images used under license from Shutterstock.com.)