© 2017 Copyright - Haijai.com
ถูกงูกัด ทำอย่างไรดี
การถูกงูหรือสัตว์มีพิษกัดไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลยค่ะ การเดินเล่นในสวนหลังบ้าน หรือแม้กระทั่งไปเที่ยวต่างจังหวัด เรามีโอกาสถูกงูกัดได้อยู่ตลอดเวลา การดูแลเบื้องต้นอย่างถูกต้อง ก่อนที่คุณจะมาพบแพทย์จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะช่วยให้ตัวคุณปลอดภัย รวมถึงลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้มากเลยค่ะ
วิธีปฐมพยาบาลเมื่อถูกงูกัด
• ก่อนมาโรงพยาบาลให้ล้างแผลที่ถูกงูกัดด้วยน้ำสะอาดเท่านั้นพอค่ะ ไม่ควรเอามีดกรีด ใช้ไฟจี้ หรือเอาสมุนไพรต่างๆ มาพอกแผล เพราะนอกจากจะเจ็บตัวโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังจะเพิ่มโอกาสที่แผลจะติดเชื้ออีกด้วย
• การดูดพิษงูออกจากแผลเหมือนในโทรทัศน์ไม่ควรทำนะคะ เป็นผลเสียทั้งต่อคนที่ถูกงูกัดและคนที่ดูดพิษค่ะ โดยเพิ่มความเสี่ยงของแผลติดเชื้อ รวมถึงผู้ที่ดูดพิษงูอาจได้รับพิษเข้าสู่ร่างกายไปด้วยอีกคนค่ะ
• ให้บริเวณที่ถูกงูกัดเคลื่อนไหวน้อยที่สุด เพื่อลดการดูดซึมของพิษงูเข้าสู่กระแสเลือด
• การเอาเชือกรัดขันชะเนาะเหนือแผลไม่ควรทำค่ะ เพราะจะทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนนั้นได้น้อยลง เพิ่มโอกาสที่จะเกิดเนื้อตายบริเวณดังกล่าว ถ้ามีเนื้อตายมากอาจจะต้องถูกตัดอวัยวะนั้นออกไปเลย นอกจากนี้การรัดเหนือแผลไม่ได้ทำให้พิษงูซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้น้อยลงค่ะ
• รีบไปพบแพทย์ หากนำงูไปด้วยได้ก็จะช่วยให้ทราบชนิดงูและชนิดของพิษงู ทำให้การรักษาของแพทย์ง่ายขึ้น แต่ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาลุยหญ้าเข้าไปตีงูนะคะ รีบมาโรงพยาบาลดีกว่าค่ะ แพทย์สามารถสังเกตอาการ เจาะเลือด และให้การรักษาได้ ที่สำคัญจะจะได้ไม่ต้องมีคนเสี่ยงถูกงูกัดเพิ่มขึ้นอีกคนค่ะ
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลจะมีขั้นตอนการรักษาโดยการเจาะเลือดตรวจ และอาจต้องมีการนอนโรงพยาบาลเพื่อติดตามอาการ หากมีอาการผิดปกติแพทย์จะพิจารณาให้เซรุ่มแก้พิษงูต่อไป
ทางที่ดีหมอแนะนำให้ทุกคนระมัดระวังการเดินเข้าไปในที่รก พงหญ้า รวมถึงอยากให้จัดบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะบ่อยครั้งหมอเจอคนไข้ถูกงูกัดในบริเวณบ้านตนเอง จึงอยากให้ทุกคนดูแลบ้านให้ปลอดภัยจากสัตว์มีพิษต่างๆ ที่อาจมาทำร้ายเราได้ด้วยค่ะ
พญ.จิรัชญา บุญดีกุล
(Some images used under license from Shutterstock.com.)