Haijai.com


ดื่มน้ำเพื่อผิวสวย


 
เปิดอ่าน 2396

ดื่มน้ำเพื่อผิวสวย

 

 

หนังสือ “กิน” น้ำชะลอวัย โดย นายแพทย์ฮาวเวิร์ด มูราด อธิบายว่า ผิวหนังประกอบด้วยน้ำประมาณร้อยละ 70 เนื่องจากมีคุณสมบัติคล้ายฟองน้ำ ซึ่งช่วยในการดูดซับน้ำและสิ่งต่างๆ ภายนอกที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบ ผิวหนังจึงสามารถดูดพลังงานจากรังสียูวีในปริมาณที่พอเหมาะสำหรับการสร้างวิตามินดี หรืออาจดูดซับรังสียูวีเข้ามามากเกินไป จนอาจเกิดความเสียหายารุนแรงต่อผิวได้

 

 

ผิวยังสามารถปรับตัวเองตามสิ่งที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย ทั้งนี้ยังต้องต่อสู้เพื่อขับไล่เชื้อโรค ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ระบายความร้อนและช่วยให้ร่างกายเก็บน้ำไว้ได้

 

 

หากเราได้รับน้ำเข้าสู่เซลล์ในปริมาณมาก ผิวพรรณก็จะดูดี นอกจากนี้ยังพบว่า เวลาที่พูดถึงความแก่ภายนอก เรากำลังพูดถึงคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งช่วยให้ผิวยืดหยุ่น กระชับ สดใส หากคุณได้รับน้ำไม่เพียงพอ เมื่อเวลาผ่านไปเส้นใยเหล่านี้ก็จะสูญเสียน้ำจนแห้งและเปราะ ทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่น เยื่อหุ้มเซลล์และชิ้นส่วนต่างๆ ภายในเซลล์ที่เรียกว่าอวัยวะเซลล์ก็จะไม่แข็งแรง ยิ่งแก่ตัวลงเซลล์ชั้นนอกสุดของหนังกำพร้าก็จะพรุน ง่ายต่อการเกิดปัญหาผิว

 

 

ทั้งนี้การรักษาน้ำให้คงอยู่ภายในเซลล์จึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการดื่มน้ำจะช่วยให้ร่างกายรักษาสมดุลได้

 

 

เช็กน้ำในอาหาร

 

หนังสือ  อาหารต้านวัย ต้านโรค โดย ศัลยา คงสมบูรณ์เวช สำนักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพ แนะนำอาหารที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบไว้ดังนี้

 

 

ปริมาณน้ำในอาหาร

ชนิด

เปอร์เซ็นต์น้ำ (น้ำหนัก)

ผักสลัดแก้ว (1/2 ถ้วย)

95

แตงโม (1/2 ถ้วย)

92

บรอกโคลี (1/2 ถ้วย)

91

เกรปฟรุต (1/2 ผล)

91

น้ำส้มคั้น (180 มิลลิลิตร)

88

แครอต (1/2 ถ้วย)

87

แอ๊ปเปิ้ล (1 ผลกลาง)

84

 

 

How to ดื่มน้ำเพื่อผิวสวย

 

นายแพทย์จูลิวส์ ฟิว ผู้อำนวยการสถาบันเสริมความงาม The Few Institute แนะนำว่า “ควรดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว โดยต้องค่อยๆ ดื่มให้ครบจำนวนแก้วในหนึ่งวัน”

 

 

ส่วน คุณเอกหทัย แซ่เตีย นักกำหนดอาหารหัวหน้านักวิชาการด้านโภชนาการ สถานบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ แนะนำว่า “ควรดื่มน้ำวันละ 1,500-2,00 มิลลิลิตร เป็นน้ำอุณหภูมิห้องจะดีที่สุด โดยค่อยๆ ดื่มตลอดทั้งวันไม่แนะนำให้ดื่มปริมาณมากก่อนนอน เพราะจะทำให้ต้องตื่นขึ้นมาปัสสาวะกลางดึก ซึ่งส่งผลเสียต่อการนอนหลับลึก”

 

 

หนังสือ อาหารต้านวัย ต้านโรค โดย ศัลยา คงสมบูรณ์เวช แนะนำว่า “หากกระหายน้ำ แต่ยังไม่มีอาการขาดน้ำ ควรดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้ (ไม่เติมน้ำตาล) ช้าๆ จนกระทั่งอาการกระหายน้ำหายไป”

 

 

นอกจากนี้ควรกินผลไม้วันละ 2-3 ส่วน เช่น กล้วย เพื่อชดเชยเกลือแร่ที่สูญเสียไป ผักผลไม้มากมายหลายชนิดที่มีน้ำอยู่ในตัวก็ใช้ทดแทนการดื่มน้ำได้

(Some images used under license from Shutterstock.com.)