Haijai.com


โบทูลินัมท็อกซิน ยาพิษยอดฮิตของผู้หญิง


 
เปิดอ่าน 3680

โบทูลินัมท็อกซิน ยาพิษยอดฮิตของผู้หญิง

 

 

ผู้หญิงส่วนใหญ่ในโลกทุกวันนี้ต่างก็รู้จักโบทูลินัมท็อกซิน (Botulinum toxin) กันทั้งนั้น ถ้าไม่เคยใช้ ไม่เคยอ่านเจอ ก็คงจะเคยได้ยินเขาพูดคุยกันบ้าง เช่น ในร้างเสริมสวย ร้านกาแฟ หรือลานแอโรบิค นับว่าเป็นเรื่องแปลกที่โบทูลินัมท็อกซินเป็นยาพิษที่ร้ายแรงที่สุด แต่ผู้หญิงกลับชอบ คือ ชอบไปให้เขาฉีดยานี้ให้หน้าสวย เนื่องจากความสวยไม่เข้าใครออกใคร คือ มันเข้าแล้วไม่ออก จึงต้องฉีดกันให้สวยสุดซอยไปเลย

 

 

โบทูลินัมท็อกซิน หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในชื่อทางการค้าว่าโบท็อกซ์ ถูกผลิตในธรรมชาติโดยเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Clostridium botulinum สารตัวนี้มีฤทธิ์ต้านการส่งผ่านสัญญาณประสาทตรงรอยต่อของปลายประสาทที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ ทำให้สัญญาณผ่านไม่ได้ กล้ามเนื้อจึงไม่ทำงาน คือ เป็นอัมพาต กล้ามเนื้อเป็นพัมพาตแล้วดีตรงไหน?

 

 

คำตอบคือ ดีสิครับ ถ้าคุณคิดให้ลึกเหมือนจักษุแพทย์คนหนึ่งที่ชื่อว่า แอแลน บี.สก๊อต (Alan B.Scott) ซึ่งเป็นคนแรกที่เอายาพิษตัวนี้มาใช้ฉีดรักษาโรคตาเหล่ หรือตาเข (ภาษาแพทย์เรียกว่า strabismus ชาวบ้านเรียกว่า crossedeye) ขณะที่หมอสก๊อตรักษาคนไข้ตาเขอยู่ เขาก็สังเกตเห็นว่าภาวะหนังตาตก รวมทั้งริ้วรอยตีนกาและหน้าผากย่นมันหายไปด้วย การค้นพบนี้เป็นการค้นพบที่สำคัญ เป็นสิ่งที่ทำให้คนอื่นร่ำรวยมหาศาล แต่คนค้นพบไม่ได้ร่ำรวย เพราะเป็นหมอตาที่ไม่มีตาการค้า

 

 

ปกติรอบตาเรามีกล้ามเนื้อที่เรียกว่า Orbicularis Oculi คือ กล้ามเนื้อที่เมื่อทำงานแล้ว จะทำหน้าที่ปิดตาเหมือนกล้ามเนื้อหูรูดของตา ทำให้ผิวหนังรอบตายู่เข้าหากัน เมื่อเราทำให้กล้ามเนื้อนี้เป็นอัมพาตโดยการฉีดโบทูลินัมท็อกซินจำนวนน้อยๆ เข้าไปที่กล้ามเนื้อ มันก็จะทำงานได้น้อย มีผลให้ผิวหนังรอบตาไม่ยู่ ไม่เหี่ยวย่น ไม่เห็นตีนกา ผลอย่างเดียวกันก็เกิดขึ้นกับรอบย่นที่หน้าผาก ถ้าเราฉีดยาตัวนี้เข้ากล้ามเนื้อหน้าผาก สรุปแล้วหน้าก็จะดูเต่งตึงขึ้น สวยขึ้น โดยไม่ต้องไปทำศัลยกรรมดึงหน้า ยาพิษตัวนี้มีผลอยู่ได้ยาวนาน 3-6 เดือน

 

 

ยาโบทูลินัมท็อกซินได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1989 โดยอนุมัติให้ใช้รักษาโรคตาเข แต่หมอมากมายเอาไปใช้นอกอนุมัติ ที่เขาเรียกว่า off-label use ใช้กันมากเข้าจนต่อมา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐอเมริกา จึงอนุมัติให้ใช้รักษาตีนกาหน้าผากย่นด้วยในปี ค.ศ.2002 หลังจากนั้นตลาดการใช้ยาตัวนี้ก็ขยายราวระเบิดปรมาณู เพิ่มยอดขาย 759% ปี ค.ศ.2001 มียอดขาย 310 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พอถึงปี ค.ศ.2013 ยอดขายไปอยู่ที่ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

 

เชื่อหรือไม่ โบทูลินัมท็อกซินส่งผลต่อวัฒนธรรม

 

โบทูลินัมท็อกซินไม่เพียงแต่เปลี่ยนวิธีการเสริมสวยลดหน้าเหี่ยวย่นเท่านั้น แต่ยังมีผลในการเปลี่ยนแปลงด้านวัฒนธรรมอีกด้วย ทำให้เกิดงานปาร์ตี้โบท็อกซ์ ทั้งยังกลายเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็พูดถึงกัน กลายเป็น talk of the town แม้แต่ในหนังอย่างเซ็กส์แอนด์เดอะซิตี้ก็มีบทสนทนา โดยใช้คำว่าโบท็อกซ์ในบทสนทนาด้วย

 

 

อย่างไรก็ตามโบทูลินัมท็อกซินเป็นยาพิษ ใช้ผิดขนาด ผิดที่ ก็จะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่อาจจะร้ายแรงถึงแก่ชีวิตได้ ในการทำอาหารกระป๋องที่ไม่ถูกสุขลักษณะมีเชื้อโรคแปดเปื้อนจะทำให้เกิดปัยหา เพราะในกระป๋องเป็นสูญญากาศ เป็นภาวะแวดล้อมที่ขาดออกซิเจน ซึ่งเชื้อ Clostridium botulinum ชอบและเจริญได้ดี เมื่อมันแบ่งตัวเจริญงอกงามก็จะสร้างสารพิษโบทูลินัมท็อกซิน พร้อมกับผลิตก๊าซออกมา ทำให้กระป๋องบวมเพราะความดันของก๊าซ อาหารกระป๋องที่เข้าลักษระนี้ต้องระวัง ห้ามกิน ถ้ากินเข้าไปจะเกิดพิษต่อระบประสาท เกิดอาการ เช่น มองเห็นภาพซ้อน กลืนลำบาก หรือหายใจไม่ออก ถึงตายได้ เคยมีคนตายมาแล้ว การฉีดสารโบทูลินัมท็อกซินก็เหมือนกัน ถ้าฉีดเกินขนาดอาจทำให้เกิดพิษกระจายไปนอกเหนือจากบริเวณที่เราตั้งใจจะให้เกิดผล เช่น จะฉีดรักษาหน้าย่นก็อาจจะเกิดอัมพาตของกล้ามเนื้ออื่นจนมีเรื่องถึงกับมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกันมาแล้วในต่างประเทศ

 

 

การใช้ยานอกอนุมัติ หรือ off-label เป็นสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมาย แต่ต้องระวังเพราะสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาไม่รับรอง เพียงแต่เขารับรองอนุมัติให้ใช้ในข้อบ่งชี้จำเพาะอย่างที่มีข้อมูลประจักษ์สนับสนุน การใช้นอกอนุมัติจึงเชื่อได้อย่างเดียวคือ มีข้อมูลเรื่องความปลอดภัย การใช้ยา off-label เกิดจากหมอที่คิดหาทางรักษาคนไข้ที่วิธีรักษาอย่างอื่นไม่ได้ผลแล้วต้องการลองโบทูลินัมท็อกซิน ซึ่งการใช้โบทูลินัมท็อกซินแบบ off-label มีมากขึ้นเรื่อยๆ จนในปัจจุบันมันเป็นตัวทำตลาดประมาณครึ่งหนึ่งของตลาดโบทูลินัมท็อกซินทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะตลาดเสริมความงามอย่างเดียวอีกต่อไป

 

 

โรคที่ลองใช้โบทูลินัมท็อกซินแล้วต่อมาได้รับการอนุมัติ ได้แก่ ตาเข (cervical dystonia), เหงื่อออกใต้รักแร้มาก (severe underarm sweating), แขนเกร็ง (upper-limb spasticity), โรคปวดหัวข้างเดียว (chronic migraine), ปัสสาวะบ่อย (overactive bladder), ขาเกร็ง (lower-limb spasticity), หน้าเหี่ยวย่น (facial wrinkles)

 

 

โรคอื่นที่มีการลองใช้โบทูลินัมท็อกซินยังมีอีกมาก เช่น โรคแผลในช่องทวารหนัก (anal fissure), โรคหลอดอาหารเกร็งไม่เปิดออก (achalasia), มือเย็น, ขากรรไกรค้าง, ปวดหลัง, ปวดจากร่วมเพศ หลั่งเร็ว (ล่มปากอ่าว), โรคพาร์กินสัน, กัดฟันเวลานอน, น้ำลายไหล, โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิด atrial fibrillation ขณะทำการผ่าตัดหัวใจ และล่าสุดคือการใช้โบทูลินัมท็อกซินฉีดหน้าผาก เพื่อรักษาโรคซึมเศร้า ต่อไปถ้า 2 ข้อบ่งชี้หลังนี้ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐอเมริกา จะทำให้ยอดขายพุ่งทะลุเพดานตลาดหุ้นขึ้นไปเป็นแน่

 

 

โบทูลินัมท็อกซินซึ่งเป็นยาพิษชนิดร้ายแรงที่สุด แต่มีคนนิยมใช้มากที่สุดอย่างหนึ่ง ในช่วงเวลาประมาณ 25 ปี ที่มีการใช้ในการรักษาคนไข้ มีบทความวิจัยเขียนถึงยาพิษชนิดนี้ ทั้งในวารสารวิทยาศาสตร์และวารสารการแพทย์มากถึง 3,200 บทความ มากมายมหาศาล เป็นปรากฏการณ์ที่หายากอย่างหนึ่ง

 

 

นพ.นริศ เจนวิริยะ

ศัลยแพทย์

(Some images used under license from Shutterstock.com.)





ดูดไขมัน วิธีลดหน้าท้อง สลายไขมันด้วยความเย็น คอเลสเตอรอล วิธีลดไขมันหน้าท้อง ไขมัน วิธีลดพุงผู้หญิง Coolsculpting Elite CoolSculpting vs Emsculpt วิธีลดพุง สลายไขมันต้นขา ลดไขมันหน้าท้อง นวดสลายไขมัน ผลไม้ลดความอ้วน ลดน้ำหนักเร่งด่วน อาหารคลีน กินคลีนลดน้ำหนัก ลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน กินคีโต วิธีลดความอ้วนเร็วที่สุด อาหารลดความอ้วน วิธีลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน วิธีลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน ลดความอ้วนเร่งด่วน ผลไม้ลดน้ำหนัก อาหารเสริมลดความอ้วน วิธีลดความอ้วน เมนูลดความอ้วน วิธีการสลายไขมัน ลดความอ้วน สลายไขมัน ลดน้ำหนัก สูตรลดน้ำหนัก Exilis Elite Thermage Body ออฟฟิศซินโดรม Inbody Vaginal Lift Morpheus Pro Oligio Body IV Drip Emsella เลเซอร์นอนกรน Indiba ปากกาลดน้ำหนัก Emsculpt CoolSculpting บทความดูแลรูปร่างและสุขภาพ บทความกระชับสัดส่วนรูปร่าง บทความน่ารู้ romrawin รมย์รวินท์ ดูดไขมัน ดึงหน้า ตาสองชั้น ทำตาสองชั้น เสริมจมูก ยกคิ้ว เสริมหน้าอก บทความศัลยกรรม วีเนียร์ บทความทันตกรรม สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Fit Firm Emsculpt สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Elite บทความลดน้ำหนัก ดีท็อกลำไส้ EIS BIO SCAN ICELAB IV DRIP ดริปวิตามิน บทความดูแลสุขภาพ Vaginal Lift P-SHOT O-Shot บทความสุขภาพเพศ Meso Hair LLLT ปลูกผมด้วยแสงเลเซอร์ ปลูกผมผู้ชาย ปลูกผมสำหรับผู้หญิง ปลูกผมถาวร ปลูกผม FUE ปลูกผม รักษาผมร่วง บทความรักษาผมร่วง ผมบาง บทความดูแลเส้นผม เลเซอร์รักแร้ขาว เลเซอร์ขน เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนน้องสาว เลเซอร์ขนหน้า เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน เลเซอร์ขนขา เลเซอร์หนวด เลเซอร์เครา เลเซอร์รักแร้ กำจัดขนถาวร เลเซอร์ขน บทความเลเซอร์กำจัดขน เลเซอร์รอยสิว Pico Laser Pico Majesty Pico Majesty Laser Reepot Laser Reepot บทความโปรแกรมหน้าใส NCTF 135 HA Rejuran Belotero Glassy Skin Juvederm Volite Gouri Exosome Harmonyca Profhilo Skinvive Sculptra vs ฟิลเลอร์ Sculptra บทความ Sculptra Radiesse บทความ Radiesse บทความฉีดหน้าใส UltraClear AviClear Laser AviClear Accure Laser Accure บทความโปรแกรมรักษาสิว ฟิลเลอร์คอ ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์มือ ฟิลเลอร์หน้าใส ฟิลเลอร์ร่องแก้มราคา ฟิลเลอร์ยกหน้า ฟิลเลอร์หลุมสิว หลังฉีดฟิลเลอร์กี่วันหายบวม หลังฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ยกมุมปาก ฟิลเลอร์ปากกระจับ ฟิลเลอร์ปาก 1 CC ฟิลเลอร์จมูกราคา ฟิลเลอร์กรอบหน้า ฟิลเลอร์ที่ไหนดี ฟิลเลอร์น้องสาวกี่ CC ฟิลเลอร์ราคา ฟิลเลอร์จมูก ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ฟิลเลอร์แก้มส้ม ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์น้องชาย ฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ บทความฟิลเลอร์ ฉีดโบลดริ้วรอยหางตา ฉีดโบหางตา ฉีดโบลิฟกรอบหน้า ฉีดโบหน้าผาก ฉีดโบยกมุมปาก ฉีดโบปีกจมูก ฉีดโบลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ฉีดโบลดกราม ฉีดโบรักแร้ ฉีดโบลดริ้วรอย ดื้อโบลดริ้วรอย บทความโบลดริ้วรอย Volnewmer Linear Z ยกมุมปาก Morpheus Morpheus8 ลดร่องแก้ม Ultraformer III Ultraformer MPT Emface Hifu ยกกระชับหน้า Ultherapy Prime อัลเทอร่า Ulthera Thermage FLX BLUE Tip Thermage FLX Oligio บทความยกกระชับใบหน้า ร้อยไหมหน้าเรียว ไหมหน้าเรียว ร้อยไหมเหนียง ไหมเหนียง ร้อยไหมยกหางตา ไหมยกหางตา Foxy Eyes ร้อยไหมปีกจมูก ไหมปีกจมูก ร้อยไหมกรอบหน้า ไหมกรอบหน้า ร้อยไหมร่องแก้ม ไหมร่องแก้ม ร้อยไหมก้างปลา ไหมก้างปลา ร้อยไหมคอลลาเจน ไหมคอลลาเจน ร้อยไหมจมูก ร้อยไหม บทความร้อยไหม Apex