© 2017 Copyright - Haijai.com
บุหรี่ไอระเหย มีความเสี่ยงน้อยกว่า
เป็นที่รู้กันทั่วไปแล้วว่า การสูบบุหรี่ทำให้เกิดผลเสียมากมาย เช่น มะเร็งปอด ถุงลมโป่งพอง โรคหัวใจและหลอดเลือดมะเร็งกล่องเสียง มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งเต้านม ฯลฯ เมื่อไม่นานมานี้มีการศึกษาโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยลอนดอน ตีพิมพ์ในวารสาร Annals of Internal Medicine พบว่า การสูบบุหรี่ไอระเหยหรือ e-cigarette มีพิษภัยน้อยกว่าการสูบบุหรี่ธรรมดา
การศึกษาได้กล่าวถึงข้างต้นเป็นการศึกษาเปรียบเทียบสารพิษในน้ำลาย และปัสสาวะของคนที่สูบบุหรี่ธรรมดา คนสูบบุหรี่ไอระเหย และคนที่ใช้สารนิโคตินทดแทน (NRT) เช่น หมากฝรั่งหรือแผ่นแปะนิโคติน โดยนักวิจัยพบว่าคนที่เปลี่ยนจากการสูบบุหรี่ธรรมดามาสูบ e-cigs หรือใช้สารนิโคตินทดแทน (NRT) เป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน ตรวจพบสารพิษในน้ำลายและปัสสาวะน้อยกว่าคนสูบบุหรี่ธรรมดา และคนที่เปลี่ยนจากการสูบบุหรี่ธรรมดาเป็น e-cigs หรือ NRT อย่างถาวรมีสารพิษหรือสารก่อมะเร็งน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนคนที่ไม่งดการสูบบุหรี่ธรรมดาอย่างเต็มพิกัด คือ สูบสลับไปมา จะไม่ได้ผลดี คือสารก่อมะเร็งไม่ลดลง ดังนั้น การเลิกบุหรี่ธรรมดาต้องเลิกจริงๆ ไปเลย ไม่ใช่ลดหรือละเป็นครั้งคราว
การศึกษานี้บ่งชี้ว่าการสูบ e-cigs หรือ NRT เป็นเวลานานมีผลเสียต่ำ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่าการสูบบุหรี่ไอระเหยมีผลเสียน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดา แต่หลายคนกลัวว่าการสูบบุหรี่ไอระเหยจะเป็นประตูนำไปสู่การสูบบุหรี่ธรรมดา กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯ จึงได้เสนอให้สภาสหรัฐฯ ขึ้นภาษี e-cigs เมื่อไม่นานมานี้ เพื่อเป็นการป้องปรามการสูบบุหรี่ไอระเหย (ทำให้คณะรัญมนตรีไทยรีบด่วน ห้ามคนไทยใช้บุหรี่ไอระเหยไปเลย) อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า การสูบบุหรี่ธรรมดาคร่าชีวิตคนปีละ 6 ล้านคน กระทรวงสาธารณสุขไทยจึงควรนำเอาบุหรี่ไอระเหยมาใช้ เพื่อช่วยในการเลิกการสูบบุหรี่ ซึ่งจะมีผลดีต่อการสาธารณสุขไทยในอนาคต
(Some images used under license from Shutterstock.com.)