
© 2017 Copyright - Haijai.com
Honey : The Sweet Truth Revealed
เปิดเผยความจริงของ “น้ำผึ้ง” หวานดี หรือไม่ดี?
เมื่อน้ำตาลกลายเป็นความหวานที่ควรเลี่ยง และถูกจำกัดปริมาณ คนรักสุขภาพจึงพยายามหาความหวานในรูปแบบอื่นๆ มาเติมเต็มรสชาติ เป็นทางเลือกใหม่ๆ โดยความหวานธรรมชาติอันดับแรกๆ ที่ถูกนึกถึงก็คือ “น้ำผึ้ง” ที่นอกจากให้รสชาติหวานแล้ว ยังมีประโยชน์กับสุขภาพอย่างมาก
จุดกำเนิดความหวานของน้ำผึ้งเกิดจาก ผึ้งได้ความหวานจากเกสรดอกไม้ โดยนำเอาของเหลวรสหวาน ผลิตขึ้นมาจากดอกไม้ที่เรียกว่าน้ำต้อย (Nectar) ดูดมาเก็บไว้ที่กระเพาะพักน้ำผึ้ง (Honey Stomach) ซึ่งในนี้จะมีเอนไซม์จากต่อมน้ำลาย คือ เอนไซม์อินเวอร์เทส (Invertase) ที่ทำให้น้ำหวานจากดอกไม้นั้น เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและเคมี ซึ่งผึ้งงานจะนำน้ำหวานนี้มาบรรจุไว้ในหลอดรวมน้ำผึ้ง ซึ่งเป็นแหล่งกักเก็บพลังงานอาหารหลักภายในรังผึ้ง
น้ำผึ้งมีสารประกอบหลักคือ ฟรุกโทสประมาณ 48% และกลูโคสราว 31% โดยแต่ละองค์ประกอบขึ้นอยู่กับชนิดดอกไม้ที่ผึ้งใช้ผลิตน้ำผึ้ง โดยน้ำผึ้งถือเป็นน้ำตาลธรรมชาติที่มีวิตามิน แร่ธาตุ รวมถึงสารประกอบต่างๆ ที่ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สร้างคุณประโยชน์ดีๆ ให้กับร่างกาย
3 คุณค่าสำคัญของน้ำผึ้ง
1.เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายในแบบธรรมชาติ
ประโยชน์ของน้ำผึ้งนอกเหนือไปจากรสชาติที่หวานละมุนแล้ว ยังเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ที่ช่วยสร้างความแข็งแรงและให้พลังงานกับร่างกาย เป็นที่รู้กันดีว่า น้ำผึ้งมีประสิทธิภาพในการสร้างเสริมความอดทนและลดความอ่อนล้าให้กับกล้ามเนื้อ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักกีฬาที่ต้องใช้พลังงานของร่างกาย และแรงจากกล้ามเนื้อมาเป็นพิเศษ ซึ่งน้ำตาลธรรมชาติที่ดีของน้ำผึ้งมีบทบาทสำคัญในการป้องกันความเมื่อยล้า ระหว่างการออกกำลังกาย ลดการอักเสบและบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ น้ำตาลกลูโคสจากน้ำผึ้งสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว และช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายให้สามารถนำไปใช้ได้ทันที นอกจากนี้ยังพบว่าน้ำผึ้ง ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ เมื่อเทียบกับน้ำตาลประเภทอื่นๆ
2.สร้างระบบภูมิคุ้มกัน
ในบรรดาคุณประโยชน์มากมายของน้ำผึ้ง คือ ประสิทธิภาพในเรื่องของการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน รู้หรือไม่ว่าน้ำผึ้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและต้านเชื้อแบคทีเรียป้องกันอาการท้องผูก ทำให้มีสุขภาพดีร่างกายแข็งแรงและต่อสู้กับโรคต่างๆ ได้ดีขึ้น
เริ่มต้นวันใหม่ในทุกเช้าด้วยน้ำผึ้งที่เปรียบเสมือนยาเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย โดยอาจรับประทานในช่วงก่อนอาหารเช้า ผสมน้ำผึ้งหนึ่งช้อนและน้ำมะนาวครึ่งถ้วยลงในน้ำอุ่น เป็นเครื่องดื่มอันแสนง่ายที่คุณก็สามารถทำไดในมื้อเช้า
3.น้ำผึ้งเปรียบเสมือนยาต้านมะเร็ง
หลายคนอาจสงสัยว่า น้ำผึ้งมีคุณสมบัติในการป้องกันมะเร็ง สารป้องกันการก่อมะเร็งจริงหรือไม่ จากข้อมูลการศึกษาชี้ว่า บทบาทของน้ำผึ้งที่มีศักยภาพในการต้านอนุมูลอิสระป้องกันการเกิดเนื้องอกและมะเร็ง
น้ำผึ้งกับประโยชน์ในแต่ละด้าน
• น้ำผึ้งช่วยบรรเทาอาการอักเสบต่างๆ รวมถึงแผลที่เกิดจากการโดนความร้อน
นับพันๆ ปีแล้ว ที่มีการยอมรับในการนำน้ำผึ้งมาช่วยในการรักษาแผลอักเสบ รวมถึงโรคอื่นๆ รวมทั้งแผลที่เกิดจากการติดเชื้อจาแบคทีเรีย นอกจากนี้เท้าของนักกีฬาที่ต้องประสบปัญหากับอาการปวดข้อ หรือข้ออักเสบ น้ำผึ้งจะมีคุณสมบัติเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อตามธรรมชาติ ที่จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียบางชนิด และช่วยให้บาดแผลสะอาดและปลอดเชื้อ
น้ำผึ้งถูกนำมาใช้เป็นยารักษาโรคแบบที่เรียกว่าธรรมชาติบำบัด เพื่อช่วยในการปฐมพยาบาลบาดแผลไหม้ ช่วยในการบำบัดและต้านเชื้อแบคทีเรีย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ต้านการอักเสบ ลดอาการปวดบวม รวมถึงรอยแผลเป็น
• แก้อาการเมาค้าง
หากมีอาการเมาค้างจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป อาจใช้น้ำผึ้งแก้อาการแฮงค์ได้ เพราะน้ำผึ้งอ่อนโยนต่อกระเพาะอาหาร และมีส่วนผสมของน้ำตาลฟรุกโตสธรรมชาติ ช่วยเพิ่มการเผาผลาญแอลกอฮอล์ โดยอาจทำตามสูตรนี้คือ น้ำผึ้ง 15 มิลลิลิตร น้ำผลไม้สีส้ม 80 มิลลิลิตร และโยเกิร์ตธรรมชาติ 70 มิลลิลิตร ผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วดื่มแก้อาการแฮงค์ได้
• แก้อาการเจ็บคอ
น้ำผึ้ง สามารถที่จะช่วยรักษาอาการเจ็บคอ มีคุณสมบัติของยาต้านจุลชีพ น้ำผึ้งไม่เพียงแต่บรรเทาลำคอ แต่ยังสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางอย่างที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ นักร้องมืออาชีพมักใช้น้ำผึ้ง เพื่อบรรเทาลำคอของพวกเขาก่อนที่จะแสดง
ประเทศจีนเชื่อว่าอาการไข้ที่มีความร้อนภายในร่างกาย ทำให้เกิดอาการเจ็บคอ และการดื่มน้ำผึ้งจะช่วยลดความร้อนในร่างกายและบรรเทาอาการเจ็บคอ โดยอาจใช้น้ำผึ้ง 4 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำมะนาวกับเกลือนิดหน่อยผสมกัน หรืออาจใช้น้ำอุ่นผสมกับน้ำผึ้งมานูก้า ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันเชื้อแบคทีเรียได้ดี ก็เป็นการช่วยบรรเทาอาการเจ็บคออีกทางหนึ่ง
เคล็ดลับดูแลสุขภาพด้วยน้ำผึ้ง
1.ก่อนออกกำลังกาย การดื่มน้ำผสมน้ำผึ้งเพียง 1 ช้อน ช่วยเพิ่มพลังให้กับการออกกำลังกาย
2.ถ้าคุณรู้สึกถึงอาการเชื่องซึม หรือร่างกายไม่ค่อยสดชื่นในตอนเช้า นำน้ำผึ้งทาบนขนมปังนุ่มๆ หรือใส่น้ำผึ้งแทนน้ำตาลในชา หรือกาแฟแทน จะช่วยสร้างความสดชื่นให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี รวมถึงร่างกายรับรู้ได้ถึงความกระปรี้กระเปร่า
3.สำหรับเด็กๆ ที่ต้องใช้พลังงานเพื่อเป็นการรับมือกับการทำกิจกรรมที่โรงเรียน คุณพ่อคุณแม่อาจเตรียมความพร้อมด้วยการให้ลูกรักรับประทานน้ำผึ้ง โดยนำน้ำผึ้งมาทาบางๆ บนขนมปัง รับประทนเป็นแซนต์วิช โดยอาจรับประทานพร้อมกับขนมปังเนยและแฮม เพื่อที่เด็กๆ จะได้มีพลังงานเพียงพอในการใช้ชีวิตประจำวันได้ตลอดทั้งวัน และเพื่อการพักผ่อนนอนหลับที่ดีที่สุดในช่วงเวลากลางคืน อาจให้เด็กๆ รับประทานน้ำอุ่นผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนก่อนนอนเป็นประจำ จะช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น ทั้งยังเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับร่างกาย
(Some images used under license from Shutterstock.com.)