
© 2017 Copyright - Haijai.com
สารต้านอนุมูลอิสระ เร่งมะเร็งไฝดำ
ทฤษฎีอนุมูลอิสระมีมานานกว่า 50 ปีแล้ว และสารที่คิดกันว่าสามารถต้านอนุมูลอิสระที่มีใช้อยู่ในปัจจุบันนั้น ยังไม่มีอะไรได้ผลตามทฤษฎี แต่กลับมีผลในทางตรงกันข้าม ดังรายงานการทดลองเกี่ยวกับมะเร็งไฝดำของมหาวิทยาลัยเท็กซัสเซาท์เวสเทอร์น ตีพิมพ์ในวารสาร Nature
นักวิจัยได้ทำการทดลองโดยการนำมะเร็งไฝดำ (melanoma) ของคนไปปลูกในหนู (มะเร็งไฝดำเป็นมะเร็งชนิดร้ายกาจอย่างหนึ่ง มักแพร่กระจายไปทำลายอวัยวะต่างๆ จนผู้ป่วยเสียชีวิต) จากนั้นจึงให้สารต้านอนุมูลอิสระชื่อ N-acetycysteine (NAC) ซึ่งผลปรากฏว่า มะเร็งไฝดำในหนูที่ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระชนิดนี้เข้าไป จะแพร่กระจายเร็วกว่าหนูที่ไม่ได้รับ ซึ่งโดยทฤษฎีสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถป้องกันความเสียหายของสารพันธุกรรม (DNA) จากการทำลายของอนุมูลอิสระ ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ สามารถพบได้ในธรรมชาติ เช่น ผักและผลไม้
ผู้ทดลองกล่าวว่า ผลการทดลองนี้บ่งชี้ว่าสารต้านอนุมูลอิสระส่งเสริมหรือเร่งการแพร่กระจายของมะเร็ง (อย่างน้อยก็มะเร็งไฝดำ) และดูเหมือนว่า สารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยเซลล์มะเร็งต่อสู้กับสารในร่างกายที่ต่อต้านการแพร่กระจายของมะเร็ง แม้การทดลองนี้จะยังไม่ได้ทำในคน แต่ผู้วิจัยได้แนะนำว่า ผู้ป่วยมะเร็งไม่ควรซื้อสารต้านอนุมูลอิสระมากินเองตามคำโฆษณา
ปัจจุบันความเชื่อเรื่องสารต้านอนุมูลอิสระว่า สามารถต้านมะเร็งได้แพร่หลายออกไปมาก จนมีการทดลองให้สารนี้ในผู้ป่วยมะเร็งในทางคลินิก (การรักษาผู้ป่วย) การทดลองลักษณะนี้บางรายต้องยุติลง เนื่องจากผลเบื้องต้นบ่งชี้ว่า ผู้ป่วยที่ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระเสียชีวิตเร็วกว่า
จากผลการทดลองที่สวีเดนก่อนหน้านี้พบว่า สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินอี ทำให้เซลล์มะเร็งเพิ่มขึ้น 3 เท่า และทำให้หนูตายเร็วขึ้น 2 เท่าของหนูที่ไม่ได้รับสารนี้ และการศึกษาก่อนหน้านี้ก็พบผลลบในโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก โรคหัวใจ และโรคมะเร็งปอดบางชนิด
ทฤษฎีอนุมูลอิสระหรือสารต้านอนุมูลอิสระนับวันจะโรยราลงไปเรื่อยๆ แต่ในวงการโฆษณายังใช้ทฤษฎีนี้กันมากมาย ผู้บริโภคพึงระวัง
(Some images used under license from Shutterstock.com.)