Haijai.com


ดื่มน้ำวันละ 8 แก้วภัยร้ายอันตราย


 
เปิดอ่าน 100680

ดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวัน ความเชื่ออันตราย

 

 

การดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เป็นเรื่องที่กำลังฮิตในสังคมไทยและสังคมโลก เนื่องจากมีการเผยแพร่เรื่องนี้ทางสื่อออนไลน์กันมาก จึงมีประชาชนทั่วโลกหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก นักเขียน นักเทศน์ หรือแม้แต่วิปัสสนาจารย์บางคนก็ยังเอาไปเผยแพร่ให้สาวกฟังว่า ควรดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว บางคนเขียนว่าให้พกน้ำติดมือไปกินทุกแห่งทุกที่ทุกโอกาส นักวิชาการได้ทำการค้นคว้าแล้วไม่พบข้อมูลว่าการดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่อาจจะเป็นอันตราย เนื่องจากเมื่อดื่มน้ำมาก ระดับโซเดียมในเลือดจะลดลง มีผลให้น้ำเคลื่อนตัวเข้าสู่เซลล์ ทำให้เซลล์บวมน้ำ ถ้าเป็นเซลล์อื่นๆ ก็ไม่ค่อยเป็นอะไรเท่าไร แต่ถ้าเป็นเซลล์สมองจะมีอาการมาก เพราะสมองอยู่ในกะโหลกที่ไม่ขยายตัวรองรับการบวม มันจึงกดการทำงานของสมอง เกิดอาการทางสมองที่เรียกว่า “น้ำเป็นพิษ” ซึ่งถ้าเป็นมากและรักษาไม่ทันอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

 

 

ทุกวันนี้มีข่าวสารทางการแพทย์แพร่ไปในสื่อมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก อีเมล ไลน์ หนังสือพิมพ์ กูเกิล วิกิพีเดีย หรือสื่อโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมที่ไม่มีใครควบคุมการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อหลงจ่ายเงินซื้อยาซื้ออาหารเสริมกันมากมาย มีอยู่หลายเรื่องเป็นการให้ข้อมูลความเชื่อที่ผิดๆ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้ เช่น การดื่มน้ำมากๆ ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว

 

 

ความคิดเรื่องการดื่มน้ำให้เพียงพอดูเหมือนจะขยายไปทั่วโลก เนื่องจากประเทศใหญ่ๆ เขาทำกัน เพราะตอนนี้ประเทศเหล่านั้นกำลังเป็นห่วงว่าเด็กๆ ของเขาจะมีภาวะขาดน้ำกันมาก อย่างเช่นในสหรัฐอเมริกาและในยุโรป เมื่อไม่นานมานี้มีการโต้เถียงกันเรื่องประชากรเด็กของเขา มีภาวะขาดน้ำกันมากหรือไม่ มีการศึกษาหนึ่งตีพิมพ์ในวารสาร American Journal of Public Health Researchers ใช้ข้อมูลจากการสำรวจของ National Health and Nutrition Survey ตั้งแต่ปี 2009 – 2012 ซึ่งใช้ตัวเลขการตรวจความเข้มข้นของปัสสาวะเด็กที่เรียกว่า ออสโมลาริตี (osmolarity) ตัวเลขออสโมลาริตีนี้ยิ่งมากยิ่งหมายถึง มีภาวะขาดน้ำมากโดยใช้ตัวเลข 800 มิลิออสโมลต่อน้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม เป็นตัวตัดสิน ถ้าความเข้มของปัสสาวะเท่ากับหรือมากกว่านี้เขาถือว่ามีภาวะขาดน้ำ

 

 

การใช้ตัวเลข 800 มิลิออสโมลมาตัดสินภาวะขาดน้ำเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันได้มาก นักวิชาการหลายคนกล่าวว่าขนาดตัวเลข 1,200 มิลิออสโมลยังอยู่ในเกณฑ์ปกติในตำราสรีรวิทยา และหมอเด็กส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้การตรวจปัสสาวะดังกล่าวเป็นตัวตัดสิน ว่าเด็กมีภาวะขาดน้ำหรือไม่ เขาโต้แย้งว่าการตรวจปัสสาวะเพื่อหาความเข้มข้นดังกล่าว จึงเป็นการหาเรื่องให้คำนิยามให้คนปกติเป็นโรคขึ้นมา

 

 

ไม่ใช่เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่เป็นกังวลว่าเด็กจะขาดน้ำ ในฝรั่งเศสก็มีการศึกษาเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน โดยใช้ความเข้มข้นของปัสสาวะที่ 800 มิลิออสโมลมาเป็นตัวตัดสิน หลังจากศึกษาแล้วเขาก็ได้ข้อสรุปว่า “ลูกหลานของเราส่วนใหญ่ 2 ใน 3 ขาดน้ำ”

 

 

ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อเร็วๆ นี้ วารสารการสาธารณสุขได้ประกาศว่า เด็กที่ลอสแองเจลิสและนิวยอร์กดื่มน้ำกันน้อยเกินไป แม้แต่สตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ นางมิเชล โอบามา ก็ออกมารณรงค์ให้เด็กอเมริกันดื่มน้ำกันให้มากกว่าที่เป็นอยู่

 

 

คนไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ก็มีมากเช่นกัน เพราะความรู้เรื่องการดื่มน้ำวันละ 8 แก้วในผู้ใหญ่ ได้รับการเผยแพร่ต่อๆ กันไป (ก่อนจะมีกระแสกังวลเรื่องเด็กขาดน้ำ) แม้แต่ในประเทศพัฒนาอย่างสหรัฐอเมริกาก็มีความเชื่อและเผยแพร่เรื่องนี้กันมาก อาจจะเป็นเพราะประเทศใหญ่ๆ เป็นเสียเองอย่างนี้ ในประเทศกำลังพัฒนาอย่างประเทศไทย จึงมีคนเชื่อตามกันมาก นักเขียนไทยบางคนเป็นเอามากถึงขนาดเชียร์ให้คนอ่านพกน้ำติดมือไปไหนมาไหน ดื่มทุกโอกาสที่ทำได้ แม้แต่พระนักเทศน์และวิปัสสนาจารย์บางคน ก็พูดเชียร์ให้สาวกดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว

 

 

การดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว (แก้วละ 250 ซีซี) นั้นมากเกินไป นักวิชาการหลายคนสงสัยเรื่องนี้กันมาก หมอผู้เชี่ยวชาญโรคไตคนหนึ่งได้ลงทุนทำการค้นวารสาร หาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เพื่อดูว่ามีข้อมูลอะไรที่สนับสนุนการดื่มน้ำวันละ 8 แก้วบ้าง ปรากฏว่าหาไม่พบ เขาตีพิมพ์เรื่องนี้ในวารสารทางสรีรวิทยาของอเมริกันในปี 2002 อีกคนหนึ่งเป็นนักเขียนในนิวยอร์กไทมส์ ชื่อ Aaron E. Carrol ได้ร่วมค้นคว้ากับเพื่อนแล้วตีพิมพ์ในวารสาร The BMJ. ในปี 2007 (เกี่ยวกับความเชื่อผิดๆ ทางการแพทย์ ) เขาก็ไม่พบข้อมูลสนับสนุน แต่พบว่ามีคนเชื่อว่าเรื่องนี้มาจากคำแนะนำของคณะกรรมการอาหารและโภชนาการของสหรัฐอเมริกาในปี 1945 ที่แนะนำว่าคนเราต้องการน้ำวันละ 2.5 ลิตร หรือ 2,500 ซีซี คนอ่านถึงตรงนี้แล้วก็นำข้อความนี้ไปตีความ โดยไม่สนใจข้อความต่อไปที่ว่า ส่วนมากน้ำมีอยู่ในอาหารที่เรากินอยู่แล้ว เช่น ข้าวสวย ข้าวต้ม ผัก ผลไม้ และมีน้ำออกมาจากปฏิกิริยาทางเคมีการเผาผลาญ (เมตาบอลิซึม) ของสารอาหารด้วย คนเราจึงไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำมากถึง 2,500 ซีซี แต่มีคนไปตีความผิดๆ ว่า ต้องดื่มวันละ 8-10 แก้ว (แก้วละ 250 ซีซี)

 

 

ดื่มน้ำมากเกินมีอันตราย

 

ก่อนอื่นเราควรมาทำความเข้าใจเรื่องสารเกลือแร่ในเลือดกันเสียก่อน สารเกลือแร่ตัวสำคัญของเรื่องนี้คือ โซเดียม เพื่อความเข้าใจถึงอันตรายของการดื่มน้ำมากๆ กล่าวคือ ปกติน้ำในร่างกายของเราจะอยู่ไปทั่วทั้งในเซลล์และนอกเซลล์ ส่วนที่อยู่นอกเซลล์อาจจะอยู่ในระบบไหลเวียนหรือในหลอดเลือด หรืออีกส่วนหนึ่งคือในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (นอกหลอดเลือด) สารโซเดียมส่วนใหญ่จะอยู่นอกเซลล์ (อยู่ในเซลล์น้อย) สารตัวนี้มีความสำคัญตรงที่มีฤทธิ์ออสโมสิสดูดน้ำเข้าหาตัว (มี osmolarity สูง) ถ้ามีสารตัวนี้ในเลือดสูง (นอกเซลล์) มันจะดูดน้ำออกจากเซลล์ เช่น เวลาเรากินเกลือ (มีโซเดียมคลอไรด์) หรืออาหารเค็ม เราจะได้โซเดียมเข้าไปมาก ทำให้เลือดมีโซเดียมสูง มันจะมีฤทธิ์ดูดน้ำออกจากเซลล์ ทำให้เซลล์ทั่วไปรวมทั้งเซลล์สมองขาดน้ำ ลดขนาดของเซลล์ลง ทำให้เรากระหายน้ำ (ตามผับตามเทคจึงนิยมแจกมันฝรั่งทอดกรอบโรยเกลือให้ลูกค้ากิน เพื่อจะได้สั่งน้ำกินเยอะๆ)

 

 

ในทางตรงข้ามถ้าคนปกติดื่มน้ำเปล่าเข้าไปมากๆ น้ำจะไปทำให้ระดับโซเดียมในเลือดเจือจางลง ทำให้แรงดูดน้ำลดลง น้ำนอกเซลล์ก็จะเคลื่อนเข้าสู่ในเซลล์ทั่วร่างกาย ทำให้เซลล์บวมน้ำ เซลล์อื่นๆ บวมเล็กน้อยก็พอทำเนา แต่ถ้าเซลล์สมองบวมมันอันตราย

 

 

เมื่อเซลล์สมองบวมก็เกิดอาการ น้ำเป็นพิษ มีอาการทางสมอง เช่น ปวดหัว มึนซึม คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนแรง ชัก หมดสติ อาการแบบนี้ถ้าเป็นมากขึ้นและแก้ไขไม่ทัน อาจถึงตายได้ เพราะสมองที่บวมขึ้นจะถูกกะโหลกศีรษะซึ่งไม่ขยายตัวบีบรัดกดสมอง มีผลต่อการกดศูนย์การหายใจศูนย์ควบคุมการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือด ทำให้สมองไม่ทำงาน ความดันโลหิตตก หัวใจและการหายใจหยุดลงจนเสียชีวิตในที่สุด

 

 

ในงานรับน้องใหม่ของมหาวิทยาลัยเคยมีการกรอกน้ำน้องใหม่จนเจ็บป่วยล้มตาย ก็มีให้เห็นมาแล้ว  นอกจากนี้ในยุคสมัยที่สื่อออนไลน์เชียร์ให้ดื่มน้ำกันวันละ 8 แก้ว ก็มีคนถูกหามเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากน้ำเป็นพิษสมองบวมกันบ่อยๆ คนที่ผมรู้จักก็ยังมี การดื่มน้ำมากๆ จึงเป็นเรื่องที่น่ากังวล ไม่ดีต่อสุขภาพ ท่านทั้งหลายที่ยังรักสุขภาพควรจะดื่มน้ำแต่พอสมควรกับสถานการณ์ของเราเท่านั้น ไม่ควรถือเอาสูตร “ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว” มาใช้แบบสูตรสำเร็จ

 

 

รู้ได้อย่างไรว่าดื่มน้ำเพียงพอ

 

การที่จะรู้ว่าดื่มน้ำเพียงพอแล้ว (โดยไม่ต้องรอให้กระหายน้ำ ถ้ารู้สึกกระหายน้ำแสดงว่าขาดน้ำมากไป ไม่ดี) คือ ดูที่ความถี่ของการปัสสาวะ และความเข้มข้นของปัสสาวะที่ออกมา ถ้าเข้มมาก ก็ควรดื่มน้ำมากขึ้น การดื่มน้ำควรดูสถานการณ์แวดล้อมด้วย เช่น เรากินอาหารอะไร กินผักผลไม้มากไหม กินแกงจืดหรือไม่ ดื่มเครื่องดื่มมากแค่ไหน (อาหารพวกนี้มีน้ำมากอยู่แล้ว)

 

 

และเวลาเล่นกีฬาก็ดื่มน้ำมากหน่อย แต่นักกีฬาก็ไม่ใช่จะดื่มน้ำมากเกินไปได้ เคยมีรายงานนักกีฬามาราธอนดื่มน้ำมากเกินจนน้ำเป็นพิษมาแล้ว นักกีฬาอาชีพปัจจุบันเขาจะไม่ดื่มน้ำแบบไม่มีหลักเกณฑ์ เช่น นักเทนนิสจะจิบน้ำเล็กน้อยทุกครั้งที่มานั่งพัก (พร้อมกินเกลือแร่หรือกินกล้วย ซึ่งมีสารเกลือแร่) ไม่ดื่มน้ำมากเกิน นักมวยก็เช่นกัน ถ้านักมวยดื่มน้ำมากเกินจะทำให้กระเพาะปัสสาวะโป่ง เขาไม่ให้นักมวยพักเข้าห้องน้ำ นักมวยที่ดื่มน้ำมากก็ต้องทนให้กระเพาะปัสสาวะโป่ง ซึ่งเป็นอันตราย เวลาโดนต่อยมันอาจจะแตกได้ จึงมีกฎห้ามต่อยใต้เข้มขัด ซึ่งเป็นที่อยู่ของกระเพาะปัสสาวะและอวัยวะเพศที่ไวต่อความเจ็บปวดนั่นเอง

 

 

การดื่มน้ำแบบไม่มีหลักการมีผลเสียอย่างอื่นอีก คือ ตอนเย็นหรือตอนหัวค่ำก่อนเข้านอน ถ้าดื่มน้ำมากจะทำให้เราตื่นมาปัสสาวะบ่อย ทำให้นอนไม่หลับ มีผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้วิตกกังวลบ่อย เจ็บป่วยบ่อย เป็นหวัดบ่อย ฯลฯ

 

 

นักวิจัยกล่าวว่าไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่บ่งชี้ว่า การดื่มน้ำมากๆ จะมีผลดีต่อสุขภาพ บางคนไปอ้างว่าน้ำช่วยล้างพิษ ซึ่งส่วนมากมาจากคนนอกวงการแพทย์ที่ตั้งตัวเป็นกูรูทางการแพทย์ จากที่ผู้ทบทวนวารสาร เราไม่พบหลักฐานว่าการดื่มน้ำมากจะมีผลดีต่อสุขภาพ หรือจะทำให้ผิวหนังเต่งตึงมีน้ำมีนวล (ถ้ามีก็ไม่มาก)

 

 

ข้อมูลข่าวสารที่เผยแพร่มาทางสื่อออนไลน์ไม่ใช่จะจริงเสมอไป อย่าเชื่อหมดใจ ให้ยึดหลักกาลามสูตรของพระพุทธเจ้า ข้อมูลข่าวสารบางอย่างแม้จะมาจากวารสารการแพทย์ แต่พออยู่ไปสักพักก็มีข้อมูลใหม่ที่ดีกว่ามาขัดแย้งลบล้าง ดังนั้น ถ้าได้รับข้อมูลทางไลน์มาว่าอย่างไร ก็ต้องฟังหูไว้หูก่อน อย่าปลงใจเชื่อ อย่าตื่นเต้นตื่นตูม อย่าลืมว่าดื่มน้ำมากเกินไป อาจจะทำให้เกิดภาวะ “น้ำเป็นพิษ” สมองบวมถึงขนาดถูกหามเข้าโรงพยาบาลหรือโลงศพได้นะครับ

 

 

นพ.นริศ เจนวิริยะ

ศัลยแพทย์

 

 

น้ำก๊อกดื่มได้ปลอดภัยจริงหรือ - สุขภาพ - Haijai.com

 

น้ำดื่มโมเลกุลเล็กดีต่อร่างกาย - สุขภาพ - Haijai.com

 

ทำไมน้ำดื่มที่ดีต้องมีค่า pH - สุขภาพ - Haijai.com

 

ดื่มน้ำผลไม้อย่างไร ห่างไกลฟันผุ - เด็กโต - Haijai.com

 

ดื่มน้ำเปลือกกล้วยหอม แก้อาการซึมเศร้า - สุขภาพ - Haijai.com

 

ดื่มน้ำมาก อาจไม่ได้ช่วยให้สุขภาพดีขึ้น

 

4 ความลับจากน้ำแร่ธรรมชาติ - สุขภาพ - Haijai.com

 

ภาวะขาดน้ำ อันตรายร่างกายขาดน้ำ - สุขภาพ - Haijai.com

 

น้ำประปาผสมคลอรีน เสี่ยงลูกในท้องพิการ - แม่ตั้งครรภ์ - Haijai.com

 

น้ำหมักผักผลไม้ สมุนไพรเพื่อสุขภาพ - Haijai.com

(Some images used under license from Shutterstock.com.)





สิวอุดตันเกิดจาก สิวฮอร์โมน คอลลาเจน สิวไขมัน สิวหัวแข็ง AviClear AviClear Laser สิวไต สิวเสี้ยน หน้าขาวใส หน้าแพ้สาร สิวข้าวสาร หน้าใสไร้สิว หน้าไหม้แดด สิวหัวขาว หน้าแห้ง อาการนอนกรน วิธีลดไขมันทั้งตัว ผิวขาว ผิวหน้า ผู้หญิงนอนกรน หน้ากระจ่างใส วิธีลดไขมันในร่างกาย หน้าเนียนใส หน้าเนียน หน้าหมองคล้ำเกิดจาก กดสิวใกล้ฉัน กดสิวเสี้ยน กดสิว หน้าใส สิวอุดตัน หน้าหมองคล้ำ สิวอักเสบ สิว สิวหัวช้าง หน้าขาว สิวขึ้นคาง สิวผด ครีมลดรอยสิว วิธีแก้การนอนกรนผู้ชาย แก้อาการนอนกรนผู้หญิง วิธีลดหน้าท้องแบบเร่งด่วน Sculpsure ลดไขมันในร่างกาย วิธีลดไขมัน ลดไขมันต้นขา สลายไขมันหน้า ไตรกลีเซอไรด์ เซลลูไลท์ วิธีแก้นอนกรน ลดไขมัน Coolsculpting ทำกี่ครั้ง Sculpsure กับ Coolsculpting นอนกรนเกิดจาก Morpheus8 สลายไขมันหน้าท้อง วิธีลดพุงผู้หญิงเร่งด่วน 3 วัน Body Slim ลดไขมันทั้งตัว วิธีลดพุงผู้ชาย Morpheus8 กับ Ulthera ลดพุงเร่งด่วน วิธีลดไขมันต้นขา ลดพุง ดูดไขมัน วิธีลดหน้าท้อง สลายไขมันด้วยความเย็น คอเลสเตอรอล วิธีลดไขมันหน้าท้อง ไขมัน วิธีลดพุงผู้หญิง Coolsculpting Elite CoolSculpting vs Emsculpt วิธีลดพุง สลายไขมันต้นขา ลดไขมันหน้าท้อง นวดสลายไขมัน ผลไม้ลดความอ้วน ลดน้ำหนักเร่งด่วน อาหารคลีน กินคลีนลดน้ำหนัก ลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน กินคีโต วิธีลดความอ้วนเร็วที่สุด อาหารลดความอ้วน วิธีลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน วิธีลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน ลดความอ้วนเร่งด่วน ผลไม้ลดน้ำหนัก อาหารเสริมลดความอ้วน วิธีลดความอ้วน เมนูลดความอ้วน วิธีการสลายไขมัน ลดความอ้วน สลายไขมัน ลดน้ำหนัก สูตรลดน้ำหนัก Exilis Elite Thermage Body ออฟฟิศซินโดรม Inbody Vaginal Lift Morpheus Pro Oligio Body IV Drip Emsella เลเซอร์นอนกรน Indiba ปากกาลดน้ำหนัก Emsculpt CoolSculpting บทความน่ารู้ บทความกระชับสัดส่วนรูปร่าง บทความดูแลรูปร่างและสุขภาพ บทความรักษาอาการนอนกรน บทความ Morpheus บทความ Coolsculpting บทความโปรแกรมดูแลผิวหน้า ข่าวและกิจกรรม romrawin รมย์รวินท์ Plinest Pico หลุมสิว เลเซอร์ฝ้า เลเซอร์ฝ้า กระ IV Weight Loss Thermage Body Pico Laser ราคา สิว กลืนบอลลูนราคา วิธีลดน้ำหนัก วิธีแก้อาการนอนกรน อาการนอนกรน บทความโปรแกรมรักษาอาการนอนกรน เลเซอร์รีแพร์ ดึงหน้าที่ไหนดี ผ่าตัดดึงหน้าราคา Thermage FLX ผ่าตัดดึงหน้า ดึงหน้าราคา ผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี ดึงหน้า vs ร้อยไหม ศัลยกรรมดึงหน้าราคา เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น Ultraformer MPT ราคา ลดเซลลูไลท์ ฟิลเลอร์แก้มตอบราคา CoolSculpting vs Emsculpt ลดน้ำหนัก วิธีสลายไขมัน สลายไขมัน Alexandrite Laser Dynamic Tech Morpheus Pro สารเติมเต็ม ฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอม เลเซอร์ขนหน้าอก Coolsculpting vs Coolsculpting Elite Morpheus8 ราคา สลายไขมันด้วยความเย็นราคา สลายไขมันด้วยความเย็น ฟิลเลอร์ใต้ตาราคา ดึงหน้า Ultherapy Prime vs Ulthera SPT IPL เลเซอร์ขนแขน YAG Laser Diode Laser ไฮยาลูรอน ฟิลเลอร์น้องชายอันตรายไหม ฉีดสิว Emtone 1 week 1 Kilo ลดน้ำหนัก กลืนบอลลูน Exo Hair Reborn หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ดูดไขมัน ดึงหน้า ตาสองชั้น ทำตาสองชั้น เสริมจมูก ยกคิ้ว เสริมหน้าอก บทความศัลยกรรม วีเนียร์ บทความทันตกรรม Coolsculpting Fit Firm Emsculpt Coolsculpting Elite บทความลดน้ำหนัก ดีท็อกลำไส้ EIS BIO SCAN ICELAB IV DRIP ดริปวิตามิน บทความดูแลสุขภาพ Vaginal Lift P-SHOT O-Shot บทความสุขภาพเพศ Meso Hair LLLT ปลูกผมด้วยแสงเลเซอร์ ปลูกผมผู้ชาย ปลูกผมสำหรับผู้หญิง ปลูกผมถาวร ปลูกผม FUE ปลูกผม รักษาผมร่วง บทความรักษาผมร่วง ผมบาง บทความดูแลเส้นผม เลเซอร์รักแร้ขาว เลเซอร์ขน เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนน้องสาว เลเซอร์ขนหน้า เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน เลเซอร์ขนขา เลเซอร์หนวด เลเซอร์เครา เลเซอร์รักแร้ กำจัดขนถาวร เลเซอร์ขน บทความเลเซอร์กำจัดขน เลเซอร์รอยสิว Pico Laser Pico Majesty Pico Majesty Laser Reepot Laser Reepot บทความโปรแกรมหน้าใส NCTF 135 HA Rejuran Belotero Glassy Skin Juvederm Volite Gouri Exosome Harmonyca Profhilo Skinvive Sculptra vs ฟิลเลอร์ Sculptra บทความ Sculptra Radiesse บทความ Radiesse บทความฉีดหน้าใส UltraClear AviClear Laser AviClear Accure Laser Accure บทความโปรแกรมรักษาสิว ฟิลเลอร์คอ ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์มือ ฟิลเลอร์หน้าใส ฟิลเลอร์ร่องแก้มราคา ฟิลเลอร์ยกหน้า ฟิลเลอร์หลุมสิว หลังฉีดฟิลเลอร์กี่วันหายบวม หลังฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ยกมุมปาก ฟิลเลอร์ปากกระจับ ฟิลเลอร์ปาก 1 CC ฟิลเลอร์จมูกราคา ฟิลเลอร์กรอบหน้า ฟิลเลอร์ที่ไหนดี ฟิลเลอร์น้องสาวกี่ CC ฟิลเลอร์ราคา ฟิลเลอร์จมูก ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ฟิลเลอร์แก้มส้ม ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์น้องชาย ฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ บทความฟิลเลอร์ ฉีดโบลดริ้วรอยหางตา ฉีดโบหางตา ฉีดโบลิฟกรอบหน้า ฉีดโบหน้าผาก ฉีดโบยกมุมปาก ฉีดโบปีกจมูก ฉีดโบลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ฉีดโบลดกราม ฉีดโบรักแร้ ฉีดโบลดริ้วรอย ดื้อโบลดริ้วรอย บทความโบลดริ้วรอย Volnewmer Linear Z ยกมุมปาก Morpheus Morpheus8 ลดร่องแก้ม Ultraformer III Ultraformer MPT Emface Hifu ยกกระชับหน้า Ultherapy Prime Ulthera Thermage FLX BLUE Tip Thermage FLX Oligio บทความยกกระชับใบหน้า ร้อยไหมหน้าเรียว ไหมหน้าเรียว ร้อยไหมเหนียง ไหมเหนียง ร้อยไหมยกหางตา ไหมยกหางตา Foxy Eyes ร้อยไหมปีกจมูก ไหมปีกจมูก ร้อยไหมกรอบหน้า ไหมกรอบหน้า ร้อยไหมร่องแก้ม ไหมร่องแก้ม ร้อยไหมก้างปลา ไหมก้างปลา ร้อยไหมคอลลาเจน ไหมคอลลาเจน ร้อยไหมจมูก ร้อยไหม บทความร้อยไหม Apex