ทำไมคุณแม่ต้องให้น้องก่อน

ทำไมต้องให้น้องก่อน

อีกแร่ะ! อะไร...อะไร! คุณแม่ก็ต้องให้น้องก่อนทุกที เมื่อก่อนทำไมฮีโร่ได้ของเล่นทุกอย่างก่อนคนเดียว ไม่เห็นต้องแบ่งให้ใครเลย คุณแม่ไม่รักฮีโร่แล้ว!!! เอาล่ะซิน้องฮีโร่งอนคุณแม่วิ่งไปมุดหน้าลงกับหมอนอีกแล้ว แถมครั้งนี้มีร้องไห้ด้วย จนคุณแม่เห็นแล้วก็อดเป็นกังวลไม่ได้ เพราะก็รักลูกทั้งสองคนเท่ากัน ไม่เคยมีลำเอียงรักลูกคนเล็กมากกว่าคนโตเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งที่ก็เคยทำความเข้าใจกับน้องฮีโร่ก่อนที่จะมีลูกคนเล็กว่า ฮีโร่กำลังจะได้เป็นพี่แล้วนะ ฮีโร่จะมีเพื่อนเล่นไม่เหงา และอีกสารพัดเทคนิควิธีที่คุณแม่ใช้ทำความเข้าใจกับน้องฮีโร่ และดูเหมือนลูกจะเข้าใจเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่วายที่จะเกิดปัญหาจนได้ แล้วอย่างนี้จะมีวิธีจัดการอย่างไรล่ะ เพื่อให้ลูกได้เข้าใจถึงความเป็นพี่เป็นน้อง…

Good Answer

การปฏิบัติที่ดีที่สุดที่คุณแม่สามารถทำได้ตั้งแต่แรกเริ่มเลยคือ ให้คุณแม่พูดกับลูกว่า ลูกเป็นคนสำคัญของพ่อกับแม่นะ แม่รักลูกไม่เคยเปลี่ยน ลูกยังเป็นคนพิเศษของแม่กับพ่อ การที่แม่มีน้องใหม่คนเล็กก็ไม่ได้หมายความว่ารักลูกน้อยลงไปกว่าเดิม นอกจากคำพูดที่คุณแม่จะต้องใช้สื่อสารเพื่อให้ลูกเข้าใจ การกระทำก็สำคัญไปไม่น้อยกว่ากันเลย  มาดูกันค่ะว่าจะปฏิบัติกับลูกได้อย่างไรบ้าง

การพูด

การที่คุณพ่อคุณแม่บอกลูกคนโตว่ายังรักเขาอยู่เหมือนเดิม จะทำให้เขารู้สึกพิเศษขึ้นมา ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว ลูกอาจจะทำท่าไม่สนใจเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่คุณบอก อาจจะแค่ยักไหล่ หรือส่งสายตาไม่เชื่อที่คุณพูด แต่ความจริงแล้วเขากำลังแอบชื่นใจอยู่

บอกให้ลูกรู้ว่าลูกเป็นคนพิเศษขนาดไหน คุณพ่อคุณแม่ภูมิใจในตัวเขาแค่ไหน และก็อาจเสริมคำพูดเข้าไปด้วยว่าน้องก็รู้สึกแบบเดียวกันกับคุณว่า ลูกคือพี่ชายที่ดีมากๆ น้องภูมิใจที่มีเขาเป็นพี่ชาย เท่านี้ก็จะทำให้เขารู้สึกภูมิใจมากที่ได้ยินว่าน้องชื่นชมเขา และการที่ซื้อของเล่นมาแล้วให้น้องคนเล็กก่อนก็ใช่ว่าเขาจะไม่ได้ของเล่นอะไรใหม่ เพียงแต่ว่าของเล่นที่ซื้อให้น้องก่อนนั้น เพราะเป็นของเล่นที่เหมาะกับช่วงวัยของน้อง ซึ่งลูกก็เคยเล่นแล้ว ควรที่จะแบ่งให้น้องเล่นบ้าง และลูกเป็นพี่ชายที่ดี ควรจะสอนให้น้องเล่นเหมือนกับที่ลูกเคยเล่นมาก่อนก็จะดีมากๆ เลย

การกระทำ

ไม่ว่าคุณจะยุ่งขนาดไหนก็ตาม ให้พยายามหาเวลาอยู่กับลูกคนโตตามลำพังทุกวันบ้างก็ดี การได้คุยกันในเรื่องต่างๆ หรือการได้เล่นกับเขาสองคนเหมือนเมื่อก่อนตอนที่ยังไม่มีน้อง อย่างการอ่านนิทาน การนั่งตัก การกอด เท่านี้ก็จะเป็นเหมือนการเติมเต็มสิ่งที่ลูกคิดว่าเขาไม่ได้รับเหมือนแต่ก่อน หรือได้ขาดหายอะไรไปบางอย่าง ให้ความรู้สึกที่เขาเคยได้รับนั้นกลับมาเหมือนเดิม

ให้คุณพ่อคุณแม่กอดลูก เพราะลูกจะรู้สึกไม่มั่นใจเวลาเห็นคุณทั้งสองคนกอดลูกคนเล็ก เขาจึงอยากให้คุณพ่อคุณแม่ให้เวลาเขาเท่าๆ กับที่ให้เวลากับน้อง ไม่ว่าลูกจะอยู่ในช่วงวัยใดก็ตาม เขาก็ยังคงมีความรู้สึกที่ว่าอยากได้ความรัก อยากได้การพูดคุย อยากได้การโอบกอด จากคุณพ่อคุณแม่อยู่ตลอดเวลา

วิธีเตรียมลูกคนโตให้พร้อมรับลูกคนเล็ก

บอกให้เขารู้ตัวล่วงหน้าว่าเขากำลังจะมีน้อง และเตรียมความเข้าใจให้เขาตั้งแต่เนิ่นๆ อย่ารอให้คลอดลูกคนเล็กออกแล้วถึงได้บอก คุณควรจะค่อยๆ ทำความเข้าใจกับลูกคนโต และระวังอย่าบอกล่วงหน้านานเกินไป เพราะเขาอาจจะลืมก็ได้

พาลูกคนโตไปรู้จักกับเด็กเล็กๆ เพื่อให้เขาได้ใกล้ชิดกับเด็กเล็กๆ ก่อน เพื่อที่เขาจะได้รู้สึกสบายใจเวลาที่ได้อยู่กับน้องของเขาเอง และมีความรู้สึกคุ้นเคยที่จะเป็นพี่คนโต

ให้ข้อมูลที่เหมาะสมกับอายุและระดับความเข้าใจของลูก เช่น คุณแม่อาจจะพูดกับลูกวัย 4 ขวบว่า “แม่มีอะไรมาให้ลูกประหลาดใจแน่ะ เรากำลังจะมีน้องแล้ว แม่ตื่นเต้นจังเลย ที่จะได้เห็นลูกเป็นพี่ที่น่ารักของน้อง”