บำบัดโรคด้วยการครอบแก้ว ตามวิถีแพทย์แผนจีน

บำบัดโรคด้วยการครอบแก้ว ตามวิถีแพทย์แผนจีน

เมื่อเราเกิดอาการเจ็บป่วยจนยากที่จะเยียวยาอาการด้วยตัวเอง การไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด การรักษาโรคในปัจจุบันมีทั้งรักษาในรูปแบบของแพทย์แผนปัจจุบัน และแพทย์ทางเลือกอย่างแพทย์แผนจีน ซึ่งจะมีรูปแบบและวิธีการรักษาที่แตกต่างกับการักษาในทางการแพทย์แผนปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการกดจุด ฝังเข็ม หรือการครอบแก้ว เพื่อช่วยบรรเทาหรือบำบัดอาการของโรค

ครอบแก้วบำบัด สกัดจุดรักษาโรค

ในช่วงที่ร่างกายปกติ ส่วนต่างๆ ของร่างกายจะมีประสิทธิภาพในการรักษาความสมดุลได้เป็นอย่างดี แต่หากเจ็บป่วย เส้นลมปราณซึ่งเป็นท่อลำเลียงพลังชี่ หรือการไหลเวียนของเหลวในร่างกาย และเลือดขาดความสมดุล มีผลทำให้ชี่หนืดและคั่ง เส้นลมปราณเกิดการอุดตัน ทำให้เกิดความเจ็บป่วยตามมา เนื่องจากชี่และเลือดในทางแพทย์แผนจีนถือเป็นสารบำรุงและช่วยปรับสมดุลให้กับระบบต่างๆ ของร่างกาย ถ้าทั้งสองสิ่งขาดสมดุลไป ก็จะทำให้การเคลื่อนไหวของระบบอวัยวะสำคัญไม่ปกติ จนเกิดโรคต่างๆ ตามมาได้

ก่อนที่จะทำการรักษาด้วยวิธีการครอบแก้ว คุณหมอจะทำการ “แมะ” หรือจับชีพจรที่บริเวณข้อมือของคนไข้ โดยการใช้นิ้วมือทั้งสาม ได้แก่ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง แตะลงบนชีพจรตรงบริเวณเส้นเลือดแดงใกล้ข้อมือฝั่งนิ้วโป้ง โดยนิ้วกลางจะวางลงตรงบริเวณที่กระดูกข้อมือนูนขึ้นมา (จุดชุ่น*) ส่วนนิ้วชี้วางถัดจากนิ้วกลางไปทางปลายนิ้วผู้ป่วย (จุดกวน*) และนิ้วนางวางถัดจากนิ้วกลางไปทางต้นแขน (จุดฉื่อ*) โดยทั้งสามนิ้ววางเรียงกัน เพื่อจะได้ทราบจุดที่ทำให้เกิดอาการป่วยและทำการรักษาตามแนวทางของแพทย์แผนจีนต่อไป

จากตำราแพทย์แผนจีนที่มีแนวทางการรักษามากว่าพันปี ได้ระบุว่า การครอบแก้วสามารถ ฟื้นฟู บำบัด และรักษาโรคต่างๆ ในร่างกายได้สารพัด การครอบแก้ว คือ การใช้แก้วที่ถูกทำให้เกิดภาวะสุญญากาศครอบลงไปในตำแหน่งที่ต้องการบำบัดโรค เพื่อขจัดสารพิษ เนื่องจากศาสตร์ทางแพทย์แผนจีนนั้นเชื่อว่า อาการเจ็บป่วยต่างๆ มีสาเหตุมาจากการที่ร่างกายเกิดการสะสมของสารพิษ เป็นระยะเวลานาน การรักษาคือต้องกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย

วิธีการรักษาตามตำราแพทย์แผนจีนโบราณ โดยการนำแก้วครอบลงบนผิวหนัง จากนั้นจึงลดความดันภายใน โดยการใช้ความร้อน หรือดูดอากาศออกจนผิวหนังและกล้ามเนื้อถูกดูดเข้าไปในแก้ว อาจมีการใช้น้ำมันสมุนไพรทาผิวหนังก่อน เพื่อให้การเคลื่อนแก้วเป็นไปโดยง่ายขึ้น แก้วอาจถูกครอบนานประมาณ 5-15 นาที จากนั้นผิวหนังจะแดง เมื่อเอาแก้วที่ครอบออกแล้ว ผิวจะแดงช้ำ นั่นหมายความว่า เลือดเสียและสารพิษจากภายในร่างกาย ถูกดูดออกมารอการกำจัดโดยต่อมเหงื่อใต้ผิวหนังต่อไป

การครอบแก้วช่วยปรับสมดุลเส้นลมปราณให้เกิดการไหลเวียนได้สะดวก ทำให้การไหลเวียนของชี่และเลือดเป็นปกติ เมื่อเลือดไหลเวียนสะดวกจะสามารถขจัดอาการเลือดคั่ง ช่วยให้สมองปลอดโปร่งระงับอาการปวดและรักษาโรคได้ คนแต่ละคนจะมีความแตกต่างกัน ดังนั้นการวางจุดครอบแก้ว ก็จะแตกต่างกัน ต้องดูที่สาเหตุที่ต้องการบำบัด รวมถึงจุดในร่างกายที่ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย ซึ่งในแต่ละจุดจะส่งผลถึงการรักษาโรค

ประโยชน์ของการบำบัดโรคด้วยการครอบแก้วตามหลักแพทย์แผนจีน

• ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตให้สะดวกมากขึ้น

• ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายทางผิวหนัง บำบัดโรคและทำให้ผิวพรรณดี

• การครอบแก้วสามารถระงับอาการเจ็บปวดได้โดยตรง ระงับการเกิดตะคริวสลายตะคริวกล้ามเนื้อ กระตุ้นเส้นประสาทระงับต้นเหตุของการเจ็บปวด

• สลายบวม ระงับปวด แก้เลือดคั่ง เพื่อให้เลือดไหลเวียนสะดวก สามารถเร่งการไหลเวียนของเส้นเลือดดำ สำหรับผู้มีอากรบวมน้ำบวมเลือด

• ขจัดการอักเสบ

ข้อควรระวังในการรักษาด้วยวิธีครอบแก้ว

ในกรณีถ้าเป็นโรคหัวใจ หรือโรคที่เกี่ยวกับปอด จะไม่สามารถทำการรักษาด้วยการครอบแก้วได้ เพราะถ้าการครอบแก้วไม่ใช่เพียงการรักษาเพียงแค่ครั้งเดียวแล้ว อาการของโรคจะหายขาดหรือดีขึ้นได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาและทำการครอบแก้วหลายครั้ง จึงจะเห็นผล ฉะนั้นถ้าทำบ่อยๆ ร่างกายจะมีอาการอ่อนเพลียได้เล็กน้อย เนื่องจากร่างกายมีการขับพิษ ต้องใช้พลังชี่ที่ทำให้เลือดลมมีการไหลเวียนที่เร็วกว่า เพราะฉะนั้นถ้าร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงนัก ก็จะเกิดข้อจำกัดเฉพาะบางคนที่จะก่อให้เกิดอันตราย รวมถึงข้อห้ามในสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ ก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน

การรักษาด้วยการครอบแก้ว สามารถใช้เพื่อรักษาและบำบัดอาการของโรคได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ได้ทั้งการบำรุงรักษาก่อนที่ร่างกายจะเจ็บป่วย และการรักษาภายหลังจากที่เกิดอาการป่วยไปแล้ว ในส่วนของการบำรุงรักษาการครอบแก้ว จะช่วยดูดพิษออกจากร่างกายได้ คือ การออกกำลังกายจะเป็นการขับพิษออกทางต่อมเหงื่อ แต่การดูดด้วยการครอบแก้ว สามารถที่จะดูดออกได้เลย เป็นการเร่งการกำจัดพิษได้ดีกว่า เพราะฉะนั้นถ้าเรายิ่งขจัดของเสียได้ดีขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้สมดุลของร่างกายเรายิ่งดีขึ้น นั่นจะเป็นการส่งผลให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น อาการภูมิแพ้ หรือ เป็นหวัดก็จะรักษาได้ดี เพราะภูมิคุ้มกันแข็งแรง ก็จะช่วยปกป้องร่างกายเราได้ดี

นพ.พิสิษฐ์ หลี

TCM Specialist

A Live Clinic