© 2017 Copyright - Haijai.com
ปัญหาการบาดเจ็บที่พบบ่อย เมื่อคุณวิ่ง
วิ่งออกกำลังกาย หรือ Jogging เป็นการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมที่สุดในทุกประเภทของการออกกำลังกาย เพราะไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรมาก และการวิ่งก็เป็นการเคลื่อนไหวพื้นฐานของมนุษย์ ทำให้การวิ่งเพื่อสุขภาพไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป แต่ถ้ามองกันอย่างละเอียดจะพบว่า การวิ่งนั้น ต้องการปัจจัยหลายอย่าง เพื่อประสิทธิภาพการวิ่ง และลดโอกาสในการบาดเจ็บจากการวิ่งนั่นเอง
จากการวิจัยของมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า การว่าไม่ได้เหมาะสมกับทุกคน เพราะสามารถเกิดการบาดเจ็บได้ง่าย ถ้าร่างกายไม่พร้อม หรือไม่สบายอยู่ก่อน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเรื่องข้อกระดูก กล้ามเนื้อ หรือโรคหัวใจ นอกจากนี้ งานวิจัย ยังระบุว่า การบาดเจ็บจากการวิ่ง 60% มาจากการบาดเจ็บจากการวิ่งมาก่อน ที่เหลือ 40% คือ ผู้เริ่มหัดวิ่งโดยที่ร่างกายไม่พร้อม วิ่งมากเกินไป ทางวิ่งที่แข็งเกินไป หรือสวมรองเท้าวิ่งที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น
5 บริเวณที่เกิดการบาดเจ็บจากการวิ่งได้บ่อย
1.ข้อเข่า พบได้มากถึงร้อยละ 30
2.เอ็นร้อยหวาย พบร้อยละ 20
3.ปวดหน้าแข็ง พบร้อยละ 15
4.กระดูกหัก พบร้อยละ 15
5.พังผืดยึดกระดูกฝ่าเท้าอักเสบร้อยละ 10
นักวิ่งสามารถได้รับการบาดเจ็บมากกว่า 1 แห่ง เนื่องจากเกิดการอดทน เพื่อแรงยุที่จะต้องวิ่งให้ได้มากขึ้น แม้จะเจ็บก็ตาม ทำให้จากการบาดเจ็บเพียงนิดเดียว กลายเป็นการบาดเจ็บที่รุนแรงภายหลัง
สาเหตุของอาการบาดเจ็บ
1.ความผิดพลาดในการฝึก เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด เช่น ซ้อมวิ่งระยะทางที่ยาวเกินไป วอร์มอัพไม่พอ ฝึกหนักเกินไป เพิ่มความเร็วมากเกินไป เป็นต้น
2.การวิ่งในสภาพเส้นทางที่ไม่เหมาะกับการวิ่ง เช่น วิ่งบนถนนคอนกรีต ทางเดินขึ้นลง ล้วนเพิ่มแรงกระแทกต่อเท้า ขาและหลัง เป็นต้น
3.สวมรองเท้าไม่เหมาะสม หากรองเท้าไม่ยืดหยุ่นพอ ก็จะทำให้ไม่สามารถรับแรงกระแทกขณะวิ่งได้ รวมถึงรองเท้าวิ่งที่หลวมเกินไป หรือเล็กเกินไปด้วยเช่นกัน
4.การลงเท้าผิดวิธี ลักษณะการวิ่งแต่ละประเภทจะใช้วิธีการลงเท้าไม่เหมาะกัน สำหรับนักวิ่งเพื่อออกกำลังกายหรือนักกรีฑา จะใช้ด้านนอกของส้นเท้าลงก่อน ถ้าวิ่งบนปลายเท้าอาจจะเกิดการบาดเจ็บได้
5.ลักษณะเท้าขณะเคลื่อนไหว ถ้าเท้าหมุนคว่ำมากเกินไป แรงอัดต่อหัวเข่าและเท้าจะเพิ่มขึ้น และทำให้คืนสู่สภาพยึดแน่นไม่ได้
6.การเหยียดและงอเข่าขณะวิ่ง การรับน้ำหนักของหัวเข่าจะอยู่ประมาณ 30-40 องศา ขึ้นอยู่กับขนาดการก้าววิ่ง ถ้าก้าวสั้นจะงอแค่ 15-20 องศา ถ้าการงอไม่ถูกวิธี จะมีการเจ็บปวดเวลาส้นเท้ากระแทก
7.การบาดเจ็บจากความร้อน ร่างกายของนักวิ่งสามารถรักษาระดับอุณหภูมิให้คงที่ไว้ได้ ด้วยการรักษาสมดุลระหว่างความร้อนที่เกิดจากเผาผลาญให้เกิดพลังงาน กับความร้อนที่เสียไปจากการระเหยของเหงื่อ เมื่ออากาศร้อนสูงขึ้น การระเหยทางเหงื่อจะเป็นการระบายความร้อนที่สำคัญสุด และความร้อนจะสูงขึ้นได้ถ้าขาดน้ำ หรือเหงื่อออกไม่เพียงพอ
8.ตะคริวจากความร้อน หากเหงื่อออกมากๆ และทดแทนด้วยการดื่มน้ำและรับประทานเกลือไม่เพียงพอ อาจเป็นเหตุให้กล้ามเนื้อกระตุก เป็นตะคริวและเกร็งที่บริเวณขา แขนและหลังได้
9.เป็นลมจากความร้อน ถ้าสูญเสียการควบคุมความร้อนแบบฉับพลัน จะเกิดสภาวะตัวร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เป็นลมได้ โดยเกิดขึ้นได้เมื่อมีอาการเข้าระยะอ่อนเพลีย และไม่ยอมหยุดวิ่ง
ยังมีหลากหลายสาเหตุ ที่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ระมัดระวัง และหมั่นสังเกตอาการตัวเองและทำตามคำแนะนำก่อนวิ่ง เพราะจากการบาดเจ็บเล็กน้อย อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้
(Some images used under license from Shutterstock.com.)