Haijai.com


IVM อีกหนึ่งทางเลือกใหม่ สำหรับคนมีบุตรยาก


 
เปิดอ่าน 5091

IVM อีกหนึ่งทางเลือกใหม่ สำหรับคนมีบุตรยาก

 

 

ในปัจจุบันนี้มีคู่สามีภรรยาที่แต่งงานกันแล้วจำนวนมาก ที่ไม่สามารถมีบุตรได้ในทันที ซึ่งอาจมาจากปัญหาของแต่ละฝ่าย เช่น ฝ่ายชายเป็นหมัน เชื้ออสุจิไม่แข็งแรง ฝ่ายหญิงประจำเดือนมาไม่ปกติ มดลูกไม่แข็งแรง ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ถ้านำมาวิเคราะห์ทางการแพทย์ก็จะพบว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้มีบุตรยากขึ้น

 

 

แต่ถึงแม้ว่าการมีลูกที่ยากขึ้นในปัจจุบัน ก็ไม่ได้เป็นผลทำให้คู่สามีภรรยาย่อท้อแต่อย่างใด  อาจเป็นเพราะเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับการมีลูกที่ง่ายขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ก็มีอยู่หลากหลายวิธี เช่น การทำกิฟท์ (GIFT), การทำซิฟท์ (ZIFT), การทำเท็ท (TET), การทำไอวีเอฟ (IVF), การทำอิ๊กซี่ (ICSI), การทำพีดีจี (PGD) ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้จะได้อธิบายให้เข้าใจในครั้งต่อๆ ไปว่าเทคโนโลยีแต่ละตัวมีขั้นตอนในการทำอย่างไร และที่จะนำเสนอในฉบับนี้จะเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยตัวใหม่ที่ชื่อว่า IVM (In Vitro Maturation)

 

 

ภาวะมีบุตรยาก

 

การมีบุตรยากคือ การที่คู่สามีภรรยาที่แต่งงานกันแล้ว และภรรยาไม่สามารถที่จะตั้งครรภ์ให้กำเนิดลูกได้ หลังจากการมีเพศสัมพันธ์กันอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี โดยขณะที่มีเพศสัมพันธ์กันก็ไม่ได้มีการคุมกำเนิดแต่อย่างใด มาดูกันว่าเปอร์เซ็นต์สาเหตุมาจากฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงมากกว่ากัน

 

 40-50% มาจากฝ่ายหญิง

 

 30-40% มาจากฝ่ายชาย

 

 5-10% มาจากทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายร่วมกัน

 

 

IVM คืออะไร

 

IVM (In Vitro Maturation) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยในเรื่องการมีบุตรยากสำหรับคู่สามีภรรยาที่สามารถตั้งครรภ์ได้ในทันที โดยการเก็บไข่ที่ยังโตไม่เต็มที่จากรังไข่ จากนั้นนำไข่ที่ได้มาเลี้ยงในห้องทดลองจนโตเต็มที่ ก่อนที่จะทำการผสมกับเชื้ออสุจิจนมีการปฏิสนธิที่สมบูรณ์ จากนั้นจึงย้ายกลับเข้าไปในโพรงมดลูก และทำการตรวจการตั้งครรภ์ภายหลัง

 

 

ขั้นตอนในการทำ IVM

 

 ตรวจหาไข่ที่ยังเจริญไม่เต็มวัยในรังไข่ด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์

 

 นำไข่ที่เก็บได้มาเลี้ยงในห้องทดลองประมาณ 2 วัน จนไข่มีความสมบูรณ์

 

 นำน้ำเชื้อที่มีความสมบูรณ์พร้อมผสม ฉีดเข้าไปในไข่ที่สมบูรณ์ ด้วยวิธี ICSI

 

 หลังจากที่ไข่และเชื้ออสุจิมีการปฏิสนธิอย่างสมบูรณ์แล้ว ก็จะทำการย้ายตัวอ่อนที่ได้นั้นเข้าไปในโพรงมดลูกของคุณแม่

 

 

ความสำเร็จจาก IVM

 

การใช้เทคโนโลยี IVM ช่วยในเรื่องการมีบุตรยากนั้น มีอัตราการตั้งครรภ์สูงสุดที่ 25-30% เมื่อเทียบกับการทำ IVF ซึ่งมีอัตราการตั้งครรภ์สูงสุดที่ 40% และมีข้อดีคือ เป็นวิธีที่ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด และการทำ IVM ยังมีความปลอดภัยสูง การทำ IVM ในคนที่มีบุตรยากนี้ หากทำในครั้งแรกแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ก็สามารถทำ IVM ได้อีกในครั้งต่อไป

 

 

จุดเด่นของเทคโนโลยี IVM

 

การทำ IVM เป็นวิธีการรักษาด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่มีความเป็นธรรมชาติ และปลอดภัยมากที่สุด รวมทั้งในเรื่องของการใช้ระยะเวลาที่สั้นมาก เพราะไม่มีการให้ยาหรือฮอร์โมนในการกระตุ้นใดๆ ก่อนการเก็บไข่ ช่วยให้คุณแม่ไม่ต้องเจ็บตัว และรับฮอร์โมนที่อาจเป็นอีกสาเหตุของการเกิดภาวะแทรกซ้อน รวมถึงค่าใช้จ่ายที่สูง

 

 

ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท

(Some images used under license from Shutterstock.com.)