Haijai.com


ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 กับหญิงตั้งครรภ์


 
เปิดอ่าน 2908

ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 กับหญิงตั้งครรภ์

 

 

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ หรือ Swine flu เป็นโรคทางเดินหายใจที่มีการติดต่อโดยการสัมผัส โดยปกติมีการติดเชื้อในสุกร แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาของเชื้อโดยมีการติดต่อจากคนสู่คน ซึ่งเรียกว่า A (H1N1) ซึ่งเป็นโรคระบาดไปทั่วโลกในปัจจุบัน มีระยะฟักตัว 1-4 วัน (อาจนานถึง 7 วัน) ระยะแพร่เชื้อก่อนมีไข้ 1 วัน ไปจนถึงมีอาการแล้ว 7 วัน

 

 

อาการเป็นอย่างไร

 

ไข้หวัดใหญ่ 2009 มีอาการเหมือนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลและความรุนแรงใกล้เคียงกัน โดยจะมีไข้ ปวดศีรษะ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน เบื่ออาหาร รับประทานได้น้อย หอบ ร้อยละ 95 ของผู้ป่วยจะสามารถหายป่วยได้เองภายใน 3-5 วัน โดยไม่ต้องทานยาต้านไวรัส ไข้หวัดใหญ่ 2009 มีผลกระทบต่อแต่ละบุคคลแตกต่างกัน ผู้ป่วยที่มีอาการน้อยอาจหายได้เองโดยไม่ต้องรับการรักษาที่โรงพยาบาล แต่สำหรับผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโรคนี้มักเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคปอด หอบหืด โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน เป็นต้น หรือเป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้มีภูมิต้านทานต่ำ โรคอ้วน อายุมากกว่า 65 ปี เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี

 

 

ทำไมถึงต้องมีการป้องกันอย่างเข้มงวด จนเหมือนเป็นโรคร้ายแรง

 

เนื่องจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 มีโครงสร้างที่ต่างจากสายพันธุ์อื่นๆ ทำให้มีการแพร่กระจายที่รวดเร็วมากจากคนสู่คน เชื้อนี้สามารถแพร่ได้ไกลถึง 1 เมตร จากการไอ จามของผู้ป่วย เมื่อเราไอหรือจามออกมา เชื้อโรคเหล่านั้นก็จะตกอยู่บริเวณใกล้เคียง เช่น โต๊ะหรือเสื้อผ้า และจะอยู่ได้นานเกือบชั่วโมง ยิ่งถ้าเป็นน้ำมูกแล้วล่ะก็ นานกว่าถึง 2-3 ชั่วโมง เป็นเหตุทำให้เชื้อสามารถกระจายไปได้เกือบทั่วโลกอย่างรวดเร็ว

 

 

หากหญิงตั้งครรภ์ได้รับเชื้อไข้หวัด 2009 จะส่งผลอย่างไรต่อเด็กในครรภ์

 

สำหรับในหญิงตั้งครรภ์ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ถูกระบุว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ง่าย เพราะระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายหญิงตั้งครรภ์จะลดลงจากภาวะปกติเล็กน้อย ดังนั้นหญิงตั้งครรภ์จึงต้องระวังป้องกันตนเองเป็นพิเศษ  เนื่องจากการรับเชื้อไข้หวัดตามฤดูกาลของหญิงตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้ง่าย จึงมีเหตุผลที่เป็นไปได้ว่าการรับเชื้อไวรัสชนิดใหม่นี้ก็เช่นกัน อีกทั้งไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้เรายังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะสามารถผ่านรกเข้าไปสู่ทารกในครรภ์ได้หรือไม่ ดังนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์จึงต้องดูแลตนเองเป็นพิเศษ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของตัวคุณแม่เองและทารกในครรภ์ อย่างไรก็ตามคุณแม่ไม่ควรตระหนกจนเกินไป การติดเชื้อไข้หวัดไม่ได้หมายความว่าคุณแม่และทารกอยู่ในอันตราย มีหญิงตั้งครรภ์จำนวนมากที่ติดเชื้อไข้หวัดแต่ไม่มีอาการแทรกซ้อน เพียงแต่โดยสถิติแล้วหญิงตั้งครรภ์มีโอกาสที่จะมีอาการรุนแรงจากการติดเชื้อไข้หวัดได้ จึงต้องพึงระลึกว่า ไข้หวัดอาจทำให้อาการเลวลงอย่างรวดเร็ว และมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม อุบัติการณ์ที่หญิงตั้งครรภ์จะมีอาการรุนแรงจากไข้หวัด ได้มาจากการศึกษาและสังเกตจากการระบาดครั้งก่อนๆ และหญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการรุนแรงจากไข้หวัดตามฤดูกาล ยกตัวอย่างเช่น มีอุบัติการณ์เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับไข้หวัด อัตราการแท้ง และอัตราการคลอดก่อนกำหนด สูงขึ้นกว่าปกติในช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัดในปี 1918–1919 และ 1957–1958

 

 

หญิงให้นมบุตรที่ได้รับเชื้อไข้หวัด 2009 สามารถให้นมบุตรต่อไปได้หรือไม่

 

ทารกที่ไม่ได้รับการเลี้ยงดูด้วยนมมารดามีโอกาสที่จะได้รับเชื้อ และต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลมากกว่าทารกที่ได้รับการเลี้ยงดูด้วยนมมารดา หญิงที่ไม่ได้ป่วยด้วยไข้หวัดควรได้รับการสนับสนุนให้เลี้ยงบุตรด้วยนมมารดา ซึ่งทารกจะได้รับสารอาหารที่เหมาะสมและภูมิคุ้มกันโรค

 

 

ทารกแรกเกิดนั้นเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงหากได้รับเชื้อไข้หวัด 2009 แต่ปัจจุบันการป้องกันการติดเชื้อในทารกแรกเกิดนั้นทำได้น้อยมาก ดังนั้นหากเป็นไปได้ควรอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่ร่างกายแข็งแรงและไม่ได้กำลังป่วยอยู่เป็นผู้ดูแลทารกรวมถึงการให้นมด้วย ความเสี่ยงของการติดต่อของไข้หวัด 2009 ผ่านทางน้ำนมมารดานั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด อย่างไรก็ตามการติดต่อผ่านทางเลือดของไวรัสไข้หวัดตามฤดูกาลนั้นน้อยมาก ซึ่งการติดต่อของไวรัสไข้หวัดตามฤดูกาลผ่านทางน้ำนมมารดาก็น้อยมากๆ เช่นเดียวกัน

 

 

ดังนั้นในคุณแม่ที่ป่วยหากสามารถปั๊มน้ำนมสำหรับให้ทารกดูดจากขวดได้ก็ยังสามารถทำได้ แต่ก็ต้องระวังเรื่องความสะอาดมากเป็นพิเศษเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรคจากภายนอกเข้าไปในน้ำนม และการให้ยาต้านไวรัสเพื่อรักษาหรือเพื่อป้องกันในหญิงให้นมบุตรก็ไม่ได้เป็นข้อห้ามแต่อย่างใด

 

 

จะทำอย่างไรเมื่อมีคนในครอบครัวติดเชื้อไข้หวัด 2009

 

คุณแม่ควรปรึกษาสูติแพทย์ที่รับฝากครรภ์ทันที และคุณอาจต้องมาที่โรงพยาบาลเพื่อเก็บตัวอย่างจากระบบทางเดินหายใจเพื่อนำไปตรวจคัดกรอง เพื่อให้ได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงทีหากคุณได้รับเชื้อไข้หวัด 2009 ด้วย

 

 

ไข้หวัด 2009 สามารถรักษาได้หรือไม่

 

ปัจจุบันยังไม่มียาสำหรับการรักษาไข้หวัด 2009 โดยเฉพาะ แต่ยาต้านไวรัสจะสามารถช่วยบรรเทาอาการได้ และช่วยให้หายจากโรคเร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนลงด้วย

 

 

ปัจจุบันยาต้านไวรัสสามารถสั่งให้กับเด็กที่อายุมากกว่า 1 ปี ยังไม่มีรายงานการศึกษาวิจัยซึ่งรับรองว่ามีความปลอดภัย หากใช้กับทารกที่อายุน้อยกว่านั้น หรือสำหรับหญิงตั้งครรภ์ แต่ก็ยังเป็นไปได้ว่าแพทย์อาจสั่งยาต้านไวรัสให้หากมีความจำเป็น โดยเฉพาะเมื่อมีการระบาดของโรค การใช้ยาอาจมีผลดีมากกว่า

 

 

คุณแม่สามารถป้องกันตัวเองจากไข้หวัด 2009 ได้ดังนี้

 

1.ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ หรือใช้แอลกอฮอล์เจลทำความสะอาดมือ

 

 

2.หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนแออัดและอากาศถ่ายเทไม่ดี

 

 

3.ใส่ผ้าปิดปากและจมูกเพื่อป้องกันการรับเชื้อจากผู้อื่น

 

 

4.ไม่ใช้แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อนอาหาร ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดหน้าร่วมกับผู้อื่น

 

 

5.รักษาสุขภาพให้แข็งแรงด้วยการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ดื่มน้ำมากๆ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

 

 

6.หากมีไข้ภายใน 7 วัน หลังเดินทางกลับจากประเทศที่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ หรือเป็นผู้สัมผัสร่วมบ้าน ในที่ทำงาน กับผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัดใหญ่หรือปอดอักเสบให้รีบพบแพทย์

 

 

วัคซีนป้องกันไข้หวัด 2009

 

ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานว่า วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลจะป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A (H1N1) ได้ อย่างไรก็ตามผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรังควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล

 

 

ม.ร.ว.นพ.ทองทิศ ทองใหญ่

(Some images used under license from Shutterstock.com.)





ยกกระชับช่องคลอด Vaginal Lift Vaginal Morpheus Pro Morpheus ยกกระชับ Oligio Body Oligio IV Drip ดริปวิตามิน Emsella รีแพร์ เลเซอร์นอนกรน นอนกรน Indiba ปากกาลดน้ำหนัก ลดน้ำหนัก Emsculpt สลายไขมัน สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting romrawin รมย์รวินท์ Belotero ผิวฉ่ำ Glassy Skin Juvederm Coolsculpting เลเซอร์รอยสิว Meso Hair Skinvive ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์น้องชาย ฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์คาง ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฉีดโบหางตา ฉีดโบลิฟกรอบหน้า ฉีดโบหน้าผาก ฉีดโบยกมุมปาก ฉีดโบปีกจมูก ฉีดโบลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ฉีดโบลดกราม ฉีดโบรักแร้ ฉีดโบลดริ้วรอย โบลดริ้วรอย ดื้อโบลดริ้วรอย Volnewmer Linear Z ยกมุมปาก Morpheus8 ลดร่องแก้ม Ultraformer III Ultraformer MPT Emface Hifu ยกกระชับหน้า Ultherapy Prime Ulthera Ulthera Thermage FLX Thermage Oligio Oligio ร้อยไหมจมูก ร้อยไหม เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนน้องสาว เลเซอร์ขนหน้า เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน เลเซอร์ขนขา เลเซอร์หนวด เลเซอร์รักแร้ กำจัดขนถาวร กำจัดขน เลเซอร์ขน เลเซอร์ขน Pico Laser Pico Majesty Reepot Laser Gouri Exosome Harmonyca Profhilo Sculptra Sculptra Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse UltraClear AviClear Accure Laser Fit Firm Emsculpt Coolsculpting Elite NAD+ ดีท็อกลำไส้ EIS BIO SCAN ICELAB IV DRIP Vaginal P-SHOT O-Shot LLLT ปลูกผม รักษาผมร่วง ผมร่วง ผมบาง ปลูกผม ปลูกผมถาวร ปลูกผม FUE ปลูกผม ดูดไขมัน ดึงหน้า ทำตาสองชั้น เสริมจมูก ยกคิ้ว เสริมหน้าอก วีเนียร์ Apex