
© 2017 Copyright - Haijai.com
เสริมสะโพกยังไงให้สวยเด้งดึ๋ง
“อกเป้นอก เอวเป็นเอว ก้นเป็นก้น” นิยามของหญิงในฝันสำหรับผู้ชายหลายๆ คน ดังนั้น ทั้งหญิงแท้และหญิงเทียมจึงอยากมีสัดส่วนรูปร่างที่น่ามอง เพื่อเพิ่มความดึงดูดและความสนใจต่อเพศตรงข้าม เพื่ออาชีพ หน้าที่การงาน และเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ให้กับรูปร่างของตัวเอง โดยเฉพาะหน้าอกและสะโพก เพราะไม่มีใครเกิดมาเพอร์เฟ็กต์ บางคนมีหน้าอกแต่ไม่มีสะโพก บางคนมีสะโพกแต่ไม่มีหน้าอก หรือบางคนมีปัญหาสะโพกหย่อนคล้อยก้นแฟ่บ สวยใส่เสื้อผ้าแล้วไม่สวย ไม่มั่นใจ สะโพกมีขนาดเล็ก ไม่สมดุลกับส่วนอื่นของร่างกาย หลายคนจึงมีความต้องการที่จะเสริมสะโพกให้สวย กลมกลึง กระชับเด้งดึ๋ง แก้ปัญหาบั้นท้ายไม่งอนงาม
การผ่าตัดเพิ่มความสวยงามของสะโพก หรือการเสริมสะโพกนั้น เดิมทีได้รับความนิยมมากในกลุ่มประเทศเม็กซิโก บราซิล เปรู และประเทศอื่นๆ ในแถบอเมริกาใต้ แต่ภายในรยะไม่กี่ปีที่ผ่านมา เริ่มมีความนิยมในแถบเอเชียมากขึ้น เช่นเดียวกับในประเทศไทย ซึ่งเดิมสะโพกใหญ่ไม่เป็นที่นิยม แต่ระยะหลังเริ่มมีการถามถึงการเสริมสะโพกกันมากขึ้น แต่ต่างกันกับประเทศในลาตินอเมริกาตรงที่ สะโพกที่นิยมของสาวเอเชียจะไม่ใหญ่มาก แต่เน้นความกลมกลึงและดูกระชับมากกว่า
การเสริมสะโพกโดยทั่วไปมักใช้วิธีเสริมด้วยไขมันตนเอง หรือที่รู้จักกันในทางเทคนิคว่า “การปลูกถ่ายไขมัน” หรือเรียกง่ายๆ ว่า “Brazilian Butt Lift” ซึ่งเป็นการดูดไขมันจากบริเวณที่คนไข้ไม่ต้องการ เช่น หน้าท้อง ต้นขา แล้วนำไขมันนั้นมาฉีดเข้าไปในสะโพก เพื่อบั้นท้ายมีรูปร่างดังที่คนไข้ต้องการ
การเสริมสะโพกได้รับความนิยม เนื่องจากแนวโน้มทางวัฒนธรรมและสื่อที่นำเสนอรูปภาพ และเรื่องราวของบุคคลที่มีความสนใจในการเสริมสะโพก แต่สำหรับคนธรรมดาทั่วไป อาจจะมีข้อสงสัยว่า จะเสริมสะโพกดีหรือไม่ เพราะไม่ได้เป็นดาราหรือคนดังที่ต้องออกสื่อเป็นประจำ และไม่ได้มีรูปร่างเป็นส่วนหนึ่งของการประกอบอาชีพ ลองถามตัวเองดังคำถามต่อไปนี้ แล้วจะได้คำตอบว่า คุณควรจะเสริมสะโพกดีหรือไม่
• สะโพกของคุณมีขนาดเล็กเกินไป ไม่สมส่วนกับสัดส่วนอื่นๆ ของร่างกาย
• สวมใส่เสื้อผ้าไม่พอดี ไม่สวยงาม
• มีปัญหาสะโพกหย่อนคล้อย แบน ไม่กลมกลึง
• รูปร่างหรือขนาดของบั้นท้ายทำให้คุณไม่มั่นใจ และประหม่าทุกครั้ง เวลาอยู่ในที่สาธารณะ
ลักษณะทางกายวิภาคของสะโพก
ลักษณะทางกายวิภาคของบริเวณสะโพกนั้น นายแพทย์ Montagu ได้กล่าวไว้ในปี ค.ศ. 1966 ว่า ลักษณะของสะโพกมนุษย์ต่างจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น เช่น ลิง เนื่องจากเป็นวิวัฒนาการที่คนยืนและเดินตัวตรง กล้ามเนื้อบริเวณสะโพก ซึ่งกล้ามเนื้อหลักคือ กล้ามเนื้อกลูเตียส (Gluteus muscles) ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างลำตัวกับต้นขา ช่วยในเรื่องของการทรงตัว และส่งแรงต่อลงมายังปลายขา ทำให้กล้ามเนื้อหนาตัวขึ้น นอกจากนี้ส่วนของสะโพกยังมีไขมันที่อยู่เหนือกล้ามเนื้อ ซึ่งมากหรือน้อยก็แตกต่างกันตามเชื้อชาติ ทำให้ลักษณะสะโพกแตกต่างกันอีกด้วย
สะโพกสวยเป็นอย่างไร
สะโพกที่สวยคือสะโพกที่เต็ม กลมกลึง ร่วมกับเอวที่คอด โดยสัดส่วนของช่วงเอวต่อสะโพกที่สวยงามคือ น้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.7 เท่า โดยวัดจากรอบเอวที่คอดมากที่สุด หารด้วยรอบสะโพกตรงที่บั้นท้ายนูนมากที่สุด และเมื่อมองทางด้านข้างระยะของเส้นที่ลากจากปุ่มกระดูกข้างสะโพก (Greater trochanter) ไปยังหัวหน่าว จะเท่ากับครึ่งหนึ่งหรือน้อยกว่าครึ่งของเส้นที่ลากจากปุ่มกระดูกดังกล่าว ไปยังบั้นท้ายส่วนที่นูนที่สุด
ซึ่งแน่นอน ลักษณะของสะโพกที่เป็นที่ชื่นชอบ ย่อมแตกกันไปในแต่ละพื้นที่ของโลก และความนิยมของแต่ละเชื้อชาติ โดยชาวเอเชียชอบขนาดสะโพกที่ไม่ใหญ่และไม่นูนออกด้านข้าง ชาวนะวันตกผิวขาวชอบสะโพกขนาดใหญ่มากขึ้น ส่วนชาวลาตินอเมริกาและแอฟริกันชอบสะโพกขนาดใหญ่มาก และกลมออกมาทางด้านข้างของสะโพกและต้นขาด้วย ดังในตาราง
Table 1 Ethnic Ideals of Beautiful Buttocks
|
Buttock Size |
Lateral Buttock Fullness |
Lateral Thigh Fullness |
Asian |
Small to moderate, but shapely |
No |
No |
Caucasian |
Full, but not extremely large |
Rounded (voluptuous) or hollor athletic |
No |
Hispanic |
Very full |
Very full |
Sight fullness |
African American |
As full as possible |
Very full |
Very full |
Source: Robert TL III, Weinfifeld AB, Bruner TW, Nguyen K. “Universal” and ethnic ideals of beautiful buttocks are best obtained by autologous micro fat grafting and liposuction. Clin Plast Surg 2006;33:371-394 |
ตารางแสดงความชอบลักษณะสะโพกของแต่ละเชื้อชาติ
สาเหตุของสะโพกหย่อนคล้อย
สาเหตุที่ทำให้สะโพกหย่อนคล้อยไม่กระชับ เกิดจากอายุที่มากขึ้น ทำให้เกิดการคล้อยลงของเนื้อเยื่อตามแรงโน้มถ่วงของโลก และเกิดจากการนั่งเป็นเวลานาน นอนเป็นเวลานาน ขาดการออกกำลังกาย ทำให้กล้ามเนื้อฝ่อตัวลง ผลโดยรวมทำให้รูปร่างของสะโพกทางด้านบนแบนลง ความกว้างทางด้านบนลดลง และร่องก้นจะยาวขึ้นทางด้านข้าง และย้อยลงล่างไม่คงลักษณะกลมกลึงดังเช่นเคย
วิธีการทำให้สะโพกกระชับ
มีท่าการออกกำลังกายง่ายๆ คือ การทำท่าสควอท โดยยืนแยกขาพอประมาณ มือสองข้างประสานกันยกไว้ระดับใบหน้า หรือเหยียดแขนตรงไปข้างหน้า ย่อเข่าลงช้าๆ โดยไม่ให้เข่าล้ำหน้าปลายเท้า ค้างไว้สักพัก ยืนขึ้น แล้วย่อลงอีก สลับกันไป ระหว่างย่อจะรู้สึกเมื่อยที่ก้นและต้นขา วิธีการนี้เป็นที่นิยมในหมู่พริตตี้ของชุดชั้นในสตรีระดับโลก
การดูแลสะโพกให้สวยงามอยู่เสมอนั้น มีองค์ประกอบหลักอยู่ 2 ประการ คือ ปริมาณ และผิว สำหรับปริมาณ หากออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอในท่าบริหารที่ถูกต้อง จะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง สะโพกจะใหญ่ขึ้นและกระชับขึ้น ที่สำคัญคือ อย่าลืมดูแลผิวพรรณบริเวณสะโพกให้นุ่มนวลชุ่มชื้น เพราะหากสะโพกใหญ่ แต่ผิวแตกลายงา ย่อมไม่น่าดูเช่นกัน
ปรึกษาแพทย์ก่อนเลือกวิธีเสริมสะโพก
ในระหว่างการปรึกษาแพทย์จะถามว่า คนไข้อยากให้บั้นท้ายมีลักษณะแบบไหน การเตรียมรูปภาพตัวอย่างของสะโพกที่ต้องการไปให้ดู จะช่วยให้แพทย์เข้าใจและรับมือกับความคาดหวังของคนไข้ได้ดีขึ้น และทำให้ผลลัพธ์หลังทำการผ่าตัดรักษา ออกมาแนบเนียนยิ่งขึ้น ศัลยแพทย์ที่ทำการผ่าตัดจะวินิจฉัยสะโพกและส่วนใหญ่จะถ่ายภาพ เพื่อบันทึกขนาดและรูปทรงของสะโพกไว้ เพื่อพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ขนาดและรูปร่างของสะโพก ลักษณะของผิวหนังบริเวณสะโพก เพื่อเลือกวิธีในการรักษาอย่างเหมาะสม ควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติทางการแพทย์ เช่น เป็นโรคภูมิแพ้หรือไม่ เคยได้รับการผ่าตัดหรือไม่ โรคประจำตัว และยาที่ใช้เป็นประจำ หากเป็นการรักษาด้วยการเสริมไขมันตนเอง อาจต้องรักษาระดับน้ำหนักของร่างกายให้คงที่ด้วย
เสริมสะโพกยังไงให้เด้งดึ๋ง
การเสริมสะโพกโดยทั่วไปมีหลายวิธี เช่น การเสริมซิลิโคน การฉีดไขมันตนเอง และการฉีดสารเติมเต็ม เพื่อให้ผลลัพธ์หลังการเสริมสะโพกออกมาเป็นที่พอใจ จึงควรศึกษาข้อมูลรายละเอียดและทำความเข้าใจกับการเสริมด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
1.การเสริมซิลิโคน
การเสริมซิลิโคนที่สะโพกนั้น พัฒนารูปแบบและวิธีการมาจากทางลาตินอเมริกา โดยถุงซิลิโคนที่นำมาเสริมสะโพกจะมีความแข็งแรงมากกว่าถุงซิลิโคนสำหรับเสริมเต้านม เพราะต้องรับแรงกระแทกและแรงกดทับจากการนั่ง ภายในถุงบรรจุซิลิโคนเจล ถุงซิลิโคนสำหรับเสริมสะโพก มี 2 แบบ คือ แบบทรงกลมและแบบหยดน้ำ หรือวงรี, อัลมอนด์ หรือ อาจเรียกว่าทรงธรรมชาติ) ถุงทรงกลมจะมีรูปร่างกลม ถ้าใส่ในระดับใต้ผิวหนัง อาจทำให้มองเห็นรูปร่างและขอบเขตของถุงซิลิโคนได้ชัด จึงทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ ถุงทรงหยดน้ำหรือทรงธรรมชาติจะเป็นรูปทรงวงรี ข้อดีคือให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ แต่ข้อเสียคือ หากมีการหมุนของถุงซิลิโคน จะทำให้มองเห็นความแตกต่างระหว่างสะโพกทั้งสองข้างอย่างเห็นได้ชัด ก่อนทำการเสริมแพทย์จะทำการตรวจร่างกายว่า ควรใช้ซิลิโคนรูปร่างแบบใด ปริมาณเท่าใด โดยคร่าวๆ ถ้าต้องการให้ผายออกทางด้านข้างมาก แพทย์จะใช้ทรงแอลมอนด์ ซึ่งเป็นที่นิยมในแถบลาตินอเมริกา แต่ทางเอเชียมักใช้แบบทรงกลมปริมาณที่ใช้อยู่ระหว่าง 200-350 ซีซี ต่อข้าง
2.ขั้นตอนการผ่าตัด
หลังดมยาสลบ แพทย์จะจัดให้คนไข้อยู่ในท่านอนคว่ำ แล้วผ่าตัดเพื่อเปิดแผล ซึ่งในการผ่าตัดจะมีบริเวณในการเปิดแผล 3 ตำแหน่งด้วยกัน คือ
2.1.บริเวณขอบขนของสะโพกทั้ง 2 ข้าง สามารถทำได้ง่าย แต่ข้อเสียคือ มีแผลเป็น
2.2.บริเวณขอบล่างของสะโพก ตรงตำแหน่งรอยต่อของต้นขากับสะโพก วิธีนี้สามารถทำได้ง่ายเช่นกัน แต่ก็มองเห็นแผลเป็นได้ชัด
2.3.บริเวณกลางกระดูกก้นกบ หรือง่ามก้น เป็นการเปิดแผลที่นิยมที่สุด เพราะอยู่ตรงตำแหน่งของร่องก้นพอดี ดังนั้น จึงเป็นการซ่อนแผลเป็นได้อย่างดี และเปิดแผลเพียงแผลเดียว ข้อเสียคือ มีโอกาสติดเชื้อมากกว่า 2 ตำแหน่งแรก
เมื่อเปิดแผลแล้วจึงทำการวางถุงซิลิโคนลงไป สำหรับการวางซิลิโคนสามารถวางได้ 3 ระดับ คือ ระดับใต้ผิวหนัง ระดับใต้กล้ามเนื้อหรือระหว่างกล้ามเนื้อ และระดับใต้พังพืดกล้ามเนื้อ โดยการวางใต้ผิวหนังเป็นการวางถุงซิลิโคนไว้เหนือกล้ามเนื้อ ข้อดีคือ เห็นสะโพกนูนเด่นชัดเจนและไม่มีอันตรายกับเส้นประสาทใหญ่ แต่อาจเห็นรูปร่างของถุงซิลิโคนชัดเจน และมีโอกาสเกิดการทะลุของถุงซิลิโคนได้
ส่วนการวางในระดับใต้กล้ามเนื้อหรือระหว่างกล้ามเนื้อนั้น ขึ้นอยู่กับกล้ามเนื้อสะโพกของคนไข้ ดังนั้น จึงสามารถทำได้ในบางคนเท่านั้น โดยเป็นการเปิดช่องในกล้ามเนื้อสะโพกระหว่างกล้ามเนื้อสะโพก 2 มัด และใส่ถุงซิลิโคนเข้าไป ข้อดี คือ โอกาสการมองเห็นถุงซิลิโคน และการเกิดการทะลุมีน้อย และการวางในระดับใต้พังพืดกล้ามเนื้อ ข้อดีคือ ไม่มีโอกาสเกิดอันตรายกับเส้นประสาท และมองเห็นสะโพกนูนได้อย่างชัดเจน โดยเทคนิคในการเสริมขึ้นอยู่กับสรีระของคนไข้ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมิน หลังผ่าตัดต้องนอนคว่ำ หรือนอนตะแคง 3-5 วัน ห้ามนอนหงาย หากจำเป็นต้องนอนหงายให้ใช้ห่วงยางรองให้ก้นอยู่ในหลุมของห่วงยาง
ข้อดีของการเสริมสะโพกด้วยซิลิโคนคือ สะโพกจะได้รูปร่างเร็วและเสริมได้ใหญ่กว่าวิธีอื่น ข้อเสียคือ อาจมีการติดเชื้อ แผลแยก เลือดคั่ง หรือซิลิโคนแตกได้ ซึ่งผลข้างเคียงโดยรวมเกิดได้ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ ในรายที่ซิลิโคนแตก ดูจากรายงานส่วนใหญ่เกิดจากการหกล้ม ก้นกระแทกอย่างแรงนั่นเอง
3.การฉีดไขมันตนเอง
การฉีดไขมัน เป็นการเติมสะโพกด้วยไขมันตนเอง โดยแพทย์จะทำการดูดไขมันจากส่วนที่ไม่ต้องการ เช่น หน้าท้อง ต้นขา แล้วนำมาฉีดบริเวณสะโพก โดยมากทำภายใต้การดมยาสลบเช่นกัน หลังผ่าตัด ปฏิบัติตัวเช่นเดียวกับเสริมด้วยซิลิโคน แต่ต่างกันที่ห้ามนวดบริเวณที่ฉีดไขมันเด็ดขาด เพราะทำให้ไขมันสลายได้
ข้อดีของการฉีดไขมันที่เห็นได้ชัดคือ นอกจากจะเป็นเนื้อเยื่อของตนเอง ตัดปัญหาเรื่องการแพ้สารฉีดและผลแทรกซ้อนของซิลิโคน แล้วยังเป็นการลดสัดส่วนบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการโดยเฉพาะหากมีไขมันบริเวณเอว หรือต้นขามาก การดูดไขมันจากบริเวณดังกล่าวจะยิ่งช่วยทำให้สะโพกสวยเด่นขึ้นมาก เนื่องจากสัดส่วนระหว่างเอวและสะโพกจะดีขึ้นตามที่กล่าวไว้ตอนต้น
ข้อเสียคือหากต้องดูดไขมันจากบริเวณหน้าท้องด้วย จะต้องพลิกตัวคนไข้จากหงายเป็นคว่ำ เพื่อดูดไขมันทางด้านหลังและฉีดไขมันต่อ ทำให้ระยะเวลาที่ใช้ในการผ่าตัดยาวนานขึ้น ข้อเสียอีกอย่างของการฉีดไขมันคือ ไขมันบางส่วนจะสลายไปประมาณ 30-50 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งตึงมากยิ่งสลายมาก ดังนั้น การฉีดไขมันจะได้รูปร่างสะโพกที่ดีขึ้น แต่ไม่ใหญ่มากเท่ากับการใส่ซิลิโคน
4.การฉีดสารเติมเต็ม
สำหรับการฉีดสารด้วยฟิลเลอร์และคอลลาเจน ไม่ค่อยมีกล่าวถึงในงานตีพิมพ์ทางการแพทย์ เนื่องด้วยการฉีดฟิลเลอร์นั้น ให้ผลการรักษาที่ไม่ถาวร และต้องใช้สารในปริมาณมาก ทำให้มีราคาสูงมาก ส่วนคอลลาเจนและซิลิโคนเหลวราคาถูกกว่าก็จริง แต่มีปัญหาเรื่องความบริสุทธิ์ของสาร เกิดการไหลของสารลงมาบริเวณอื่นหรือจับัวเป็นก้อนตะปุ่มตะป่ำ และทำให้เกิดอาการแพ้ถึงขั้นเสียชีวิตได้
และเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ มีข่าวว่าสาวเกาหลี โดยเฉพาะในหมู่ศิลปินหญิงวัยรุ่น นิยมฉีดไขมันบั้นท้าย เพื่อทำให้สะโพกดูดีเด้งดึ๋งมากขึ้น อย่างเกิร์ลกรุ๊ปวงดัง Girl’s generation, Girls Day และ F(x) เพราะนอกจากใบหน้าที่สวยน่ารักแล้ว รูปร่างยังเป็นจุดขายสำคัญของนักร้องสาวชาวเกาหลี เพราะการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร อาจยังไม่เพียงพอต่อการมีรูปร่างที่ดี สาวๆ เหล่านี้จึงพึ่งเทคโนโลยีทางการแพทย์มาช่วยในการรักษารูปร่าง โดย “เทรนด์การฉีดไขมันบั้นท้าย” ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ศิลปินหญิงวัยรุ่นวงดังของเกาหลีนั้น ในหมู่สาวไทยก็กำลังเริ่มให้ความสนใจการเสริมสะโพกมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากมีการไปฉีดสารต่างๆ เข้าสะโพกกันจนมีข่าวพริตตี้นิทรา ซึ่งเป็นอุทาหรณ์อย่างดีให้กับสาวๆ ที่สนใจเสริมสะโพก ดังนั้น จึงต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนฉีดสารใดๆ เข้าร่างกายด้วยทุกครั้ง
การทำศัลยกรรมตกต่างนั้น ช่วยแก้ไขจุดบกพร่องและเสริมความมั่นใจให้ได้ แต่ควรอยู่ในพื้นฐานที่มีความรู้ความเข้าใจ ผู้หญิงยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและความงาม ต้องศึกษาถึงวิธีการในการทำ และข้อดีข้อเสียด้วย ไม่ทำตามคำชักชวนหรือทำตามๆ กัน โดยไม่ศึกษาให้ดีก่อน เพื่อความปลอดภัยของทุกคนแนะนำให้ปรึกษาแพทย์และทำการรักษาในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และแนะนำอย่างยิ่งว่า ไม่ควรฉีดซิลิโคนเหลวหรือคอลลาเจนจากสัตว์ เพราะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
พญ.พูนพิศมัย สุวะโจ
ศัลยแพทย์ตกแต่งและเสริมสร้าง
(Some images used under license from Shutterstock.com.)