
© 2017 Copyright - Haijai.com
แมมโมแกรมทางรอดจากมะเร็ง
มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประเทศพัฒนา และอันดับ 1 ในประเทศที่มีเศรษฐานะปานกลางและต่ำ จากสถิติขององค์การอนามัยโลกล่าสุดระบุว่า ในปี ค.ศ.2012 ที่ผ่านมา มะเร็งเต้านมคร่าชีวิตมนุษย์ไปทั้งสิ้น 521,000 รายทั่วโลก
การศึกษาระดับนานาชาติ ซึ่งตีพิมพ์ในสหรัฐอเมริกาเมื่อเร็วๆ นี้ ระบุว่า ผู้หญิงวัย 50-69 ปี ที่ได้รับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมด้วยวิธีตรวจเอกซเรย์เต้านม (mammogram) มีอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งเต้านมน้อยกว่าคนที่ไม่ได้รับการตรวจ 40% รายงานชิ้นนี้เป็นผลงานการทำวิจัยของผู้เชี่ยวชาญจาก 16 ประเทศทั่วโลก โดยศึกษาจากรายงานการทดลองทางคลินิกแบบเปรียบเทียบ (controlled) จำนวน 11 ชิ้น และเป็นรายงานแบบสังเกตพบ (observational) 40 ชิ้น
ในรายงานกล่าวว่าการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยวิธีแมมโมแกรม มีประโยชน์มากที่สุดสำหรับผู้หญิงที่อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 50-69 ปี หรือแม้แต่ผู้หญิงที่มีอายุ 70-74 ปี ก็ยังได้ประโยชน์จากการเอกซเรย์เต้านม (เดิมทีมีคนกล่าวว่า ไม่ได้ประโยชน์) อย่างไรก็ตามในรายงานการวิจัยระบุว่า มีหลักฐานเพียงไม่กี่ชิ้นที่สนับสนุนการตรวจแมมโมแกรม เพื่อคัดกรองมะเร็งเต้านมในผู้หญิงวัย 40 ปีกว่าๆ
การศึกษานี้ยังแสดงให้เห็นว่า ผลดีของแมมโมแกรมมีมากกว่าผลเสีย ซึ่งหมายรวมถึง ผลบวกลวง การวินิจฉัยมะเร็งเกินความเป็นจริง (ทำให้ต้องตัดชิ้นเนื้อตรวจมากกว่าที่ควร) และการเกิดมะเร็งจากการฉายรังสีตรวจมากเกินจำเป็น อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีหลักฐานชี้ว่า การตรวจแมมโมแกรมนั้นมีประสิทธิภาพ แต่นักวิจัยก็ยังคงต้องทำการวิจัยหาวิธีอื่นๆ เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมต่อไป เช่น สร้างภาพเต้านมแบบตัดแยกออกเป็นแว่นๆ ในระบบดิจิตัล (digital breast tomosynthesis) เป็นต้น
ทั้งนี้ทีมผู้วิจัยหวังว่างานวิจัยชิ้นนี้จะสร้างความมั่นใจ ให้แก่ผู้หญิงทั่วโลกได้ว่า การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยวิธีแมมโมแกรม สามารถช่วยให้รอดตายได้ เพราะการตรวจด้วยวิธีนี้เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการวินิจฉัยหามะเร็งเต้านม ในระยะแรกเริ่ม จึงลดอัตราการเสียชีวิตลงได้
(Some images used under license from Shutterstock.com.)