Haijai.com


ร้อนวูบวาบ สัญญาณเตือนก่อนหมดระดู


 
เปิดอ่าน 5831

นวดแบบจีน แก้ร้อนวูบวาบ

 

 

ผู้หญิงเมื่ออายุย่างเข้า 40 ปี รังไข่จะเริ่มเสื่อมสภาพ ปริมาณการตกไข่จะลดลง และในที่สุดก็เข้าสู่วัยหมดระดู ซึ่งมักใช้เวลา 4 ปี ฉะนั้นการหมดระดูของผู้หญิงจะอยู่ในช่วงอายุ 43-52 ปี

 

 

การเข้าสู่วัยหมดระดูถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง ที่ผู้หญิงจะต้องปรับตัวอย่างมาก เนื่องจากจะเริ่มมีอาการบางอย่างมารบกวนทำให้สภาพจิตใจแย่ลง

 

 

สัญญาณเตือนก่อนหมดระดูเริ่มจะมีรอบระดูยาวขึ้น เกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนต่างๆ เช่น ฮอร์โมนเอสโทรเจนที่รังไข่สร้างจะลดลง ระดับฮอร์โมนเอฟเอสเอช (FSH-Follicle Stimulating Hormone) ที่สร้างจากต่อมใต้สมองเพื่อกระะตุ้นให้มีการตกไข่จะสูงขึ้น

 

 

อาการที่พบได้บ่อย คือ ร้อนวูบวาบ โดยจะเกิดผื่นแดงบริเวณศีรษะ คอ หน้าอก แบบทันทีทันใด เหงื่อออกมาก ใจสั่นอาการมักเกิดนาน 2-3 วินาที ถึง 10 นาที หรือเป็นถี่ทุก 1-2 ชั่วโมง อาการจะปรากฏนาน 1-2 ปี มักเป็นบ่อยช่วงกลางคืน ซึ่งรบกวนการนอนหลับและนำไปสู่ภาวะเครียดได้

 

 

เชื่อว่าอาการร้อนวูบวาบเกิดจากระบบประสาทส่วนกลางทำงานผิดปกติ อาการจะมากหรือน้อยมีปัจจัยเรื่องเชื้อชาติเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยผู้หญิงในทวีปอเมริกาและยุโรปจะมีอาการมากกว่าผู้หญิงในทวีปอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นที่ทำให้มีอาการมากขึ้น เช่น ความอ้วน การสูบบุหรี่ ความเครียด หรือเคยเป็นโรคซึมเศร้า

 

 

สิ่งแวดล้อมก็มีส่วนกระตุ้นอาการได้ เช่น อยู่ในสภาพอาการร้อนจัด ใส่เสื้อผ้าจัด กินอาหารรสเผ็ดร้อน หรือตกอยู่ในสถานการณ์รีบเร่ง เคร่งเครียด

 

 

แพทย์แผนจีนอธิบายสาเหตุที่รังไข่ทำงานลดลงว่า เกิดจากพลังไตอ่อนแอ โดยเฉพาะไตหยิน เมื่ออายุมากขึ้น ความเป็นหยินซึ่งหมายถึงน้ำในร่างกายจะลดลง เมื่อน้ำลดลง ทำให้เกิดความร้อนได้ง่าย อาการร้อนวูบวาบที่เกิดขึ้น จึงมาจากภาวะหยินไม่พอ การปรับสมดุลด้วยอาหารจึงมีประโยชน์อย่างมากในผู้ที่มีอาการร้อนวูบวาบ

 

 

อาหารที่แนะนำ ได้แก่ ถั่วเหลือง แครอต ข้าวโพด งาดำ เชอร์รี่ น้ำมะพร้าว แอ๊ปเปิ้ล ตังกุย ควรงดอาหารมัน มีรสเค็ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาหารกลุ่มนี้จะยิ่งทำลายหยิน และทำให้เกิดความร้อนมากขึ้น

 

 

นอกจากอาการร้อนวูบวาบที่บ่งบอกว่าร่างกายมีความร้อนมากขึ้นแล้ว ยังมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น หงุดหงิด ขี้โมโห ท้องผูก ปากแห้ง คอแห้ง นอนไม่หลับ ความดันโลหิตสูง ท้องผูก ปากแห้ง คอแห้ง นอนไม่หลับ ความดันโลหิตสูง หากปล่อยให้ความร้อนดำเนินต่อไปโดยไม่ควบคุม ร่วมกับการกินอาหารที่มีไขมันสูง จะเป็นการกระตุ้นให้มีภาวะเลือดหนืดและเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตันตามมา เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองเพิ่มขึ้น

 

 

ฉะนั้นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับคนวัยนี้ อาจไม่ใช่เฉพาะแค่ระดับฮอร์โมนลดลง และทำให้ความเป็นหนุ่มเป็นสาวลดลง แต่หมายถึงการมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพด้วยหรือไม่นั่นเอง

 

 

การดูแลสุขภาพด้วยตัวเองที่อยากแนะนำอีกอย่างหนึ่ง คือ การนวดกดจุด ในผู้ที่มีอาการร้อนวูบวาบ แนะนำให้นวดบริเวณเส้นกลางศีรษะ ตั้งแต่หน้าผากจนถึงท้ายทอย เพื่อช่วยปรับการไหลเวียนเลือดในสมองและช่วยลดอาการร้อนวูบวาบได้ โดยกดนวดเช้า-เย็น ประมาณจุดละ 2 นาที

 

 

นอกจากนี้แนะนำให้หลีกเลี่ยงความเครียด อาการร้อนวูบวาบจะทวีความรุนแรงขึ้น หากอยู่ในภาวะเครียด ดังนั้น ควรจะสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลาย มีความรื่นรมย์ มีเสียงเพลง

 

 

หากยังไม่สามารถควบคุมอาการร้อนวูบวาบได้ แนะนำเรื่องการฝังเข็ม มีงานวิจัยยืนยันถึงผลของการฝังเข็มที่ช่วยลดความรุนแรง และความถี่ในการเกิดอาการ รวมทั้งช่วยแก้ปัญหาการนอนไม่หลับและปรับสมดุลอารมณ์

 

 

การฝังเข็มจะช่วยระบายความร้อนในร่างกาย มีการทดลองโดยนำหนูที่อยู่ในช่วงหมดประจำเดือน โดยตรวจดูจากน้ำเมือกบริเวณช่องคลอดที่แห้งลง จากนั้นแบ่งหนูทดลองออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ฝังเข็มและกลุ่มที่ไม่ฝังเข็ม

 

 

หลังจากฝังเข็มให้หนูทดลองวันละ 1 ครั้ง ครบ 30 วัน จึงทำการเจาะเลือดเพื่อวัดระดับฮอร์โมน พบว่ากลุ่มที่ฝังเข็มมีระดับฮอร์โมนเอสโทรเจนสูงขึ้น และฮอร์โมนเอฟเอสเอชต่ำลง ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้ฝังเข็มมีระดับฮอร์โมนเอสโทรเจนต่ำลง และฮอร์โมนเอฟเอสเอชสูงขึ้น จึงสรุปได้ว่า การฝังเข็มสามารถปรับสมดุลฮอร์โมนและช่วยลดอาการวัยทองได้

 

 

นี่แหละค่ะ การรับมือกับอาการวัยทองตามหลักแพทย์แผนจีน

 

 

พญ.สุลัคนา น้อยประเสริฐ

(Some images used under license from Shutterstock.com.)