© 2017 Copyright - Haijai.com
Traveling for Two การเดินทางระหว่างสองเรา
Working Women นิยามของผู้หญิงเก่ง และเชื่อว่าในหลายๆ ผู้หญิงเก่งนี้ต้องมีตำแหน่งคุณแม่พ่วงท้ายมาด้วย และเชื่อแน่คะว่าคุณกำลังมีความสุขที่สุด ที่กำลังจะได้เป็นแม่เต็มตัวในเร็ววันนี้ มีผู้หญิงหลายคนที่ทำงานควบคู่กันไปจนกระทั่งถึงวันใกล้คลอด ทำงานหนักและหักโหมแบบนี้ น่าจะหาโอกาสไปเที่ยวพักผ่อน พักกาย พักใจ พักสมอง แล้วเติมเต็มด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่แสนโรแมนติก ที่มีเพียงเราสองคน อ้อ ต้องสามคนซิคะถึงจะถูก ฉะนั้นอย่ารอช้าที่จะหาเวลาช่วงก่อนถึงวันคลอด ไปเที่ยวพักผ่อนเติมพลังให้สบายใจกับสามีสุดที่รัก และก็ลูกน้อยในครรภ์ ที่พร้อมจะท่องเที่ยวไปกับคุณแม่แล้วล่ะค่ะ
การเดินทางที่ปลอดภัยสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ควรจะอยู่ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์ หลีกเลี่ยงการเดินทางไกลในช่วงการตั้งครรภ์ของไตรมาสแรก เพราะถือว่าเป็นการตั้งครรภ์ที่บอบบาง หากมีอะไรมากระทบกระเทือนอาจทำให้แท้งได้ ที่สำคัญในไตรมาสแรกนี้ยังเป็นช่วงที่คุณแม่หลายคนมีอาการแพ้ท้องกันอีกด้วย ฉะนั้นจึงเป็นช่วงที่ควรนอนพักผ่อนอยู่กับบ้านจะดีมากกว่าคะ ส่วนอีกช่วงที่ไม่ควรเดินทางไกลคือ ในช่วงการตั้งครรภ์หลังจาก 34 สัปดาห์ไปแล้ว เพราะถือเป็นช่วงใกล้คลอดกันแล้ว ในคุณแม่บางรายอาจมีการคลอดหลังจากสัปดาห์นี้ไปแล้ว ดังนั้นช่วงที่เหมาะกับการไปเที่ยวพักผ่อนน่าจะอยู่ที่ช่วงไตรมาสสองกำลังดีคะ
การเดินทางด้วยเครื่องบิน
หลังจากที่หาสถานที่ท่องเที่ยวกันได้แล้ว คุณแม่ควรไปเช็กร่างกายกับคุณหมอที่ฝากครรภ์สักนิด ว่าสภาพร่างกายของคุณแม่นั้นแข็งแรงพอหรือเปล่า และก็รวมถึงเจ้าตัวเล็กในท้องด้วยนะคะ คุณแม่ควรสอบถามกับคุณหมอที่ดูแลครรภ์ก่อนว่าการเดินทางด้วยเครื่องบินจะได้หรือเปล่าและมีปลอดภัยแค่ไหน หากคุณแม่วางแผนว่าจะเดินทางในช่วงสัปดาห์ที่ 28-33 ของการตั้งครรภ์ อาจต้องใช้ใบรับรองแพทย์เพื่อรับรองว่าคุณแม่มีสุขภาพแข็งแรงพอสำหรับการเดินทางด้วยเครื่องบิน สายการบินแต่ละสายอาจจะมีกฎระเบียบในการอนุญาต ให้ผู้หญิงมีครรภ์โดยสารบนเครื่องบินที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นควรตรวจสอบกฎระเบียบและข้อมูลต่างๆ ล่วงหน้าก่อนจองตั๋วเครื่องบินจะดีที่สุดคะ
เมื่ออยู่บนเครื่องบิน
เมื่อต้องเดินทางด้วยเครื่องบินขณะตั้งครรภ์ คุณแม่มีโอกาสในการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ “Deep Vein Thrombosis” (DVT) อยู่ได้บ้างเล็กน้อย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การเดินทางด้วยรถยนต์ หรือรถไฟ เป็นระยะเวลานานๆ ก็อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดภาวะนี้ได้เหมือนกัน แต่ไม่ต้องกังวลคะ เพราะภาวะนี้มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก ซึ่งการเดินทางในแต่ละครั้งคุณแม่ควรไปปรึกษาคุณหมอที่ดูแลครรภ์ และปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมอ เพียงเท่านี้คุณแม่ก็จะเดินทางได้อย่างปลอดภัย และก็สบายใจขึ้นค่ะ
• ตรวจสอบดูว่าสายการบินที่เลือกนั้นมีถุงเท้าสำหรับสวมใส่ระหว่างเที่ยวบิน ( flight socks หรือ elastic compression stockings) ไว้ให้บริการด้วยหรือเปล่า หากไม่มีคุณแม่ก็ควรซื้อเตรียมไว้สัก 1 คู่ เพราะถุงเท้าชนิดนี้สามารถช่วยลดโอกาสเกิด DVT ได้ ถุงเท้าชนิดนี้เหมาะสำหรับสวมใส่สำหรับการเดินทางที่ต้องใช้ระยะเวลานาน
• การเดินทางด้วยเครื่องบิน เวลาที่ขึ้นไปอยู่ข้างบนจะมีภาวะความกดอากาศ อากาศจะแห้ง คุณแม่ควรที่จะดื่มน้ำเปล่าอยู่ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ ที่สำคัญพยายามเดินยืดเส้นยืดสายทุกๆ ชั่วโมง เพื่อให้โลหิตไหลเวียนได้ดีขึ้น
Travel Tips เคล็ดลับในการเดินทาง
• เลือกปลายทางที่มีความปลอดภัย ห้องพักสะอาด และมีโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ รวมทั้งการรักษาพยาบาลที่ดี
• เวลาที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ หรือภายในประเทศ ที่คุณแม่ยังไม่ค่อยคุ้นเคยนัก ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำแข็ง และน้ำประปา ควรเตรียมน้ำดื่มบริสุทธิ์ที่บรรจุขวดเตรียมไปด้วย
• พกสมุดประวัติการตั้งครรภ์ ที่มีข้อมูลของคุณแม่พร้อมทุกอย่างอยู่ในนั้น เพราะหากเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน แพทย์ก็สามารถที่จะรู้ข้อมูล ณ ปัจจุบันของคุณได้ทันที (สมุดที่ต้องนำไปพบแพทย์ที่ฝากครรภ์ทุกเดือน)
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรัดเข็มขัดเพื่อความปลอดภัย
จากการศึกษาวิจัยพบว่าคุณแม่และทารกในครรภ์ จะมีความปลอดภัยมากขึ้นหากรัดเข็มขัดนิรภัย แต่ทั้งนี้ควรตรวจดูให้แน่ใจว่าเข็มขัดที่รัดบริเวณโคนขารอบสะโพก ไม่ได้รัดใต้ท้องแน่นจนเกินไป และควรรัดเข็มขัดพาดผ่านสะโพกและไหล่ในตำแหน่งที่อยู่ระหว่างหน้าอกและท้องของคุณแม่
(Some images used under license from Shutterstock.com.)