© 2017 Copyright - Haijai.com
JDM (Juvenile Dermatomyositis)
คุณแม่พาน้องปันปันไปตรวจที่โรงพยาบาล เพราะมีก้อนเล็กๆ ที่ผ่าเท้า และบ่นปวดขา ไม่ยอมเดิน ช่วงแรกคุณแม่นึกว่าน้องแกล้งป่วย เพราะไม่อยากไปโรงเรียน แต่ผ่านไป 1 เดือนแล้ว น้องยังไม่หายเลยค่ะ
Juvenile Dermatomyositis
อาการแบบนี้อาจะเป็นโรค Juvenile Dermatomyositis หรือเรียกสั้นๆ ว่า JDM ค่ะ เป็นโรคที่มีอาการทางผิวหนัง เช่น ผื่น ร่วมกับการอักเสบของกล้ามเนื้อ พบได้น้อยในเด็กเล็ก ส่วนใหญ่จะพบช่วงอายุ 5-14 ปี และพบในเด็กหญิงมากกว่าเด็กชาย เช่นเดียวกันกับโรค SLE (หรือที่รู้จักกันในโรคพุ่มพวง) ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนของโรค แต่พบในเด็กที่มีผิวขาว และอาจเกี่ยวข้องกับระบบพันธุกรรมด้วย
ผื่นที่พบใน JDM
• Heliotrope มีลักษณะเป็นผื่นสีม่วงแดง เกิดบริเวณหนังตา และอาจพบอาการหนังตาบวมร่วมด้วย
• Malar rash เป็นผื่นสีแดงรูปผีเสื้อพบบริเวณแก้มและจมูก ซึ่งผื่นลักษณะนี้ เป็นอาการแสดงทางผิวหนังที่พบได้บ่อยสุดในโรค SLE และพบได้ในเด็กที่เป็นผื่นแพ้แสงจากโรคอื่นๆ
• Gottron&;#39;s papule เป็นผื่นสีม่วงอมแดง พบบริเวณหลังมือเหนือข้อนิ้ว และอาจพบผิวหนังบางลง มีหลอดเลือดฝอยบริเวณใต้ผิวหนังขยายตัว มีการอักเสบของไขมันใต้ผิวหนัง โดยบริเวณที่มีอาการ ผิวหนังจะดูบุ๋มลง
อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงใน JDM
ส่วนใหญ่อาการจะค่อยๆ เริ่มขึ้น โดยเด็กๆ อาจบ่นเจ็บบริเวณต้นแขนและขาทั้งสองข้าง อาจพบอาการทางระบบอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น กล้ามเนื้อบริเวณทางเดินอาหารอ่อนแรง ทำให้กลืนลำบาก สำลักอาหารและเกิดปอดบวมตามมา นอกจากนี้อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงยังทำให้เกิดอาการทางระบบทางเดินหายใจร่วมด้วย ส่วนอาการทางระบบประสาท เช่น อาการชักเกร็ง และอาการทางระบบหัวใจ เช่น การเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ อาจพบได้บ้าง แต่ค่อนข้างน้อย
ก้อนเล็กๆ นั่นคืออะไร
ในเด็กพบหินปูนบริเวณเนื้อเยื่อได้บ่อยกว่าในผู้ใหญ่ ซึ่งอาจมาในอาการก้อนหรือตุ้มนูนบริเวณแขน ขา ศอก และเข่า โดยก้อนเป็นได้ ตั้งแต่อายุ 2 ปี บางครั้งอาจมาในก้อนใต้ผิวหนัง ซึ่งแตกออกเป็นน้ำสีขาวคล้ายนม ถ้า X-RAY จะเห็นก้อนแคลเซียมที่เรียกว่า Calcinosis Cutis ใต้ผิวหนัง
ถ้ามีอาการคล้ายโรคนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลนะคะ เพื่อตรวจเลือดเพิ่มเติม ถึงระดับเอนไซม์ในกล้ามเนื้อ ทำคลื่นไฟฟ้าของกล้ามเนื้อ และบางครั้งอาจต้องตัิดชิ้นเนื้อของผิวหนัง และกล้ามเนื้อไปตรวจเพิ่มเติมทางพยาธิวิทยาด้วย
การรักษา
เนื่องจากโรคสามารถเริ่มเป็นได้ตั้งแต่เด็กๆ วัยอนุบาล ถ้ามีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงมาก ควรพักผ่อนอยู่บนเตียง ระวังเรื่องการสำลักอาหาร หลีกเลี่ยงแสงแดด เพราะจะทำให้โรคกำเริบมากขึ้น ยาที่ใช้รักษาส่วนใหญ่เป็นยาในกลุ่มสเตียรอยด์ หรือยารักษาโรคมาลาเรีย ซึ่งช่วยให้อาการทางผิวหนังดีขึ้น และยาที่ใช้กดภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งอาจมีผลข้างเคียงจากยาได้ จึงควรอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เมื่ออาการดีขึ้น เด็กๆ จะสามารถไปโรงเรียนได้ตามปกติค่ะ
ส่วนใหญ่โรคนี้ ถ้าเป็นในเด็กอาการจะไม่ค่อยพบสัมพันธ์กับโรคมะเร็งเหมือนในผู้ใหญ่นะคะ สำหรับน้องปันปัน สามารถไปตรวจเลือด เพื่อวินิจฉัยโรคได้ที่โรงพยาบาล เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
(Some images used under license from Shutterstock.com.)