© 2017 Copyright - Haijai.com
ปรับตัวอย่างไร เมื่อลูกร้องโคลิก
บางครั้ง การที่ทารกส่งเสียงร้องไห้จ้าก็เป็นสัญญาณที่แสดงว่าหนูน้อยสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี แต่ในทางกลับกัน หากเจ้าตัวน้อยร้องไห้ไม่หยุดเป็นเวลาหลายชั่วโมง ให้นมก็แล้ว จับเรอก็แล้ว ตรวจสอบทุกอย่างก็ปกติดี ไม่พบสาเหตุของการร้องไห้ หนำซ้ำยังร้องไห้เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงบ่ายหรือช่วงเย็น นั่นอาจแสดงว่าเจ้าตัวดีมีอาการร้องโคลิกเข้าให้แล้ว
ทำความรู้จักกับ ภาวะโคลิก
คุณแม่มือใหม่อาจเคยได้ยินคำว่าโคลิกมาบ้าง แต่อาจไม่แน่ใจว่าอาการนี้หมายถึงอะไรกันแน่ หากจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ การร้องโคลิกก็คือสิ่งที่ปู่ย่าตายายเราเรียกว่า ร้อง 3 เดือนนั่นเองค่ะ ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในทารกแรกเกิด-5 เดือน โดยจะร้องไห้ติดต่อกันไม่หยุดเป็นเวลา 3 ชั่วโมง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน การร้องโคลิก ไม่ถือเป็นโรค และไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายของลูกแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามการฝ่าฟันช่วงเวลาการร้องโคลิกของลูกกลับไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคุณพ่อคุณแม่ เพราะเสียงร้องไห้ของทารกอย่างต่อเนื่องหลายชั่วโมงนั้นย่อมทำให้เกิดความเครียดได้ พ่อแม่มือใหม่หลายรายพยายามจะหาสาเหตุที่แท้จริงของการร้องโคลิก บางคนเชื่อว่าที่ลูกร้องเพราะมีอาการปวดท้อง ซึ่งจะจริงหรือไม่อย่างไรนั้นเราไปหาคำตอบกันค่ะ
ปวดท้อง เลยร้องโคลิกจริงหรือ?
คนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะปู่ย่าตายายมักเชื่อว่าการร้อง 3 เดือน หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่าร้องโคลิกนั้นมาจากอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ปวดท้อง เมื่อเจ้าตัวน้อยร้องไห้มากๆ จึงพยายามจับเรอ หรือทายามหาหิงคุ์ให้ ซึ่งอาจได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้างเผลอๆ อาจพาลให้พ่อแม่ผู้ปกครองเป็นกังวลกับอาการร้องไห้ไม่หยุดของลูก จะว่าไปแล้วสาเหตุการร้องโคลิกนั้น ยังไม่มีใครทราบแน่ชัด 100% แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากระบบการย่อยอาหารของทารกยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดแก๊สจนทารกรู้สึกไม่สบาย จนต้องส่งเสียงร้องไห้ แต่ยิ่งร้องไห้ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มลมในช่องท้อง ซึ่งหากสาเหตุของการร้องโคลิกมาจากปัญหาแก๊สในท้องมากเกินไป ลูกมักจะมีอาการมากขึ้นหลังให้นมหรือก่อนขับถ่าย
นอกจากนั้น สาเหตุของอาการปวดท้อง ที่เชื่อว่านำไปสู่การร้องโคลิก อาจมาจากหนูน้อยที่กินนมผสม และเกิดแพ้นมวัวหรือแพ้แลตโตสในนม หรือในทารกแรกเกิดอาจมีระดับฮอร์โมนในร่างกายที่ค่อนข้างสูงส่งผลให้ปวดท้องหรืออารมณ์ไม่ดีได้อย่างไรก็ตาม สาเหตุของการร้องโคลิก อาจมีความเป็นไปได้อีกหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเพราะระบบประสาทของทารกยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ทำให้ถูกรบกวนจากสิ่งเร้าได้ง่าย จึงร้องไห้ออกมา ผู้เชี่ยวชาญบางรายเชื่อว่า การร้องโคลิกเป็นการปลดปล่อยตามธรรมชาติของร่างกาย ในทารกที่มีความไวต่อสิ่งเร้าต่างๆ มากเป็นพิเศษ เช่น ทารกที่คลอดยาก หรือคลอดก่อนกำหนด ซึ่งระบบประสาทยังพัฒนาไม่เต็มที่ เมื่อคลอดออกมาพบกับสิ่งเร้าต่างๆ ทั้งแสง สี เสียง ทารกจึงร้องไห้ออกมาเพื่อปลดปล่อยความเครียดซึ่งได้รับจากสิ่งเร้ารอบตัวที่พบเจอตลอดทั้งวัน
โคลิกรับมือได้ง่ายๆ จริงหรือ?
ไม่ว่าสาเหตุของการร้องโคลิกจะมาจากอะไรก็ตาม แต่การปลอบให้เจ้าตัวน้อยหยุดร้องไห้ไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆ ค่ะ โดยเฉพาะกับพ่อแม่มือใหม่ กระนั้นแม้จะไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถค่ะ
ก่อนที่จะรับมือกับอาการร้องโคลิกนั้น สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าที่ลูกร้องไห้โยเยทุกวันนั้น เป็นอาการโคลิก แน่ๆ ไม่ได้เจ็บป่วยด้วยภาวะอื่นๆ เพราะบางครั้งเส้นผมบางๆ พันที่นิ้วมือหรือนิ้วเท้าของลูก ก็ทำให้หนูน้อยร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดได้เหมือนกัน แต่หากไม่ใช่สาเหตุนี้อาจลองปรึกษาแพทย์ เพราะเจ้าตัวน้อยอาจป่วยด้วยอาการอื่นๆ เช่น
การติดเชื้อ เช่น หูติดเชื้อ หรือติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะ
การอักเสบของสมอง หรือระบบประสาท
ปัญหาทางสายตา เช่น ความดันตา
หัวใจเต้นผิดปกติ
กระดูกร้าว หรือกระดูกหัก
ไส้เลื่อน
เอาล่ะค่ะ หากว่าหนูน้อยไม่ได้เจ็บป่วยด้วยอาการอื่นๆ ข้างต้น ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ลูกของคุณมีภาวะร้องโคลิก ซึ่งโดยทั่วไปแพทย์จะให้คำแนะนำในการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม อาหารการกิน เพื่อทำให้เจ้าตัวน้อยสงบลงได้มากขึ้น โดยการปรับเปลี่ยนแบ่งเป็นเรื่องต่างๆ ได้แก่
อาหารการกิน
หากเลี้ยงลูกให้นมแม่ คุณอาจต้องเปลี่ยนอาหารที่คุณรับประทาน เช่น งดกาแฟ ผลิตภัณฑ์จากนม ผักบางชนิด
เปลี่ยนยี่ห้อนมผง (สูตรนมวัว) หากไม่ได้ผล เปลี่ยนจากนมผง (สูตรนมวัว) เป็นนมผงที่ทำจากถั่วเหลือง
เปลี่ยนจุกนมยาง ให้เป็นเลือกใช้ขวดนมที่มีฝาครอบเป็นพลาสติก และจับให้ลูกเรอบ่อยๆ ระหว่างให้นม
หากลูกแหวะนม ควรจับตัวลูกให้ตังตรงทุกครั้งหลังให้นม
สภาพแวดล้อม
ห่อตัวลูก
อุ้มลูกไว้แนบอกบ่อย และนานขึ้น
ให้ลูกนั่งรถเข็น เปล
ใช้ white noise เสียงธรรมชาติต่างๆ เช่น เสียงลม เสียงคลื่น หรือกระทั่งเสียงเต้นของหัวใจ
นวดตัวลูกเบาๆ
เพิ่มหรือลดสิ่งเร้าต่างๆ ภายในบ้านเช่น เปิดทีวีทุกครั้งที่ให้นมลูก อาจจะลองปิดทีวี หรือหากให้ลูกอยู่ในห้องที่เงียบสงัดเป็นประจำ อาจเปิดเพลงคลอเบาๆ บ้าง เป็นต้น
ปรับตัวอย่างไร เมื่อลูกร้องโคลิก
การใช้ชีวิตอยู่กับทารกที่ร้องโคลิก เป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับพ่อแม่มือใหม่ หลายครั้งคุณอาจรู้สึกกังวล ไม่สบายใจ ไปจนถึงกระทั่งโกรธ รำคาญหงุดหงิด ขอให้รู้ว่าอารมณ์เหล่านี้เป็นเรื่องปกติ และคุณไม่จำเป็นต้องโทษตัวเอง ไม่ต้องรู้สึกผิดที่คุณรู้สึกโกรธหรือทำให้ลูกหยุดร้องไห้ไม่ได้ ขอให้เข้าใจว่านี่เป็นเรื่องธรรมชาติที่พ่อแม่หลายรายต้องเผชิญไม่ต่างกัน
อย่างไรก็ตาม หากคุณรู้สึกว่าอารมณ์โกรธของคุณถึงขั้นที่ระงับไม่ไหว และคุณอาจเผลอกระทำรุนแรงกับลูกได้ ควรขอความช่วยเหลือให้คนอื่นช่วยดูแลเจ้าตัวน้อยแทนในทันที หากคุณอยู่ลำพังกับเจ้าตัวเล็ก ควรค่อยๆ วางลูกลงบนเบาะที่มั่นใจว่าปลอดภัยที่เจ้าตัวน้อยจะไม่กลิ้งตกลงมา และเดินออกไปสงบสติอารมณ์สักพัก ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับที่น่าจะทำให้คุณผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ง่ายขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย
พักบ้างก็ได้ หากคุณลองทุกวิถีทางแต่ลูกยังไม่หยุดร้องไห้ ไม่เป็นไรเลยหากคุณจะวางลูกลงบนเบาะที่ปลอดภัยแล้วพักสักครู่
แตะมือกับสมาชิกในบ้าน ให้ช่วยดูแลเจ้าตัวเล็กแทนคุณอาจไปพักอาบน้ำ เดินออกไปซื้อของใกล้ๆ บ้าน การเปลี่ยนบรรยากาศจะช่วยทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
อย่าโทษตัวเองมากเกินไป ไม่ใช่ความผิดของคุณที่เจ้าตัวน้อยมีอาการโคลิก
ระลึกอยู่เสมอว่า ช่วงเวลานี้จะคงอยู่ไม่นาน ไม่เกิน2-3 เดือนมันก็จะผ่านไปจงใช้เวลาทุกวินาทีกับเจ้าตัวน้อยให้มีความสุขที่สุด
อย่าฉายเดี่ยว สมาชิกในครอบครัว เพื่อน เป็นกำลังที่สำคัญมากที่จะช่วยให้คุณผ่านช่วงเวลานี้ไปได้
การร้องโคลิกเป็นเรื่องปกติที่พบได้บ่อยในทารกแรกเกิด หากลูกของคุณเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น ขอให้อดทน และระลึกอยู่เสมอว่าคุณ และลูกจะผ่านช่วงเวลานี้ไปได้อย่างไรก็ตามหากลูกอายุเกิน 5 เดือนไปแล้วแต่ยังร้องโคลิกอยู่ควรรีบปรึกษาแพทย์ รวมทั้งหากพัฒนาการของเจ้าตัวน้อยไม่เติบโตตามเกณฑ์ มีไข้ หรือกินนมได้น้อยก็ควรพาลูกไปพบแพทย์เช่นกัน
(Some images used under license from Shutterstock.com.)