© 2017 Copyright - Haijai.com
อาหารที่คุณแม่ตั้งครรภ์รับประทาน (ลูก) ได้ประโยชน์แค่ไหน
คุณแม่ตั้งครรภ์กับความปลอดภัยเห็นทีจะเป็นเรื่องที่ต้องคู่กันไปตลอด ไม่ว่าจะผ่านมากี่ท้องแล้วก็ตาม ยิ่งโดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์มือใหม่ เรื่องของความปลอดภัยของทารกในครรภ์จะต้องมาเป็นอันดับแรกเสมอ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีสินค้าทั้งของกิน ของใช้ ที่มีความปลอดภัยต่อหญิงตั้งครรภ์ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าจะปลอดภัยจริงๆ กับตัวคุณแม่เองแล้วก็ทารกน้อยในครรภ์ด้วย
การปกป้องลูกน้อยในครรภ์ให้เจริญเติบโตตามช่วงพัฒนาการของการตั้งครรภ์ตลอด 9 เดือน จึงเป็นเรื่องที่คุณแม่ตั้งครรภ์จะต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ต้องแน่ใจว่า อาหาร ของใช้ส่วนตัว นั้นมีความปลอดภัยจากสารเคมี และสารพิษอันตรายต่างๆ เพื่อที่จะได้ไม่ส่งผลกระทบไปยังทารกในครรภ์ เพราะหากมีอันตรายต่อทารกในครรภ์ ก็อาจส่งผลให้การเติบโตของทารกไม่เป็นไปตามช่วงพัฒนาการครรภ์ หรือไม่ก็ส่งผลถึงขั้นร้ายแรง(แท้ง) มาดูกันค่ะว่ามีอะไรใกล้ตัวที่อาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้บ้าง
Caffeine
คาเฟอีนที่มีอยู่ในกาแฟ ชา หรือเครื่องดื่มประเภทมีโซดาผสม ขนมหวานอย่างช็อกโกแลต ใช่ว่าคุณแม่จะไม่สามารถบริโภคอาหาร หรือเครื่องดื่มเหล่าได้นะคะ เพียงแต่ว่าจะต้องลดลงให้ได้มากที่สุด อย่างกาแฟสามารถดื่มได้ แต่ขอให้ลดลงเหลือวันละ 1 แก้วเล็ก หรือหากเป็นไปได้ก็ควรที่จะงดอาหาร เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในช่วงตั้งครรภ์ไปก่อนจะดีที่สุดต่อทั้งตัวคุณแม่เอง แล้วก็ทารกในครรภ์
Cheese
การทานชีสช่วงตั้งครรภ์ไม่ได้บอกว่าไม่ให้ทานนะคะ เพียงแต่ว่าคุณแม่จะต้องดูให้แน่ใจว่าชีสที่ซื้อมานั้น มีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียหรือเปล่า ดูวันหมดอายุก่อนบริโภคทุกครั้ง หากชีสที่อยู่ในตู้เย็นที่ซื้อมาเก็บไว้นานแล้ว ก็ควรโละทิ้งไปบ้างนะคะ อย่าเสียดาย เพราะเดียวจะเสียใจเพราะทานชีสบูดค่ะ
Cookie dough and Cake butter
แป้งคุกกี้และแป้งเค้ก ที่ปัจจุบันมีแบบสำเร็จ ซื้อมาแล้วสามารถผสมน้ำตามสัดส่วน แล้วตีให้เข้ากัน เสร็จแล้วก็หยอดใส่พิมพ์ ใส่เตาอบๆ แป๊บเดียวเดี๋ยวก็สุกหยิบใส่ปากได้เลย คุณแม่อย่าคิดว่าไม่มีอันตรายนะคะ เพราะแป้งเค้ก แป้งคุกกี้ เหล่านี้มีส่วนผสมของไข่ดิบอยู่ด้วย และแป้งก็อาจมีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อนมาด้วย ถ้าจะให้แน่ใจว่าปลอดภัยคุณแม่ควรอบคุกกี้ อบขนมเค้กในอุณหภูมิที่สุกโดยถ้วนทั่ว จะเพลิดเพลินกับขนมได้อย่างปลอดภัยกันคะ
Fish
การทานปลาช่วงตั้งครรภ์มีประโยชน์ต่อทั้งตัวคุณแม่แล้วก็ทารกในครรภ์ เพราะปลาอุดมไปด้วย โอเมก้า 3 มีประโยชน์ต่อสมองเป็นอย่างมาก อย่างที่ชอบพูดกันว่ากินปลาแล้วจะฉลาดนั่นแหละค่ะ แต่เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งทานปลาจนเพลิน โดยที่ไม่ระวังสารปรอทที่อาจปนเปื้อนอยู่ในตัวปลากันนะคะ เพราะการทานปลากที่มีสาปรอทอยู่ด้วยนั้น จะมีผลกระทบอันตรายต่อระบบสาทของทารกในครรภ์ ปลาที่ไม่ควรทาน เพราะอาจเสี่ยงต่อสารปรอท เช่น ปลาเก๋า ปลาฉลาม ปลาทูน่า เป็นต้น สำหรับอันตรายของสารปรอทที่ได้รับเข้าสู่ร่างกายจากการรับประทานอาหารปน เปื้อนสารปรอทเข้าไปนั้น จะไปมีผลต่อระบบทางเดินอาหาร เกิดการเน่าเปื่อยของเยื่อบุภายในช่องปาก เหงือกบวมและอักเสบ เจ็บปวดฟันมาก ฟันจะโยกคลอนและหลุดในที่สุด ลำไส้ใหญ่อักเสบ อุจจาระมีมูกเลือด ส่วนอาการทางประสาทจะมีการสั่นของเปลือกตา ริมฝีปาก ลิ้นและนิ้วมือ ถ้าหากมีอาการรุนแรงจะมีการสั่นที่แขนและขาอีกด้วย นอกจากนี้ยังทำให้การทรงตัวไม่ดี เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย เกิดการชาที่ลิ้นและริมฝีปาก การมองเห็นผิดปกติโดยมองเห็นในบริเวณแคบ ๆ เท่านั้น ถ้าหากทารกได้รับสารปรอทเข้าสู่ร่างกายจะทำให้การเจริญพัฒนาของร่างกายผิดปกติไป
Sushi
ใครที่ชอบทานซูชิหน้าปลาดิบ เห็นทีท้องครั้งนี้จะต้องงดการทานกันไว้ก่อนแล้วล่ะค่ะ เพื่อความปลอดภัยของเจ้าตัวเล็กในครรภ์ เพราะการทานซูชิปลาดิบ หรือหอยนางรมสด ก็อาจได้รับอันตรายจากพยาธิที่มีอยู่ในเนื้อดิบก็ได้นะคะ
Microwaves
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเตาไมโครเวฟมีอันตรายต่อมนุษย์มากคะ จึงต้องมีการสร้างผนังกั้นคลื่นแม่เหล็กเอาไว้ ซึ่งก็คือประตูเปิดปิดของเตานั้นเอง ซึ่งหากประตูของตู้ไมโครเวฟเริ่มชำรุดแต่ยังใช้งานอยู่ เมื่อเครื่องเริ่มทำงาน คลื่นแม่เหล็กมีโอกาสเล็ดลอดออกมาได้ในระยะ 1-2 เมตรเลยทีเดียว ซึ่งจะเป็นอันตรายอย่างมาก โดยเฉพาะคุณแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งคลื่นแม่เหล็กจะมีผลต่อเด็กทารกในครรภ์อย่างมาก ทางที่ดีควรตรวจสอบก่อนใช้นะคะ แต่ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ก็คือการบริโภคอาหารที่ปรุงสุก สด ใหม่จากเตาด้วยฝีมือตัวเอง อาหารอบ อาหารปิ้งด้วยไมโคเวฟไม่สามารถให้คุณค่าได้เท่าอาหารที่ซื้อมาปรุงสดๆ กับมือเองหรอกนะคะ
(Some images used under license from Shutterstock.com.)