
© 2017 Copyright - Haijai.com
อาการปวดหลังช่วงตั้งครรภ์
ปัญหาที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องพบเจอ โดยเฉพาะคุณแม่ท้องที่มีอายุครรภ์มากๆ บ่นถึงเป็นประจำ คือ อาการปวดหลังส่วนล่างมาก ต้องขอบอกก่อนเลยว่าเป็นปัญหาที่คุณแม่ท้องทุกคนต้องเจอและหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราสามารถทราบถึงสาเหตุ และแนวทางการแก้ไข้เบื้องต้นได้
ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่อง “ปวดหลัง” ระหว่าง การตั้งครรภ์กันก่อน ว่ามีอาการคล้ายๆ กับอาการหลังจากลุกขึ้นจากการนั่งพับเพียบแล้ว รู้สึกปวดเข่า ปวดขาจนกระทั่งเดินเป๋อยู่พักใหญ่ อะไรทำนองนี้คล้ายกัน คือเมื่อเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นมา มดลูกซึ่งโตวันโตคืน และจะโตมากเมื่อครรภ์ได้ 5 เดือนไปแล้ว ทีนี้เมื่อครรภ์โตมาก น้ำหนักของครรภ์ก็จะตกกับบริเวณหน้าท้อง ด้วยหลักเพื่อความสมดุลของร่างกายในการทรงตัว ร่างกายจะก็จะต้องแอ่นตัวไปทางด้านหลังเพื่อรับน้ำหนักของครรภ์ให้ตกอยู่ในจุดสมดุลของร่างกายนั่นแหละจึงทำให้เกิดการแอ่นของหลังขึ้น การแอ่นของหลังก็เท่ากับการแอ่นของกระดูกสันหลังนั่นเอง
กระดูกสันหลังซึ่งก่อนหน้านี้มันมิได้แอ่นมากขนาดนี้ เมื่อมาแอ่นกันมากมากๆ เป็นเวลานานๆ มันก็ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยขึ้นมา นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณปวดเมื่อยหลังเมื่อครรภ์มีอายุมากขึ้น อีกสาเหตุหนึ่งก็คือในเมื่อกระดูกสันหลังคือกระดูกและเป็นกระดูกที่มีขนาดใหญ่ เป็นแหล่งเก็บธาตุแคลเซียมของร่างกาย ที่สำคัญเมื่อครรภ์มากขึ้นตั้งแต่ 5 เดือนเป็นต้นไป ความต้องการของธาตุแคลเซียมสำหรับทารกมีมากขึ้น แล้วทารกจะดึงเอาธาตุแคลเซียมจากตัวคุณแม่ไปใช้ในการสร้างกระดูกและฟัน และถ้าหากธาตุแคลเซียมในกระแสเลือดของคุณแม่มีไม่พอ ร่างกายก็ต้องมีการควบคุมระดับธาตุแคลเซียมในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ ทั้งนี้เพื่อการทำงานของกล้ามเนื้อจะได้เป็นไปอย่างปกติ โดยสังเกตได้ง่ายๆ ว่าถ้าขาดธาตุแคลเซียมในเลือดเมื่อใด ก็จะเกิดเป็นตะคริวได้ง่ายๆ
เมื่อเป็นเช่นนี้ร่างกายจำต้องรักษาระดับธาตุแคลเซียมในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ถ้าหากเติมธาตุแคลเซียมเข้าไปไม่พอ เช่น เป็นคนไม่ดื่มนม ไม่ได้กินแคลเซียมเสริมเข้าไปอย่างเพียงพอ ร่างกายก็จะเรียกเอาธาตุแคลเซียมมาจากโกดังภายในร่างกายนั่นเอง โกดังที่ว่าก็คือกระดูกสันหลังนี้แหละ เมื่อมีการเบิกเอาธาตุแคลเซียมออกไปจากกระดูก ก็จะทำให้เกิดการกร่อนของกระดูกขึ้นมาด้วยกระบวนการดังกล่าวนี้ ก็จะทำให้เกิดอาการปวดหลังขึ้นมาได้ในที่สุด ฉะนั้นให้พยายามเสริมแคลเซียมเข้าไปให้พอ อย่าได้ให้ต้องเบิกมาจากแหล่งสะสมของร่างกายเลย เพราะนั่นจะทำให้คุณปวดหลัง
จะเห็นได้ว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ส่วนมากมักหนีอาการปวดหลังไปไม่พ้น จะปวดมากปวดน้อยนั้นอีกเรื่องหนึ่ง ปวดจนกระทั่งวันคลอดกันเลยทีเดียว แต่หลังจากคลอดก็ยังคงปวดหลังไปอีกระยะหนึ่งอาจจะเป็นเดือนหรือหลายเดือน ทั้งนี้เพราะว่ากระดูกสันหลังที่เคยแอ่นระหว่างการตั้งครรภ์กำลังขยับขยายเข้าที่เดิม และกระดูกที่เคยกร่อนไปบ้างก็ยังคงกร่อนอยู่ และกำลังรอการปรับปรุงแก้ไขจากร่างกาย ฉะนั้นอย่าเพิ่งตกใจไปว่าอาการปวดหลังยังคงมีอยู่แม้จะคลอดไปแล้วก็ตาม สุดท้ายอาการปวดหลังก็จะหายไปเอง แต่ถ้าหากคุณต้องการให้อาการปวดหลังหายเร็วขึ้นในช่วงหลังคลอด การออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อหลังจะช่วยได้มากเลยทีเดียว
หากคุณแม่มีความกังวลใจกับอาการปวดหลัง มีวิธีจักการกับอาการปวดหลังได้ดังนี้
ประการที่ 1 ขอให้ทำใจให้เป็นปกติ อย่ารู้สึกทุกข์ร้อนหรือเป็นกังวลมากกับอาการปวดหลังที่เกิดขึ้น ขอให้เข้าใจและยอมรับว่ามันเป็นอาการธรรมดาที่มักจะเกิดขึ้นกับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ แล้วจะหายไปได้เองหลังจากคลอดแล้ว ทำใจยอมรับ ทำใจให้สงบ ทำใจให้สบาย เท่ากับชนะไปแล้วครึ่งหนึ่ง
ประการที่ 2 ถ้าปวดมากอาจจะใช้ครีมแก้ปวดนวดก็พอ จะช่วยบรรเทาไปได้บ้าง แต่ต้องเข้าใจว่านั่นเป็นเพียงการช่วยบรรเทาอาการเท่านั้น มิใช่รักษาให้มันหายปวดอย่างเด็ดขาด ปวดเมื่อไหร่ก็เอาครีมแก้ปวดมานวดกันเมื่อนั้น ให้คุณสามีช่วยนวดให้ก็สะดวกไปอีกแบบ
ประการที่ 3 ถ้าปวดมากจนต้องพึ่งยา ให้ปรึกษาคุณหมอเท่านั้น อย่าตัดสินใจกินยาด้วยตัวเองเด็ดขาด แม้ว่าจะเป็นยาพาราเซตามอลแก้ปวดก็ตาม
ประการที่ 4 ฟูกที่ใช้นอนควรจะเป็นฟูกที่ไม่อ่อนยวบยาบ ยุบไปตามน้ำหนักตัวครับ เพราะนั่นจะทำให้คุณปวดเมื่อยมากยิ่งขึ้น แต่ควรจะเป็นฟูกที่แข็ง แต่ไม่ใช่แข็งเหมือนไม้กระดานนะครับ เอาเป็นว่าแข็งไม่ยุบตามน้ำหนักตัว แต่ว่านุ่ม เวลานอนก็ไม่รู้สึกว่านอนบนไม้กระดาน อะไรทำนองนั้น ฟูกคุณภาพดีมักจะมีคุณสมบัติแบบนี้ ดังนั้นถ้าหากคุณสามารถเลือกฟูกเตียงนอนของคุณได้ คุณควรจะต้องพีถีพิถันคุณภาพของฟูกด้วยนะครับ ซึ่งก็พอจะช่วยให้อาการปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว ตามกระดูกของคุณไม่กำเริบมากได้
นพ.พนิตย์ จิวะนันท์ประวัติ
(Some images used under license from Shutterstock.com.)