13 สัญญาณบอกว่าคุณตั้งครรภ์

13 สัญญาณบอกว่าคุณตั้งครรภ์

การเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย และภายนอกร่างกาย อาจเป็นหนึ่งในอาการที่บอกได้ว่าคุณกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นแม่  และต่อจากนี้ไปเป็นเวลา 40 สัปดาห์ คุณต้องทำหน้าที่ในการอุ้มท้องอีกหนึ่งชีวิตน้อยๆ  ที่คุณจะต้องดูแลอย่างทะนุถนอม เพื่อการเจริญเติบโตขึ้นที่สมบูรณ์ในทุกด้าน

1.อาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ

ซึ่งเป็นอาการโดยทั่วไปของการตั้งครรภ์ นั้นมีสาเหตุมาจากการที่ ร่างกายต้องส่งเลือดไปหล่อเลี้ยงตัวอ่อนและมดลูก ซึ่งมีความต้องการเลือดมากขึ้นทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงสมองน้อยลง ส่งผลทำให้คุณเกิดอาการหน้ามืด นอกจากนี้อาจมีสาเหตุมากจากความดันโลหิตที่ลดลง ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์อีกด้วย

2.ประจำเดือนขาด

นี่อาจเป็นสัญญาณแรก โดยเฉพาะถ้าปกติประจำเดือนคุณมาสม่ำเสมอ เมื่อรวมสัญญาณอื่นๆ แล้วคุณก็สามารถคาดเดาได้แล้วว่ากำลังตั้งครรภ์

3.มีเลือดออกมาทางช่องคลอด

หลังจากการฝังตัวของไข่ที่ได้รับการผสมแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ คุณอาจสังเกตเห็นว่ามีเลือดออกมาทางช่องคลอดกะปริบกะปรอยเป็นจุดๆ นอกจากนี้ ยังมีอาการไม่สบายท้อง ปวดถ่วงๆ บริเวณท้องน้อยในช่วงที่รอบเดือนเคยมาเป็นประจำ และมีความรู้สึกว่ารอบเดือนของคุณกำลังจะมาอยู่ตลอดเวลา อาการเหล่านี้เป็นผลมาจาก การที่ฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้เส้นเอ็นที่รองรับมดลูกของคุณอ่อนตัวลง

4.อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มขึ้น

คุณอาจจะยังรู้สึกเป็นปกติดีตราบเท่าที่ระดับอุณหภูมิยังคงอยู่ในช่วงการประเมินการ แม้จะผ่านช่วงเวลาของการมีประจำเดือนมาแล้ว และเมื่อคุณตั้งครรภ์ ไข่จะตกจากรังไข่ และใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ในการเดินทางไปถึงมดลูก ซึ่งจะเป็นการไปฝังตัว และในเวลานี้เองที่ร่างกายของคุณจะรู้ได้ว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ ทำให้อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น

5.เต้านมและรอบหัวนมคล้ำขึ้น

คุณจะรู้สึกได้ว่ามีอาการเสียวแปล๊บ เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งเวลาที่ไปสัมผัสโดน ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนในช่วงตั้งครรภ์ และคุณยังสังเกตเห็นว่าเส้นเลือดบริเวณเต้านมของคุณนูนขึ้นมา และมีสีเข้มขึ้น นอกจากนี้ยังมีปุ่มเล็กๆ มากมายเกิดขึ้นรอบๆ หัวนมด้วย ในการตั้งครรภ์ เมื่อถึงระยะเวลาที่รอบเดือนควรจะมา คุณจะสังเกตเห็นบริเวณหัวนม(ที่เป็นวง) จะคล้ำขึ้นและขยายใหญ่ขึ้น และอาจจะยังสังเกตเห็นหลอดเลือดบริเวณรอบๆ เต้านมชัดขึ้น ตุ่มที่บริเวณรอบหัวนมก็จะมีมากขึ้น อาจจะมากถึง  4-28  ในรอบหัวนมหนึ่งๆ

Expectant Mothers Ask

Q : ตอนนี้เตรียมพร้อมตั้งครรภ์อยู่ค่ะ เพื่อนๆ เลยบอกว่าต้องทานโฟเลทเตรียมไว้ก่อนตั้งครรภ์ 3 เดือน ไม่ทราบว่าจริงหรือเปล่าคะคุณหมอ แล้วโฟเลทนี่มีประโยชน์อะไรบ้างคะ ไปซื้อทานเองได้หรือไม่

A : โฟเลท หรือที่บางคนเรียกว่า กรดโฟลิคเป็นไวตามินบีชนิดหนึ่ง ที่มีผลงานวิจัยทางการแพทย์บ่งว่า มีผลช่วยลดความพิการของทารกในครรภ์ในส่วนที่เกี่ยวกับสมอง และไขสันหลังได้ไม่มากก็น้อย และยังพบว่าช่วยลดอุบัติการณ์ในการแท้งบุตรในระยะสามเดือนแรกได้ด้วย นอกจากนี้โฟเลทยังช่วยป้องกันการเกิดภาวะโลหิตจางบางชนิดด้วย และทำให้ระหว่างตั้งครรภ์คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่เกิดภาวะโลหิตจางดังกล่าว คำแนะนำจึงเป็นว่า ถ้าต้องการจะเตรียมตัวก่อนการตั้งครรภ์แล้ว ควรจะรับประทานโฟเลทล่วงหน้าอย่างน้อยสองเดือน โดยรับประทานวันละ 400 ถึง 500 ไมโครกรัมก็น่าจะมีประโยชน์

6.เหนื่อยง่าย

อาการเหนื่อยได้ง่ายนี้จะเกิดขึ้นในระยะ  8-10  สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ เมื่อคุณตั้งครรภ์กระบวนการเผาผลาญพลังงานจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ฉะนั้น ร่างกายจึงจำเป็นต้องได้รับการปรับตัว เพื่อให้กำเนิดอีกชีวิตหนึ่ง โดยมากแล้วอาการนี้จะหายไปในสัปดาห์ที่ 12

7. ปัสสาวะบ่อยขึ้น

ในระยะที่ประจำเดือนขาด 1-2 สัปดาห์คุณก็จะพบว่าคุณปัสสาวะบ่อยขึ้น บ่อยกว่าปกติ ซึ่งเกิดจากทารกกำลังเติบโตอยู่ในมดลูกและกดทับกระเพาะปัสสาวะนั่นเอง

8.แพ้ท้องอาเจียน

อาการนี้อาจเกิดขึ้นตั้งแต่สัปดาห์แรกๆ หลังจากตั้งครรภ์ ซึ่งจะเกิดอาการเวียนศีรษะ ทำให้อาเจียน อาการนี้มักเป็นอาการที่ เกิดได้ตลอดเวลา ทั้งกลางวันและกลางคืน

9.ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล

ระหว่างตั้งครรภ์ คุณจะรู้สึกได้ว่าอุณหภูมิภายในร่างกายสูงขึ้น และยิ่งทารกเติบโตมากขึ้น อุณหภูมิในร่างกายของคุณก็เพิ่มมากขึ้นด้วย นอกจากนี้หน้าตา ผิวพรรณของคุณจะดูแดงระเรื่ยขึ้น นั่นเป็นเพราะจำนวนเส้นเลือดฝอยที่อยู่ใกล้ๆ กับผิวหนังชั้นบนสุดที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จะทำให้มีเลือดมาไหลเวียนบริเวณใต้ผิวหนังมากขึ้น ผิวพรรณของคุณจึงดูเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลมากขึ้นในช่วงตั้งครรภ์

10.ผิวหนังเกิดริ้วรอยแตกลาย

ในช่วงตั้งครรภ์ ผิวหนังส่วนต่างๆ ของร่างกายเริ่มมีการขยาย โดยเฉพาะบริเวณท้อง จึงทำให้ผิวหนังเกิดริ้วรอยแตกลายเป็นเส้นสีแดงๆ หลังจากคลอดแล้ว ริ้วรอยเหล่านี้จะค่อยๆ จางลงจนกลายเป็นเส้นสีขาวๆ แทน

11.ท้องผูก

คุณสังเกตการเปลี่ยนแปลงของลำไส้ตั้งแต่แรกเริ่มตั้งครรภ์ เนื่องจากฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นในช่วงการตั้งครรภ์ จะทำให้ระบบขับถ่ายเปลี่ยนแปลงและมีประสิทธิภาพน้อยลง

12.สีปากมดลูกเปลี่ยน

การไปพบแพทย์จะช่วยให้คุณมั่นใจในผลการตรวจได้มากขึ้น โดยแพทย์จะทำการตรวจบริเวณปากมดลูกของคุณ หากคุณตั้งครรภ์ สีของปากมดลูกจะเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีม่วงในช่วงสัปดาห์ที่ 6 ของการตั้งครรภ์

13.ผลจากการตรวจสอบการตั้งครรภ์

แม้เพียงประจำเดือนขาดไป 1 วัน และคุณพร้อมที่จะรับรู้ความจริง ก็สามารถไปซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์มาทดสอบเองได้ที่บ้าน การทดสอบจากปัสสาวะจะมีความแม่นยำมากขึ้นหากตรวจหลังจากปฏิสนธิได้ 10-14 วัน หากคุณไม่สามารถรอถึงกระทั่งช่วงที่ประจำเดือนขาด การตรวจเลือดจะมีความแม่นยำ ในช่วง 8-10 วันหลังจากปฏิสนธิ และคิดอยู่เสมอว่าไม่มีการทดสอบใดที่ได้ผลถูกต้อง 100%

Expectant Mothers Ask

Q : ท้องได้ 3 เดือนแล้วค่ะ คุณแม่สามีเป็นคนจีนมียาบำรุงมาให้ทานเยอะแยะเลยค่ะ บางอันแปลกๆ ก็ทานนะคะ ไม่กล้าขัดใจคุณแม่ แต่ก็กลัว ไม่รู้ว่าจะเป็นอันตรายกับลูกในท้องบ้างไหมคะ

A : โดยปกติแล้วพัฒนาการของทารกในครรภ์ เกิดขึ้นตลอดเวลาตั้งแต่เกิดการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อน ดังนั้นการระมัดระวังในการรับประทานอาหารและการได้รับสารอาหารที่ปลอดภัยก็น่าจะเป็นหัวใจสำคัญของการมีสุขภาพของทารกในครรภ์ที่ดีโดยเฉพาะในระยะ12 สัปดาห์แรก หรือสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์ โดยนับจากวันแรกที่มีประจำเดือนครั้งสุดท้าย ในช่วงเวลาตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์แรกจึงไม่ควรจะรับประทานอะไรเพิ่มเติมเสริมจากไวตามินและแร่ธาตุเหล็กที่แพทย์แนะนำ อย่างไรก็ตามยาบำรุงตามตำรับของจีนถ้าเป็นยาบำรุงจริงๆ แล้วก็ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตหรือความผิดปกติของทารกมากนัก อย่างไรก็ตามถ้ากังวลใจควรจะปรึกษาแพทย์ที่ฝากครรภ์เอาไว้เป็นการส่วนตัว หรือขอตรวจอัลตราซาวนด์สภาพของการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ซึ่งถึงจะไม่สามารถบอกได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่การตรวจก็บ่งบอกการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ว่าเป็นปกติ และมีความสมบูรณ์ตรงตามขนาดการตั้งครรภ์หรือไม่