ครรภ์ 9 เดือน ใกล้แล้ว ใกล้จะคลอดแล้ว

ใกล้แล้ว ใกล้แล้ว ใกล้จะคลอดแล้ว

พอถึงกลางไตรมาสที่สาม ซึ่งเป็นไตรมาสสุดท้ายแล้ว คุณพ่อคุณแม่มือใหม่คงจะตื่นเต้นกันน่าดู ยิ่งโดยเฉพาะคุณแม่คงจะตื่นเต้นจนนอนไม่หลับเป็นแน่เลย คุณแม่จ๋าใจเย็นๆ นะคะ ช่วงนี้ต้องพักผ่อนมากๆ พยายามนอนให้หลับ ตัดความกังวลต่างๆ ออกไป การพักผ่อนที่เพียงพอจะเป็นการช่วยให้ร่างกายมีความพร้อม และไม่รู้สึกเหนื่อยล้า หรืออ่อนเพลีย เพราะร่างกายที่พร้อมสมบูรณ์จะส่งผลดีต่อการคลอดลูกน้อยนะคะ

ครรภ์เดือนที่ 9 กับการเปลี่ยนแปลงของคุณแม่

คุณแม่ในไตรมาสที่สามนี้ ครรภ์และรูปร่างโดยรวมถือว่าค่อนข้างที่จะเคลื่อนไหวร่างกายได้ไม่ค่อยกระฉับกระเฉง คุณแม่จะรู้สึกอุ้ยอ้ายได้ในตอนนี้ค่ะ เวลาที่จะเดิน จะนั่ง หรือนอนก็ต้องมีการวางท่าทางที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้ไปกระทบกับครรภ์ และคุณแม่ก็จะรู้สึกสบายตัวด้วยค่ะ ซึ่งในช่วงตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไปคุณแม่จะพบกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรู้สึกสับสน ความกังวล ความเครียด ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นผลเนื่องมาจากฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญในคุณแม่บางรายก็อาจมีอาการเจ็บท้องเตือนมาเป็นระยะๆ ซึ่งสัญญาณนี้ถือเป็นการกระตุ้นเตือนให้คุณแม่เตรียมพร้อมที่จะคลอดค่ะ

• ร่างกายของคุณแม่ในตอนนี้ จำเป็นที่จะต้องได้รับพลังงานเป็นจำนวนมาก เพื่อลูกที่กำลังเจริญเติบโต แต่เนื่องด้วยกระเพาะมีพื้นที่เล็กลง คุณแม่ลองเปลี่ยนมาทานอาหารเป็นมื้อเล็กๆ แต่บ่อยขึ้น ก็เป็นวิธีที่ดีอีกวิธีหนึ่งนะคะ

• การได้ออกกำลังกายของคุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์และมาถึงตอนใกล้คลอดนี้ ก็จะเป็นผลดีกับคุณแม่มากค่ะ แต่ควรเป็นการออกกำลังกายที่ไม่หนักมาก ควรเลือกออกกำลังกายเบาๆ อย่างการว่ายน้ำสำหรับคนท้อง โยคะสำหรับคนท้อง ฯลฯ ซึ่งการได้ออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายปรับสภาพให้เข้ากับรูปร่าง และน้ำหนักที่เปลี่ยนไป รวมถึงตอนคลอดก็จะช่วยให้คลอดง่าย ยิ่งถ้าเป็นการคลอดเองแบบธรรมชาติ ก็ทำให้คลอดง่ายมากขึ้นเพราะช่องคลอดมีการยืดหยุ่นที่ดีพอสมควร

• คุณแม่มีอารมณ์ที่แปรปรวนได้ง่าย อาจเป็นเพราะเกิดจากความกังวลในช่วงใกล้คลอดนี้ ฉะนั้นสภาพจิตใจของคุณแม่ในช่วงนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก คุณพ่อรวมถึงคนรอบข้างของคุณแม่ควรที่จะสังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงของคุณแม่ และหาวิธีที่จะปลอบใจ เอาใจใส่คุณแม่ให้มากๆ การนวดผ่อนคลายเบาๆ ให้คุณแม่บริเวณไหล่ ต้นคอ ขมับ ก็จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกดีขึ้นได้ เพราะจะให้ความรู้สึกได้ว่า ตัวเองไม่ได้ถูกทอดทิ้ง และมีคนอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา ยิ่งถ้าเป็นคุณพ่อที่อยู่ข้างๆ คุณแม่ด้วยแล้ว ก็จะทำให้คุณแม่รู้สึกอุ่นใจมากขึ้นค่ะ