คลอดลูกแฝด วิธีการเลี้ยงลูกฝาแฝด

คลอดลูกแฝด วิธีการเลี้ยงลูกฝาแฝด

หลังจากทราบแน่ชัดแล้วว่า ได้ลูกฝาแฝดแน่ๆ คุณแม่ก็คอยเฝ้าประคบประหงมลูกน้อยตั้งแต่อยู่ในท้อง จนกระทั่งถึงวินาทีคลอดกันเลยทีเดียว เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า การดูแลท้องแฝดทุกสิ่งอย่างก็ต้องคูณสองเบิ้ลเข้าไปจากท้องปกติ เพื่อสุขภาพอันแข็งแรงของลูกน้อย แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคุณแม่ แค่นี้ชิวชิว ใช่มั้ยคะ แต่นับจากนี้ต่อไปต่างหากปัญหาระดับชาติกำลังรอคุณพ่อคุณแม่อยู่น๊า

หาผู้ช่วย

หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาจากการอุ้มท้องอันยาวนาน คุณแม่ก็ต้องเหนื่อยต่อกับการดูแลลูกน้อยทั้งกลางวันและกลางคืน ยิ่งลูกฝาแฝดด้วยแล้วยิ่งเหนื่อยดับเบิ้ลเข้าไปอีกต่างหาก เมื่อคลอดลูกฝาแฝดแล้ว ดังนั้นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำเป็นอันดับแรกเลยก็คือ การมองหาคนที่สามารถช่วยเหลือในการเลี้ยงลูกได้ เริ่มจากมองบุคคลที่ใกล้ตัวที่สุดก็คือ คุณพ่อ แต่หากคุณพ่อมีภารกิจที่ยิ่งใหญ่อยู่แล้ว (ต้องทำงานเลี้ยงครอบครัว) งั้นตัวช่วยถัดไปก็คือ คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย หรือพี่ป้าน้าอานั่นเองค่ะ แต่หากทั้งหมดทั้งปวงที่กล่าวมาไม่สะดวกแล้วล่ะก็ ต้องสั่งเดลิเวอร์รี่พี่เลี้ยงที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ผ่านการเทรนด์มาอย่างดีแล้วตรงมาที่บ้านได้เลยค่ะ

ซึ่งการหาผู้ช่วยนั้นไม่เพียงแต่จะช่วยบรรเทาความเหนื่อยให้คุณแม่ได้ แต่ยังช่วยให้คุณแม่รับมือกับอาการจิตตกหลังคลอด หรือภาวะซึมเศร้าหลังคลอดได้เป็นอย่างดี รวมทั้งช่วยให้คุณแม่ที่มีความจำเป็นต้องใช้เวลาในการพักฟื้นร่างกายหลังคลอด ได้มีเวลาเพิ่มขึ้นอีกด้วยค่ะ

ความแตกต่างที่ชัดเจน

คนทั่วไปเวลาไปไหนแล้วเห็นเด็กที่ใส่เสื้อผ้าเหมือนกัน แวบแรกในความคิดก็คือ เด็กทั้งสองเป็นฝาแฝดกันใช่มั้ยคะ แต่จริงๆ แล้วการแต่งตัวให้ลูกฝาแฝดที่ดีที่สุดก็คือ การแต่งตัวให้แตกต่าง ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันก็ได้ เพราะการแต่งตัวไม่ได้เป็นเรื่องแค่บุคลิกภายนอกอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวเนื่องกับจิตใจของลูกๆ ด้วยนะคะ หากคุณเลี้ยงเขาแบบทำอะไรก็ต้องทำให้เหมือนกัน เล่นเหมือนกัน แต่งตัวเหมือนกัน จะทำให้เด็กไม่รู้จักความเป็นตัวของตัวเอง และยึดติดกับฝาแฝดของตัวเองมากเกินไป เมื่อโตขึ้นอาจทำให้ลูกทั้งสองกลายเป็นคนไม่มีสังคม เนื่องจากไม่เห็นความจำเป็น คิดเพียงว่ามีกันสองคนก็เพียงพอแล้ว ซึ่งหากเกิดเหตุจำเป็นที่แฝดทั้งสองต้องแยกจากกันอาจทำให้กลายเป็นเด็กมีปัญหาไปเลยก็ได้ ดังนั้นการเลี้ยงดูแบบแตกต่าง จึงเป็นสิ่งจำเป็นและเหมาะสมกับการเลี้ยงดูลูกฝาแฝดเป็นอย่างยิ่ง

ความแตกต่างที่ว่า ก็ไม่ได้หมายถึงให้เลี้ยงแยกบ้านกันนะคะ เพราะการเลี้ยงแยกรังแต่จะทำให้ลูกปรับตัวยาก และอาจเป็นเด็กมีปัญหาในภายหลังก็ได้ค่ะ

ทำไมไม่เห็นเหมือนเลย

“ทำไมแฝดน้องไม่เห็นเหมือนแฝดพี่เลย” หรือ “ทำไมคนพี่ดื้อ ไม่น่ารักเหมือนคนน้องเลย” การเปรียบเทียบในลักษณะนี้เป็นสิ่งต้องห้ามในการเลี้ยงดูลูกฝาแฝด หรือแม้กระทั่งพี่กับน้องสายเลือดเดียวกัน ถึงแม้ลูกของคุณพ่อคุณแม่จะเป็นฝาแฝดเหมือนกัน อย่าลืมว่า! เขาก็เป็นคนละคนกันนะคะ ถึงหน้าตาเหมือนกันก็ใช่ว่านิสัยจะเหมือนกันไปด้วย ปล่อยให้เขาเติบโตไปอย่างธรรมชาติ เป็นตัวของตัวเขาเอง อย่าไปยัดเยียดหรือกดดันให้เขาเหมือนกันเป็นดีที่สุดค่ะ

การเลี้ยงลูกฝาแฝดด้วยนมแม่

“นมแม่” สำคัญสำหรับลูกฝาแฝดเป็นพิเศษค่ะ เพราะเด็กฝาแฝดส่วนใหญ่มักจะคลอดก่อนกำหนด อย่างที่ทราบกันว่า เด็กที่คลอดก่อนกำหนดมักมีสุขภาพอ่อนแอ ดังนั้นสารอาหารในนมแม่จะช่วยให้ลูกฝาแฝดมีภูมิต้านทานที่ดี และมีสุขภาพแข็งแรง ศูนย์นมแม่ได้แนะนำเกี่ยวกับการให้นมลูกฝาแฝดไว้ดังนี้

“จริงๆ แล้วการเลี้ยงลูกแฝดด้วยนมแม่ทำได้ง่ายกว่าการป้อนนมขวดด้วยซ้ำ เพราะคุณแม่ไม่ต้องเตรียมขวดนมสองชุดสำหรับลูกสองคนทุกวันๆ และการให้นมแม่จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกใกล้ชิดกับลูกแต่ละคนมากเป็นพิเศษด้วย ร่างกายของคุณแม่จะสามารถผลิตน้ำนมได้มากพอสำหรับลูกแฝดทั้งคู่ จำไว้ว่ายิ่งคุณให้ลูกดูดนมมากเท่าใด ร่างกายก็จะผลิตนมได้มากขึ้นเท่านั้น บางทีคุณอาจจะไม่ต้องให้นมผงเสริมเลยก็ได้ถ้าคุณให้ลูกแฝดทั้งสองได้ดูดนมทุกครั้งมากเท่าที่เขาต้องการ โดยคุณแม่อาจต้องทดลองท่าให้นมลูกหลายๆ แบบเมื่อต้องให้นมลูกสองคนไปพร้อมๆ กัน ท่าอุ้มลูกบอลที่ให้แม่อุ้มลูกแต่ละคนไว้ใต้แขนแต่ละข้างอาจใช้ได้ผลดีสำหรับบางคน หรืออาจลองให้ลูกสองคนนอนบนตักในท่าให้นมมาตรฐานหันหน้าไปคนละข้างโดยใช้แขนหรือหมอนหนุนตัวเอาไว้ ให้คุณแม่ทดลองไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหาท่าที่คุณแม่กับคุณลูกรู้สึกสบายที่สุดเวลาให้นม

หรือคุณแม่อาจอยากให้นมแม่แก่ลูกทีละคนก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยคุณอาจให้ลูกแต่ละคนดูดนมเฉพาะจากข้างของเขา หรือจะสลับข้างกันทุกครั้งก็ยังได้ เพียงแค่ต้องให้แน่ใจว่าลูกแต่ละคนได้รับน้ำนมมากเพียงพอเท่านั้น ช่วงสองสามวันแรกอาจใช้วิธีจดเอาไว้เลยว่าใครดูดนมเมื่อไร นานแค่ไหน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยสร้างสายใยความผูกพันเฉพาะกับลูกแต่ละคนได้เป็นอย่างดี”

อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงลูกฝาแฝดนั้นใช่ว่าจะมีแต่ปัญหานะคะ การได้เฝ้าดูลูกน้อยทั้งคู่ค่อยๆ เจริญเติบโต มีพัฒนาการที่สมวัย สุขภาพแข็งแรง เป็นเด็กอารมณ์ดี เพียงเท่านี้ความเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าที่มีก็มลายหายไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงความปลาบปลื้มปิติยินดี อิ่มเอมใจ จริงไหมคะคุณแม่ลูกแฝด???