© 2017 Copyright - Haijai.com
ลูทีน พัฒนาการการมองเห็นของลูกน้อย
การมองเห็นและการรับรู้ทางสายตาจำเป็นอย่างมากต่อการเรียนรู้ของลูกน้อย ลูกจะมีการเรียนรู้ที่ดีเพียงใดนั้น ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับสุขภาพดวงตาและพัฒนาการการมองเห็นของลูกน้อย ซึ่งนอกจากการดูแลและทะนุถนอมดวงตาภายนอกแล้ว คุณแม่ยังสามารถดูแลดวงตาภายในได้ด้วยการเลือกอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยในการบำรุงและเสริมสร้างพัฒนาการการมองเห็นให้กับลูกน้อยได้ จะพาคุณแม่ไปรู้จัก “ลูทีน” อีกหนึ่งสารอาหารที่มีความสำคัญต่อดวงตาของลูกน้อยค่ะ
ลูทีน คืออะไร
ลูทีน (Lutein) เป็นสารอาหารธรรมชาติจัดอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า แซนโทฟิลส์ (Xanthophylls) มีลักษณะเป็นสารสีเหลืองอยู่ในตระกูลของสารแคโรทีนอยด์ (carotenoids) ลูทีนถูกพบมากในจอประสาทตา หรือเรตินา ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นจุดที่รูปภาพและแสงส่วนมากจะมาตกบริเวณนี้ และเป็นส่วนที่จอตารับภาพได้ชัดที่สุดนั่นเอง หากจอประสาทตาเสื่อมหรือเสียไป จะส่งผลต่อการมองเห็น หรือหากร้ายแรงที่สุดก็อาจทำให้ตาบอดได้
ลูทีน มีความสำคัญอย่างไรต่อดวงตา
ลูทีน มีประโยชน์ในการปกป้องจอประสาทตา โดยเฉพาะบริเวณที่เรียกว่า จุดรับภาพ (Macula of Lutea) โดยลูทีนจะทำหน้าที่กรองแสงสีฟ้าที่เข้ามาทำลายจอประสาทตา ซึ่งแสงสีฟ้าที่ว่าเป็นแสงที่เราสามารถพบเจอได้ในหลายๆ ที่ และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่น แสงแดดจ้า แสงจากจอคอมพิวเตอร์ แสงจากจอโทรทัศน์ หรือแสงจากหลอดไฟ เป็นต้น นอกจากนั้นยังทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระในดวงตาของเรา ซึ่งจะมีสารอนุมูลอิสระอยู่เป็นจำนวนมาก และเป็นตัวทำลายเซลล์รับภาพ ทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับจอประสาทตา ดังนั้นสารลูทีนจึงช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ในจอประสาทตาเสื่อมทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ได้
โรคจอประสาทตาที่เกิดในเด็ก
โรคจอประสาทตาในเด็ก อาจมีสาเหตุเกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรม การขาดสารอาหารบางชนิด แต่ที่มักพบบ่อยคือ เด็กที่คลอดก่อนกำหนด ผลจากการศึกษาพบว่า
• ในกลุ่มเด็กที่คลอดก่อนกำหนดที่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่า 1,250 กรัม มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคจอประสาทตากว่า 60%
• ในกลุ่มเด็กที่คลอดก่อนกำหนดที่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่า 750 กรัม จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคจอประสาทตากว่า 90%
โรคจอประสาทตาในเด็ก ถือเป็นสาเหตุหลักๆ อันดับหนึ่งที่ทำให้เด็กตาบอดมากที่สุดในปัจจุบัน
ลูทีน พบได้ในที่ไหน
สำหรับประเทศไทย “ลูทีน” อาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ในต่างประเทศ “ลูทีน” กลับเป็นที่สนใจของจักษุแพทย์และนักวิจัยเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ในการปกป้องจอประสาทตา ช่วยชะลออาการจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุได้ และยังได้มีการศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของลูทีนที่มีต่อดวงตาในเด็กทารกและเด็กเล็ก พบว่าลูทีนมีประโยชน์ต่อสุขภาพดวงตาและช่วยปกป้องจอประสาทตาเช่นเดียวกับในผู้สูงอายุ โดยมีส่วนช่วยให้พัฒนาการทางสายตาและการมองเห็นของลูกน้อยมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
แต่เราจะได้รับสารลูทีนจากอาหารที่รับประทานเข้าไปเท่านั้น เพราะร่างกายของคนเราไม่สามารถสร้างหรือสังเคราะห์สารลูทีนขึ้นมาใช้เองได้ และที่น่ายินดีอย่างยิ่งสำหรับลูกน้อยที่ดื่มนอแม่คือ ลูทีนเป็นสารอาหารอีกชนิดหนึ่งที่พบมากใน “น้ำนมแม่” นั่นเองค่ะ ดังนั้นคุณแม่ที่ให้ลูกดื่มนมแม่อยู่ก็มั่นใจได้เต็มร้อยว่า ลูกน้อยของคุณได้รับสารลูทีนอย่างเพียงพอแน่นอนค่ะ นอกจากนี้ใน “น้ำนมแม่” ยังมีวิตามินเอ ทอรีน กรดไขมัน DHA และ AA ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสารอาหารบำรุงดวงตาของลูกน้อยทั้งนั้นค่ะ
ส่วนคุณแม่ที่มีเหตุจำเป็นไม่สามารถให้น้ำนมกับลูกน้อยได้ คุณแม่สามารถพิจารณาอาหารอื่นๆ แทนได้ เช่น ผักและผลไม้ที่มีสีเหลือง และสีเขียวเข้ม เช่น ข้าวโพด ผักกาด พริกหยวกสีเหลือง ผักปวยเล้ง คะน้า ผักโขม ผักบร็อกโคลี่ เป็นต้น
ด้วยสภาพแวดล้อมรอบตัวลูกน้อยที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว คุณพ่อคุณแม่ควรหันมาใส่ใจให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพดวงตาของลูกน้อย เพราะหากพัฒนาการด้านการมองเห็นไม่ดีก็จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อพัฒนาการด้านอื่นๆ ตามมา ดังนั้นการดูแลและปกป้องดวงตาลูกน้อยตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
(Some images used under license from Shutterstock.com.)