© 2017 Copyright - Haijai.com
วิธีการดูแลเจ้าตัวน้อยหลังฉีดวัคซีน
การเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากเจอ ยิ่งถ้าความเจ็บป่วยนั้นเกิดขึ้นกับเด็กเล็กๆ ความทรมานก็จะมากกว่าผู้ใหญ่ แต่คุณแม่ก็สามารถป้องกันลูกรักได้ด้วยการฉีดวัคซีน แต่ด้วยสภาพร่างกายของลูกและชนิดของวัคซีนที่ได้รับ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงขึ้นได้ เรามาดูกันค่ะ ว่าผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น จากการฉีดวัคซีนนั้นมีอะไรบ้าง และคุณแม่ควรแก้ไขอย่างไร
1. ตุ่มหนอง มักจะเกิดจากการฉีดวัคซีน บีซีจี ป้องกันวัณโรคปอด โดยจะฉีดบริเวณหัวไหล่หรือสะโพก ซึ่งตุ่มหนองหรือฝีจะปรากฏขึ้น หลังฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ และจะพองๆ ยุบๆ อยู่ประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ แล้วก็จะหายไปเองโดยที่คุณแม่ไม่จำเป็นต้องทำอะไร เพียงแต่ต้องคอยระวังรักษาความสะอาด อย่าให้ตุ่มหนองเกิดการติดเชื้อเท่านั้น
2. มีอาการปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีดวัคซีน ถ้าเป็นมากก็อาจจะทำให้ลูกร้องกวนได้ กรณีนี้ให้คุณแม่ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบบริเวณที่ปวด ถ้ายังไม่ดีขึ้นอาจให้ลูกรับประทานยาแก้ปวด เพื่อช่วยให้อาการทุเลาลง
3. เป็นไข้ ตัวร้อน มักเกิดจากการฉีดวัคซีน คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ซึ่งจะฉีดเมื่ออายุ 2 เดือน 4 เดือน 6 เดือน ขวบครึ่ง และ 4 ขวบ เมื่อลูกมีไข้คุณแม่ควรเช็ดตัวลูกด้วย ผ้าชุบน้ำอุ่นหมาดๆ โดยเฉพาะบริเวณซอกคอ ข้อพับต่างๆ และอาจให้รับประทานยาลดไข้ร่วมด้วย
4. ไอ มีน้ำมูก เป็นผื่น เป็นอาการที่อาจพบหลังฉีดวัคซีนป้องกัน หัด หัดเยอรมัน ไปแล้วประมาณ 5 วัน แต่ส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรง ถ้าลูกมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ซึม อ่อนเพลีย ไม่เล่น ไม่ดูดนม หรือ รับประทานอาหารไม่ได้ คุณแม่ต้องรีบพาไปพบแพทย์ทันที
5. ชัก สาเหตุของการชักนั้นไม่ได้มาจากการฉีดวัคซีนโดยตรง แต่เกิดจากการมีไข้สูงหลังฉีดวัคซีน วิธีป้องกันก็คือ หลังจากลูกฉีดวัคซีนแล้ว คุณแม่ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีไข้ต้องพยายามหาวิธีทำให้ไข้ลด อย่าปล่อยให้ไข้ขึ้นสูง เพราะจะทำให้เกิดอาการชักได้ ส่วนวิธีแก้ไขเมื่อลูกชัก ให้คุณแม่จับให้ลูกนอนหันหน้าไปด้านข้าง หรือจับให้นอนคว่ำ เพื่อป้องกันการสำลัก และไม่ควรนำสิ่งของ เช่น ช้อน ไม้ หรือ นิ้วมือ ใส่เข้าไปในปากของลูก เพราะจะยิ่งทำให้เกิดการสำลักมากขึ้น และเมื่อพาลูกไปฉีดวัคซีนในครั้งต่อไป ควรแจ้งให้คุณหมอทราบด้วยว่าลูกมีอาการชักหลังจากฉีดวัคซีน
หลังฉีดวัคซีน ไม่ว่าลูกจะมีอาการอะไรเกิดขึ้นก็ตาม หากคุณแม่ปฎิบัติตามคำแนะนำด้านบนแล้วแต่ลูกยังอาการไม่ดีขึ้น ควรพาไปปรึกษาคุณหมอเพื่อจะได้ตรวจหาสาเหตุ และทำการรักษาต่อไป
(Some images used under license from Shutterstock.com.)