
© 2017 Copyright - Haijai.com
อนาคต ลดริ้วรอยให้รังไข่
ชายหญิงมักมีประเด็นให้ถกเถียงถึงความได้เปรียบเสียเปรียบที่ไม่เท่ากันอยู่เสมอ ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะระบายว่า พวกเขาเสียเปรียบเพราะต้องเกณฑ์ทหาร และเพราะความเป็นสุภาพบุรุษที่ต้องยินยอมน้อมรับให้เกียรติสุภาพสตรีก่อนเสมอ ส่วนผู้หญิงเราก็คงหนีไม่พ้นการมีประจำเดือนที่สร้างความรำคาญใจ และกายได้ทุกเดือน แถมยังกินระยะเวลายาวนานหลายปี รวมถึงการตั้งครรภ์ก็ดี ถือเป็นสิ่งที่ได้อย่างเสียอย่างของแต่ละเพศก็คงไม่ผิด แต่หากพูดถึงการตั้งครรภ์และประจำเดือนในผู้หญิงแล้ว ก็ยังเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงดูโตกว่าผู้ชาย และแก่ไวก่อนใครเพื่อนอยู่ดี แต่ธรรมชาติหรือจะสู้เทคโนโลยีสมัยนี้ได้ เพราะนอกจากพัฒนาการด้านศัลยกรรมรูปร่างหน้าตกภายนอกแล้ว การฟื้นฟูยกกระชับภายในอย่าง “รังไข่” เขาก็ว่าใกล้จะทำได้แล้วด้วยนะ
รังไข่ คืออะไร
“รังไข่” (Ovary) มีหน้าที่สำคัญในการผลิตฮอร์โมนเพศหญิง และการผลิตไข่ผ่านการกระตุ้นจากต่อมใต้สมอง รังไข่ของเรานั้นมีอยู่ด้วยกัน 2 ข้าง โดยจะอยู่คนละข้างของมดลูก มีลักษณะคล้ายเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร หนา 1 เซนติเมตร กระบวนการทำงานของรังไข่คือ การหลั่งสาระสำคัญออกมา 2 ชนิด ได้แก่ สาร FSH ซึ่งเป็นสารที่จะเจริญเติบโตไปเป็นเนื้อเยื่อรอบรังไข่ และทำการหลั่งฮอร์โมนเอสโทรเจน (Estrogen) หรือฮอร์โมนเพศหญิงออกมา ซึ่งถือว่าเป็นฮอร์โมนสำคัญในการทำให้เกิดลักษณะของเพศหญิง อันได้แก่ การมีเสียงแหลม สะโพกผาย รวมถึงการมีไขมันในส่วนต่างๆ ที่มากกว่าเพศชาย ต่อมาคือสาร LH เป็นสารที่ทำงานร่วมกับสารตัวแรก ซึ่งจะถูกหลั่งออกมาเมื่อสารตัวแรกหลั่งออกมาเต็มที่แล้ว จนเกิดภาวะของการตกไข่ในที่สุด ภาวะตกไข่เป็นภาวะที่รังไข่ และเยื่อบุผนังมดลูกเกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ และหากมีการปฏิสนธิระหว่างไข่กับเชื้ออสุจิ ไข่ก็จะถูกลำเรียงผ่านท่อนำไข่ให้ไปฝังตัวยังบริเวณมดลูก เพื่อรอการเจริญเติบโตไปเป็นตัวอ่อนของมนุษย์ต่อไป แต่หากไข่ยังไม่ได้รับการปฏิสนธิจากเชื้ออสุจิ เนื้อเยื่อผนังมดลูกด้านในและหลอดเลือดที่สลายตัว ก็จะไหลออกมาทางช่องคลอด เรียกว่าประจำเดือน แต่จำนวนไข่ของผู้หญิงเองก็ยังมีจำนวนที่ค่อนข้างจำกัด และเสื่อมน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ 6-7 ล้านใบหลังจากนั้นจะมีจำนวนที่ลดลง เนื่องจากกระบวนการเจริญเติบโตทางด้านร่างกาย โดยช่วงวัยรุ่นนั้นจำนวนไข่จะลดลงเหลืออยู่ที่ประมาณ 3-5 แสนใบเท่านั้น และจะคงอยู่ในอัตรานี้ จนอายุประมาณ 38 ปี จำนวนไข่จะลดลงเหลือเพียง 25,000 ใบ จากนั้นจะถือเป็นการเสื่อมของมดลูกอย่างชัดเจน เพราะเมื่ออายุเริ่มเข้าสู่ 45-50 ปี จะเป็นช่วงที่จำนวนไข่ลดลงอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงประมาณ 400-500 ใบ เท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าต้องเกิดภาวะร่างกายขาดฮอร์โมน จึงทำให้เกิดความแปรปรวนทางอารมณ์ โอกาสตั้งครรภ์น้อยลง ประจำเดือนไม่มาและอาการต่างๆ ที่เรียกว่า วัยทอง หรือวัยขาดฮอร์โมน
นอกจากนี้ รังไข่ที่เริ่มเสื่อมลงอาจมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ ได้ เช่น เนื้องอก ซีสต์ รวมถึงมะเร็ง อันเนื่องมาจากภาวะช่องคลอดแห้ง จึงทำให้ง่ายต่อการติดเชื้อ และหากพบว่ามีอาการของโรคที่รุนแรงมาก ก็อาจส่งผลต่อการมีบุตรได้เช่นกัน ส่วนแหล่งผลิตฮอร์โมนของเพศชายนั้น จะมาจากอัณฑะ (Testis) โดยเป็นแหล่งผลิตฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) และเทสโทสเทอโรน (Testosterone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เกิดลักษณะเพศชาย เช่น การมีเสียงห้าว นมขึ้นพาน ลูกระเดือกแหลม มีหนวดเคราและขนที่หน้าแข้ง เป็นต้น ผู้ชายที่เริ่มเข้าสู่วัยขาดฮอร์โมน หรือวัยทองจะมีอาการไม่ต่างกับผู้หญิงวัยทองสักเท่าไร ไม่ว่าจะเป็น อาการหงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน กล้ามเนื้อน้อยลง มีการก่อตัวของไขมันมากขึ้น และนอนหลับยาก ในกรณีที่ไม่มีการบำรุงดูแลตัวเอง อาจส่งผลในระยะยาวทางด้านสุขภาพได้ เช่น โรคกระดูกบาง กระดูกพรุน กล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคความดัน โรคหัวใจ และโรคอ้วนลงพุงที่พบได้มากในผู้ชายที่เริ่มมีอายุนั่นเอง
ลดริ้วรอยให้รังไข่
ความหวังใหม่แห่งวงการแพทย์นี้มีชื่อว่า Ovascience มีวัตถุประสงค์ในการพัฒนา เพื่อช่วยปรับปรุงสุขภาพของรังไข่ ซึ่งถือเป็นแหล่งพลังงานขนาดเล็ก แต่เป็นอวัยวะที่มีความสำคัญต่อผู้หญิงทุกคน “Ovascience” เป็นการช่วยฟื้นฟูสุขภาพของรังไข่ในผู้หญิง เพราะนอกจากการเสื่อมตัวจากสภาพร่างกายโดยธรรมชาติแล้ว การคลอดบุตรก็ยังส่งผลให้รังไข่เกิดการเสื่อมได้เร็วขึ้นจากเดิม อันเนื่องจากการเสื่อมตัวลงของรูขุมขนบริเวณรอบรังไข่หลังการคลอดบุตร หรือแม้แต่ในผู้หญิงบางรายที่ไม่เคยผ่านการคลอดบุตรมาก่อน รูขุมขนดังกล่าวก็ยังสามารถเกิดการเสื่อม และตายลงได้เองตามธรรมชาติอีกเช่นกัน ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ จากภายนอกอีกมากมาย เช่น รังสีอัลตร้าไวโอเลต ความเจ็บป่วย ปัจจัยทางด้านอายุที่มากขึ้น รวมถึงพันธุกรรมร่วมด้วย การพัฒนาเครื่องช่วยลดริ้วรอยรังไข่ หรือ Ovascience จึงมีวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือผู้หญิงที่ประสบปัญหามีบุตรยาก หรือผู้หญิงที่ต้องการจะมีบุตรในขณะที่ร่างกาย และอายุของตัวเองไม่เหมาะสมต่อการมีบุตรได้ โดยเป็นการสกัดนำเซลล์ตั้งต้นจากรังไข่ของผู้หญิง มาผ่านกระบวนการทางการแพทย์ แล้วทำการฝังลงไปในรังไข่ใหม่อีกครั้ง เพื่อเข้าไปช่วยปรับปรุงสภาพของไมโคคอนเดรีย (Mitochondria) เพราะไมโทคอนเดรียจะมีหน้าที่ในการสร้างพลังงานแก่เซลล์ จึงทำให้รังไข่มีความแข็งแรง และฟื้นฟูขึ้นได้ ซึ่งหากรังไข่มีความสมบูรณ์แข็งแรงอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมแล้ว ก็จะสามารถตั้งครรภ์ และทำให้เด็กที่เกิดมามีสุขภาพที่ดีเป็นปกติได้
อย่างไรก็ตาม ดร.เอมี่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวชวิทยา จากซานฟรานซิสโก ได้ออกมาลงความเห็นกับทฤษฎีใหม่ทางการแพทย์นี้ว่า ยังเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวัง และต้องมีการวิจัยศึกษาเพิ่มเติมอยู่อีกมาก เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาที่แน่ชัดเกี่ยวกับผลข้างเคียงต่อภาวการณ์เจริญพันธุ์ของผู้หญิง รวมถึงผลลัพธ์ที่จะได้หลังการใช้ทฤษฎีนี้ เข้ารักษาอย่างชัดเจน อีกทั้งองค์การอาหารและยา (FDA) เอง ก็ยังไม่ได้มีการอนุมัติใช้ทฤษฎีการฟื้นฟูรังไข่ด้วยวิธีนี้อย่างเป็นทางการ
ดังนั้น หลักการดังกล่าวจึงยังไม่สามารถใช้ได้ภายในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามทีมผู้วิจัยยังคงมีการพัฒนาและศึกษาอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับทฤษฎีใหม่นี้ เพื่อหวังเป็นการรักษาและแนวทางใหม่ในการช่วยฟื้นฟูอวัยวะภายในของร่างกายมนุษย์
แม้ว่าทฤษฎีการฟื้นฟูรังไข่จากเซลล์ต้นเกิด จะยังไม่สามารถใช้ได้จริง แต่เชื่อว่าอีกไม่นานเราคงได้เห็นข่าวความสำเร็จของการคืนความอ่อนเยาว์ให้รังไข่ด้วยวิธีสุดล้ำ พร้อมเทคนิคใหม่แห่งวงการแพทย์อย่างแน่นอน อีกทั้งปัจจุบันก็ยังมีทางเลือกอื่นสำหรับผู้สูงวัย หรือกลุ่มวัยทองในการช่วยชะลอความเสื่อมโทรมของร่างกายให้เป็นไปอย่างช้าๆ ที่เรียกว่า ฮอร์โมนทดแทน และยังมีให้เลือกบริโภคด้วยกันหลายรูปแบบอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการรับประทาน ครีมทาผิวหนัง เจลทาผิวหนัง หรือกระทั่งการฝังไว้ยังบริเวณใต้ผิวหนังก็ยังมี แท้จริงแล้วจะชายหรือหญิง ก็มีความโดดความเด่นที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่หนีไม่พ้นเหมือนกันก็คือ ความเจ็บ และความแก่โรยรา ซึ่งการออกกำลังกาย หรือการฝึกจิตใจให้เป็นคนมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ ก็เป็นสิ่งที่สามารถช่วยลดความแก่ชะลอความเครียดได้ไม่น้อยเหมือนกันนะ ไม่เชื่อก็ลองดู
(Some images used under license from Shutterstock.com.)