© 2017 Copyright - Haijai.com
กินอาหารกลางวันอย่างมีสติ
คุณหมอทรงยศอธิบายว่า “ช่วงเที่ยงเป็นเวลาที่กล้ามเนื้อหัวใจทำงานหนัก จึงควรเน้นกินอาหารบำรุงกล้ามเนื้อหัวใจ เช่น กล้วย สม มะเขือ เตย รากบัว และอาหารที่มีสีแดงตามธรรมชาติ เช่น ถั่วแดง ผลไม้สีแดง น้ำมันปลา วิตามินบีชนิดต่างๆ
“อาจเสริมด้วยผลไม้สดหลังมื้ออาหาร เพื่อเพิ่มปริมาณวิตามิน เกลือแร่ และใยอาหารในร่างกาย เพื่อป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็ง และลดคอเลสเตอรอล”
นอกจากนี้ แพทย์หญิงคริสทีน ฮอร์เนอร์ เขียนอธิบายไว้ในหนังสือ Low Carb Energy เรื่อง SUGAR a Serious addiction you can break ว่า เราควรกินอาหารกลางวันแต่พอดี ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป ที่สำคัญคือ ควรหลีกเลี่ยงน้ำหวาน น้ำอัดลม ที่อุดมไปด้วยน้ำตาลจำนวนมหาศาล เพราะนอกจากจะทำให้คุณเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน เบาหวานแล้ว บางคนอาจจะไม่ทราบว่าน้ำตาล สามารถกดการทำงานของเม็ดเลือดขาวได้ (Sugar suppress lymphocyte) พูดง่ายๆ ก็คือ กดการทำงานของภูมิต้านทานนั่นเอง เช่นเดียวกับที่ นายแพทย์เจมส์ บราลี อธิบายไว้ในหนังสือ Dr.Braly’s Food Allergy & Nutrition Revolution ว่า “ในบางคนน้ำตาลกดการทำงานของเม็ดเลือด โดยเฉพาเม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นตัวหลักของภูมิต้านทาน (เม็ดเลือดขาวมีหน้าที่สำคัญ คือ คอยทำลายเชื้อโรคและปกป้องร่างกายจากสิ่งแปลกปลอม) ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าคุณดื่มน้ำอัดลม 1 กระป๋อง หรือกาแฟใส่น้ำตาล 1 ถ้วย แล้วตามด้วยขนมหวานอีก 1 ชิ้น เม็ดเลือดขาวของคุณจะทำงานลดลง 75 เปอร์เซ็นต์ นาน 6-8 ชั่วโมงกว่าจะกลับมาทำงานตามปกติ”
นายแพทย์เจมส์ระบุอีกด้วยว่า เมื่อมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง น้ำตาลจะกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระได้ง่ายขึ้น และมากขึ้นภายในหลอดเลือด และอนุมูลอิสระเหล่านี้ก็จะทำลายผนังหลอดเลือด และทุกเซลล์ในร่างกายที่เลือดวิ่งไปถึง รวมถึงเป็นการส่งเสบียงให้เซลล์มะเร็งเติบโตเร็วขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย ฉะนั้นหากอยากห่างไกลจากโรค NCDs หันมาดื่มน้ำเปล่าเป็นดีที่สุด
(Some images used under license from Shutterstock.com.)