Haijai.com


แก้ปัญหาจมูกพังหลังศัลยกรรมจมูก


 
เปิดอ่าน 4284

แก้ปัญหาจมูกพัง (หลังศัลยกรรม)

 

 

“ศัลยกรรม” กลายเป็นเรื่องปกติทั่วไปในสังคมไปแล้วก็ว่าได้ หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน การนำแท่งพลาสติก ซิลิโคน หรือสิ่งแปลกปลอมใดๆ เข้าสู่ร่างกายนั้น ถือเป็นเรื่องที่น่าหวาดเสียว และดูอันตรายเป็นอย่างมาก เนื่องจากเทคโนโลยีที่ยังไม่มีความก้าวหน้ามากนัก และความเข้าใจที่ยังไม่ลึกซึ้งมากเท่าสมัยนี้ ซึ่งหากพูดถึงการศัลยกรรมแล้ว อวัยวะที่ติดอันดับคนนิยมทำมากที่สุดคงหนีไม่พ้น “จมูก” จะสังเกตเห็นว่าไม่ว่าจะชายหรือหญิง มักจะเริ่มต้นการทำศัลยกรรมจากจมูกซะเป็นส่วนใหญ่ ด้วยเพราะเป็นจุดที่ถือว่าช่วยเปลี่ยนใบหน้าคนได้อย่างไม่เหลือเชื่อ บางคนเพียงเสริมจมูกอย่างเดียว ใบหน้าก็ดูสมส่วนและดูดีขึ้นมาในทันใด แต่ปัญหา หรือผลข้างเคียงที่เกิดจากศัลยกรรมก็ยังมีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน โดยปัญหาหนักใจของคนดั้งโด่งจากศัลยกรรมก็คือ จมูกเบี้ยว จมูกแหลม หลังทำนั่นเอง หากเราตั้งข้อสังเกตดีๆ จะรู้สึกว่าการทำศัลยกรรมเมื่อหลายปีก่อน หรือในช่วงที่การทำศัลยกรรมมาใหม่ๆ นั้น ปัญหาจมูกเบี้ยว จมูกแหลมหลังศัลยกรรมจะมีน้อยกว่าสมัยนี้มาก ... แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลยนะ

 

 

ส่วนประกอบของจมูก

 

จมูกเป็นอวัยวะที่สิ่งมีชีวิตแทบทุกชนิดที่อยู่บนโลกจะต้องมี และแม้ว่าจมูกของมนุษย์กับสัตว์จะมีหน้าที่ในการช่วยหายใจ จึงถือเป็นอวัยวะที่สำคัญมากในการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต บริเวณภายในโพรงจมูกจะมีเนื้อเยื่ออ่อนเป็นส่วนของผิวหนัง ซึ่งเนื้อเยื่ออ่อนเหล่านั้น จะมีหน้าที่ในการขับสารและน้ำมาหล่อเลี้ยงจมูก เมื่อเราหายใจเข้า น้ำมูกจะเป็นสิ่งที่ช่วยเติมความชื้นให้กับอากาศ และหากเนื้อเยื่ออ่อนนี้เกิดการระคายเคือง ก็จะทำให้มีการขับน้ำมูกออกมามากกว่าปกติ บริเวณด้านบนของโพรงจมูกจะมีเส้นประสาทประกอบอยู่ ช่วยทำหน้าที่ในการรับกลิ่น และยังมีรูเปิดของท่อน้ำตา เพื่อใช้ระบายน้ำตาลงมาในโพรงจมูก ดังนั้น เมื่อเราห้องไห้ น้ำตาส่วนหนึ่งจะไหลลงมาตามท่อเข้าสู่โพรงจมูก ทำให้ขณะที่เราร้องไห้จะมีน้ำมูกไหลออกมาด้วยนั่นเอง

 

 

นอกจากนี้ยังมีขนจมูกที่ช่วยป้องกันไม่ให้เศษฝุ่น หรือสิ่งสกปรกที่มาพร้อมอากาศเข้าไปยังทางเดินหายใจได้อีกด้วย จมูกมีลักษณะเป็นโพรง 2 ข้าง คั่นกลางด้วยกระดูกอ่อนหรือที่เราเรียกกันว่า “สันจมูก” เป็นกระดูกอ่อนที่เริ่มตั้งแต่หัวคิ้ว ส่วนบนเป็นกระดูกเรียกว่า “ดั้งจมูก” ส่วนล่างเป็นกระดูกอ่อน ซึ่งตำแหน่งของสันจมูก และดั้งจมูกนี่เอง คือ ตำแหน่งที่ใช้เพิ่มความโด่งให้จมูก

 

 

ปัญหาที่พบบ่อยหลังศัลยกรรมจมูก

 

การศัลยกรรมจมูก หรือเสริมจมูกเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมสูงสุดอันดับต้นๆ มาตลอด และแม้ว่าจะมีความนิยมมากที่สุด แต่ก็ยังคงสร้างปัญหากวนใจให้กับผู้ที่ผ่านการศัลยกรรมจมูกได้อยู่ไม่น้อย เพราะใช่ว่าศัลยกรรมครั้งเดียวจะสาย หล่อเป๊ะได้ตามสั่ง การศัลยกรรมไม่ว่าจะเป็นการทำนม ทำตา ปรับโครงหน้าหรือทำจมูก ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยระยะเวลาในการปลุกปั้นด้วยกันทั้งนั้น ในส่วนของปัญหาที่เกิดหลังจากศัลยกรรมจมูกนั้น มักจะมีอยู่ด้วยกันหลายแบบดังนี้

 

1.จมูกเอียง ปัญหาจมูกเบี้ยว หรือจมูกเอียงหลังศัลยกรรมนั้น เป็นปัญหาที่สามารถพบได้บ่อยที่สุด คนไข้สามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเองว่า จมูกที่ทำศัลยกรรม หรือแม้แต่ยังไม่ได้ทำนั้นเบี้ยวหรือไม่ โดยการสังเกตจุดกึ่งกลางระหว่างคิ้วและหัวตา และจุดกึ่งกลางของปลายจมูก ซึ่งควรที่จะตรงกับกึ่งกลางของปากบนปัญหาจมูกเอียงนั้น ทางการแพทย์จัดว่าเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังเสริมจมูกด้วยแท่งซิลิโคน แบ่งลักษณะของอาการจมูกเอียงออกเป็น 3 แบบคือ

 

 ลักษณะโคนเอียง บริเวณระหว่างคิ้วและหัวตาเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง

 

 

 ลักษณะปลายเอียง คือ บริเวณโคนตรงเป็นปกติ แต่ส่วนของปลายจมูกเอียง

 

 

 แท่งจมูกเอียงทั้งหมด เป็นลักษณะที่สามารถสังเกตได้ชัดเจน เพราะเมื่อมองจากมุมตรงจะพบว่าแท่งจมูกนั้น จะเบี้ยวหรือเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งอย่างชัดเจน

 

 

สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาจมูกเบี้ยว จมูกเอียงนี้มาจากหลายสาเหตุด้วยกัน

 

 ไม่ว่าจะเป็นฐานจมูกเดิมของคนไข้ ที่อาจจะคดเอียงอยู่แล้ว และเมื่อวางแท่งซิลิโคนเพิ่มเข้าไป ก็จะทำให้จมูกที่ได้ใหม่เอียงตามฐานเดิมของคนไข้นั่นเอง

 

 

 สาเหตุที่สอง คือ กระดูกหรือเงี่ยงตรงบริเวณกระดูกส่วนกลางนั้น โหนกนูนขึ้นมา เมื่อวางแท่งซิลิโคนไปแล้ว ทำให้แท่งซิลิโคนนั้นเลื่อนไปด้านหลังและเอียงในที่สุด

 

 

 สาเหตุที่สาม คือ ปัญหาที่เกิดจากตัวแท่งซิลิโคนเอง หากแพทย์ผู้ผ่าตัดใช้แท่งซิลิโคนมีขนาดที่ยาวเกินไป จะทำให้เกิดการเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง จากการดันแท่งซิลิโคนนั่นเอง

 

 

อย่างไรก็ตามการใช้แท่งซิลิโคนที่ยาวจนทำให้จมูกเอียง หรือจมูกเบี้ยวหลังเสริมนั้น ยังถือว่าเป็นผลข้างเคียงที่พบได้น้อย เพราะปัญหาที่เกิดจากการใช้แท่งซิลิโคนที่ยาวเกินพอดี มักจะพบในกรณีของจมูกทะลุหลังศัลยกรรมซะมากกว่า

 

 

 สาเหตุสุดท้าย คือ โพรงจมูกที่ไม่เท่ากัน หากคนไข้มีปัญหาโพรงจมูกซ้ายขวาไม่เท่ากัน ทำให้เกิดความชันไม่เท่ากัน จนเป็นสาเหตุที่ทำให้จมูกดูเอียง หรือเบี้ยวได้เช่นกัน

 

 

2.จมูกปลายแหลมเกินไป หรือทะลุ ถือเป็นปัญหาที่นอกจากทำให้ขาดความมั่นใจและความสวยงามแล้ว ยังทำให้ดูเป็นลักษณะของจมูกที่ดูน่าหวาดเสียวอยู่ไม่น้อย โดยลักษณะในกรณีของจมูกทะลุนั้น ไม่ได้เป็นไปทั้งแท่งซิลิโคน หากแต่เป็นเพียงแต่ส่วนปลายซิลิโคนเท่านั้น จะมีลักษณะส่วนปลายของจมูกเป็นใสๆ เกือบเห็นตัวเนื้อซิลิโคนอย่างชัดเจน

 

 สาเหตุอาจเกิดจากการใช้แท่งซิลิโคนที่ไม่เหมาะสม ซึ่งหมายถึงลักษณะของแท่งซิลิโคนที่แข็งเกินไป หรือมีการทำให้แท่งซิลิโคนโด่งมากเกินไปจากการเหลานั่นเอง โดยสาเหตุนี้จะมาจากความไม่ชำนาญ หรือขาดประสบการณ์ของแพทย์ ที่ไม่ได้คำนึงถึงเนื้อจมูกของคนไข้ว่า สามารถเพิ่มซิลิโคนได้มากน้อยขนาดไหน รวมถึงขาดความชำนาญในการเหลาแท่งซิลิโคนที่เหมาะสม ให้กับคนไข้อีกด้วย

 

 

 สาเหตุต่อมา คือ แพทย์ที่ใช้แท่งซิลิโคนที่มีความยาวที่มากจนเกินไป ในบางรายอาจรู้สึกได้ทันทีหลังจากเสริมจมูกว่า จมูกของตัวเองแหลมเกินไป หรือในบางรายอาจพบอาการจมูกทะลุหลังเสริมไปแล้วสักระยะหนึ่ง

 

 

อย่างไรก็ตามสาเหตุของจมูกทะลุ ก็ยังมาจากตัวคนไข้เองด้วยในส่วนหนึ่ง เช่น คนไข้ที่ต้องการออกแบบให้จมูกใหม่ของตัวเองนั้นเป็นแบบต่างๆ อย่างจมูกทรงหยดน้ำ ซึ่งหมายถึงลักษณะที่ปลายจมูกออกจะแหลมเป็นติ่งหยดน้ำเล็กน้อย ในกรณีนี้แพทย์มักจะแนะนำให้คนไข้เข้ารับการศัลยกรรม โดยใช้กระดูกอ่อนหลังหูของคนไข้เอง มากกว่าการใช้ซิลิโคน เพราะจะให้ความเป็นธรรมชาติ ทั้งยังเป็นวิธีที่ปลอดภัยทั้งก่อนทำและหลังทำอีกด้วย

 

 

นอกจากนี้ยังรวมถึงสาเหตุที่เกิดจากการขาดความดูแลอย่างจริงจังจากตัวคนไข้เอง เช่น พักผ่อนน้อย สัมผัสแผลบ่อย และไม่รู้จักทำความสะอาด เป็นต้น

 

 

3.ซิลิโคนเคลื่อนตัว หรือซิลิโคนไหล ถือว่าเป็นปัญหาอันดับต้นๆ ที่เกิดกับผู้ผ่านศัลยกรรมจมูกอยู่ไม่น้อย โดยจะพบว่าแท่งซิลิโคนที่เสริมเข้าไปนั้น เกิดการเคลื่อนย้ายไปจากตำแหน่งเดิม หรืออยู่กับที่แบบไม่แน่นพอ กรณีนี้คนไข้จะสามารถสัมผัสได้ด้วยตัวเอง เพราะเมื่อจับหรือลองโยกสันจมูกเบาๆ จะพบว่าแท่งซิลิโคนสามารถโยกขึ้นลง หรือเคลื่อนตัวซ้ายขวาได้

 

 

หากปล่อยทิ้งไว้นานอาจทำให้กลายเป็นปัญหาจมูกทะลุได้ในอนาคต ดังนั้น คนไข้ที่รู้สึกว่าจมูกของตัวเองเคลื่อนตัวได้ ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อเข้ารับการแก้ไข

 

 

4.จมูกติดเชื้อ ปัญหานี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกคน ที่ผ่านการศัลยกรรมเสริมจมูกมา แต่พบได้น้อยมาก ข้อสังเกต คือ บริเวณของแผลนั้น จะบวมแดง มีอาการปวดเป็นบางเวลา และอาจมีน้ำขุ่น หรือหนองจากแผล โดยปกติแล้ว อาการบวมจะหายไปหลังการผ่าตัดไปแล้ว 4-5 วัน หากคนไข้พบว่าจมูกยังมีอาการบวมเกิน 1 สัปดาห์ ให้ระวังไว้ว่า กำลังอยู่ในภาวะของการติดเชื้อ นอกจากนี้ในส่วนของคนไข้ที่ไม่มีอาการบวมแดง แต่เมื่อผ่านไป 2-3 สัปดาห์แล้ว จมูกกลับบวมขึ้นมา นั่นก็คือภาวะของการติดเชื้ออีกเช่นกัน

 

 

สาเหตุของการติดเชื้อนั้น เป็นเพราะคนไข้บางคนอาจไปรับประทานอาหาร หรือของแสลง เช่น ของหมักดอง รวมถึงการสัมผัส เช่น จับแผลบ่อย ชอบเกา หรือลูบบริเวณแผล จนทำให้เกิดการอักเสบในที่สุด อีกสาเหตุหนึ่งอาจมาจากการกระทบกระเทือนจากการจาม หรือไออย่างรุนแรง จนทำให้เกิดการกระแทก และอักเสบได้ นอกจากนี้ปัญหาจากขนาดซิลิโคนที่ใหญ่เกินไป ก็ยังเป็นสาเหตุของการอักเสบได้เช่นกัน แต่กรณีของการติดเชื้อนี้ยังสามารถรักษาได้ด้วยการให้ยาจากแพทย์ เพราะส่วนใหญ่แล้วคนไข้จะรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของอาการอักเสบ ติดเชื้อเหล่านี้และเลือกที่จะเข้าพบแพทย์ก่อนที่แผลจะลุกลามไปนั่นเอง

 

 

แม้ว่าปัญหาจากการศัลยกรรมจมูกจะยังคงมีให้เห็นอยู่ตลอด แต่สำหรับบางคนก็ยังถือเป็นความโชคดีที่เกิดความผิดปกติเหล่านี้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เพื่อความปลอดภัยแก่สุขภาพจมูก และความสวยงามที่สมบูรณ์แบบ คนไข้ที่พบว่ามีอาการผิดปกติหลังเสริมจมูกมานั้น ก็ควรที่จะเข้ารับคำปรึกษาเพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งควรเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญและเชี่ยวชาญทางด้านปัญหาในแต่ละกรณีเป็นสำคัญ

 

 

จมูกใหม่พังเพราะฟิลเลอร์

 

กรณีที่จมูกมีปัญหาเพราะการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) หรือสารเติมเต็มนั้น สามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณี ดังนี้

 

 ฉีดฟิลเลอร์ก่อนเสริมจมูก กรณีที่คนไข้ต้องการที่จะเสริมจมูก แต่เคยผ่านการฉีดฟิลเลอร์มาแล้วนั้น สามารถทำได้แต่จะต้องผ่านการขูดเอาสารเหล่านั้นออกจากจมูกเสียก่อน ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการทำที่ค่อนข้างนาน โดยขึ้นอยู่กับคุณภาพของฟิลเลอร์ และระยะเวลาที่คนไข้ทำการฉีดสารฟิลเลอร์มาด้วย หากมนำสารฟิลเลอร์ออกทั้งหมด อาจส่งผลต่อปัญหาที่จะเกิดตามมาหลังเสริมจมูกได้ เช่น จมูกเคลื่อน หรือจมูกเอียง ดังนั้น เมื่อแพทย์ทำการขูดเอาฟิลเลอร์ออกหมด จึงจะสามารถนำแท่งซิลิโคนไปวางยังตำแหน่งที่จะทำการเสริมจมูกได้ อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าการขูดฟิลเลอร์ออก จะทำให้ไม่เกิดปัญหาใดๆ หลังเสริมจมูกไปแล้ว

 

 

 ฉีดฟิลเลอร์หลังเสริมจมูก กรณีนี้มักพบว่าสารฟิลเลอร์จะเข้าไปเกาะอยู่ตามตัวแท่งซิลิโคน จนทำให้รูปลักษณ์ของจมูกนั้นเกิดความผิดปกติหรือผิดรูปไป  โดยมักจะเกิดจากการใช้บริการจากแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญมากนัก เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ในคนไข้ที่ผ่านการเสริมจมูกมานั้น จะสามารถฉีดเพิ่มเติมได้ แต่ต้องผ่านการวิเคราะห์จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนว่า คนไข้สามารถรับปริมาณของฟิลเลอร์ได้ในระดับใด ซึ่งส่วนมากแล้ว คนไข้จะสามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ในปริมาณที่ค่อนข้างน้อย เพราะมักจะเหลือเนื้อที่สำหรับการฉีดที่น้อย หากแพทย์ทำการฉีดสารในปริมาณมาก ก็อาจทำให้กลายเป็นพังผืดเกาะตามบริเวณแท่งซิลิโคนในภายหลังได้ ทั้งนี้ส่วนใหญ่แล้ว แพทย์จะทำการฉีดสารฟิลเลอร์กับคนไข้แค่เพียงบริเวณปลายจมูก หรือรอบปีกจมูกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

 

อย่างไรก็ตามเทคนิคการเสริมจมูกด้วยฉีดฟิลเลอร์นั้น เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมน้อย หากเทียบกับการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน เนื่องจากฟิลเลอร์มีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างน้อย ไม่ถาวร อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีเท่าการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน เช่น ความโด่ง หรือรูปทรงของจมูก เพราะการฉีดฟิลเลอร์นั้น แพทย์จะต้องทำการฉีดและปั้นจมูกไปพร้อมกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยเป็นที่พึงพอใจกับคนไข้เท่าไรนัก แต่หากเป็นการเสริมด้วยซิลิโคน คนไข้จะสามารถมองเห็นตัวแท่งซิลิโคน และออกแบบรูปทรงของซิลิโคนให้เป็นไปตามที่ต้องการได้ในทันที นอกจากนี้ยังพบว่าปริมาณของคนไข้ที่เลือกที่จะเสริมจมูกด้วยซิลิโคนนั้น มีมากกว่าการเสรจมูกด้วยฟิลเลอร์อีกด้วย

 

 

แก้ปัญหาจมูกพังหลังศัลยกรรม

 

แพทย์จะทำการวิเคราะห์ก่อนว่า จมูกของคนไข้มีปัญหาอะไรบ้าง เช่น จมูกเบี้ยวจริงหรือไม่ เพราะมีบางกรณีที่คนไข้อาจจะรู้สึกเป็นกังวลกับผลลัพธ์หลังศัลยกรรมมากเกินไป จนทำให้คนไข้เริ่มมีอาการจับผิดตัวเอง หรือรู้สึกไปเองว่าจมูกของตัวเองนั้นผิดปกติ เมื่อทราบถึงปัญหาที่แท้จริงแล้ว แพทย์จึงจะทำการแก้ไขตามสาเหตุของอาการนั้นๆ พร้อมทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนต่างๆ รวมถึงผลลัพธ์และผลข้างเคียงที่อาจเกิดตามมาหลังการแก้ไขจมูกครั้งใหม่นี้ ซึ่งวิธีแก้ไขจมูกส่วนใหญ่มักจะเป็นวิธีผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนแท่งซิลิโคนใหม่ และวางตำแหน่งใหม่ที่เหมาะสมกว่า กรณีที่ต้องผ่าตัดแก้ไขจมูกที่มีปัญหาหลังการเสริมจมูกนั้น ส่วนใหญ่แล้วแพทย์มักจะทำการผ่าตัดแบบเปิด (Open Rhinoplasty) ซึ่งถือเป็นการผ่าตัดใหญ่อย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดยแพทย์จะทำการวางยาชาร่วมกับยากล่องประสาท แต่หากเป็นกรณีที่มีความซับซ้อนมาก แพทย์อาจเลือกที่จะวางยาสลบแก่คนไข้เลยก็ได้ จากนั้นแพทย์จะทำการเปิดแผลบริเวณที่จะวางยาสลบแก่คนไข้เลยก็ได้ จากนั้นแพทย์จะทำการเปิดแผลบริเวณจมูกออกเป็นแนวดิ่ง จนเห็นแกนจมูกและทำการแยกเนื้อส่วนผิวหนังออกจากตัวซิลิโคน พร้อมทำการวิเคราะห์และลงมือผ่าตัดตามกรณีไป

 

 

ในส่วนของขั้นตอนนี้แพทย์อาจทำการปรับรูป ลดขนาด หรือดัดขนาดของซิลิโคนใหม่ ซึ่งในบางกรณีที่คนไข้อาจต้องเพิ่มขนาดของรูปร่างใหม่ด้วยนั้น แพทย์อาจใช้เทคนิคการเสริมด้วยกระดูกหลังหูจากคนไข้เอง แต่มักจะเป็นการใช้เพื่อเสริมปลายจมูก หรือทรงหยดน้ำ เมื่อแพทย์ทำการแก้ไขออกแบบจมูกใหม่เรียบร้อยแล้ว จึงจะทำการเย็บปิดแผล

 

 

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด

 

หลังการผ่าตัดแก้ไขจมูกแล้ว คนไข้อาจยังมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจด้วยจมูกประมาณ 24 ชั่วโมง เนื่องจากอาการบวมของแผลหลังผ่าตัด นอกจากนี้คนไข้ควรทำการประคบเย็น และนอนยกหัวสูงหลังผ่าตัด นอกจากนี้คนไข้ควรทำการประคบเย็น และนอนยกหัวสูงหลังผ่าตัดเป็นเวลา 48 ชั่วโมง โดยอาการบวมจะยังมีอยู่ต่อไปอีกประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงจะยุบลง

 

 

การทำความสะอาดใบหน้าในช่วง 3 วันแรก ควรใช้กระดาษซับมันหรือสำลีซับน้ำอุ่นเช็ดเบาๆ บริเวณทั่วใบหน้า ควรหลีกเลี่ยงการกระทบหรือการกระแทกที่อาจส่งผลต่อการเคลื่อนตัวของซิลิโคนให้มากที่สุด หากคนไข้พบว่ามีอาการน้ำเหลืองหรือพบเลือดจางๆ ซึมออกตามบริเวณแผล ควรใช้คัตตอนบัดซับเบาๆ ควรหลีกเลี่ยงการถูหรือการสัมผัสที่รุนแรงบริเวณแผล จนกว่าแผลจะแห้งสนิทและปิดสนิท ทั้งนี้แพทย์จะให้ยาระงับอาการปวดแก่คนไข้ ซึ่งคนไข้ควรทานยาตามแพทย์สั่งอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นแพทย์จะนัดเพื่อทำการตัดไหมออก

 

 

ทุกการศัลยกรรมมีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น แต่นอกจากสาเหตุที่มาจากปัจจัยภายนอกแล้ว ตัวเราเองก็เป็นปัจจัยภายในที่สำคัญที่สุด เพราะหากมองย้อนกลับไปตั้งแต่จุดเริ่มต้น ปัญหาทั้งหลายก็เกิดจากการตัดสินใจของตัวเราเองทั้งนั้น แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อทุกคนก็ย่อมมีครั้งแรก ดังนั้น การหาข้อมูลและปรึกษาผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์การศัลยกรรมมาแล้ว ก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การเริ่มต้นศัลยกรรมครั้งแรก ออกมาสวยเป๊ะแบบไร้ปัญหาในภายภาคหน้าได้นะจ้ะ

(Some images used under license from Shutterstock.com.)





ดูดไขมัน วิธีลดหน้าท้อง สลายไขมันด้วยความเย็น คอเลสเตอรอล วิธีลดไขมันหน้าท้อง ไขมัน วิธีลดพุงผู้หญิง Coolsculpting Elite CoolSculpting vs Emsculpt วิธีลดพุง สลายไขมันต้นขา ลดไขมันหน้าท้อง นวดสลายไขมัน ผลไม้ลดความอ้วน ลดน้ำหนักเร่งด่วน อาหารคลีน กินคลีนลดน้ำหนัก ลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน กินคีโต วิธีลดความอ้วนเร็วที่สุด อาหารลดความอ้วน วิธีลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน วิธีลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน ลดความอ้วนเร่งด่วน ผลไม้ลดน้ำหนัก อาหารเสริมลดความอ้วน วิธีลดความอ้วน เมนูลดความอ้วน วิธีการสลายไขมัน ลดความอ้วน สลายไขมัน ลดน้ำหนัก สูตรลดน้ำหนัก Exilis Elite Thermage Body ออฟฟิศซินโดรม Inbody Vaginal Lift Morpheus Pro Oligio Body IV Drip Emsella เลเซอร์นอนกรน Indiba ปากกาลดน้ำหนัก Emsculpt CoolSculpting บทความดูแลรูปร่างและสุขภาพ บทความกระชับสัดส่วนรูปร่าง บทความน่ารู้ romrawin รมย์รวินท์ ดูดไขมัน ดึงหน้า ตาสองชั้น ทำตาสองชั้น เสริมจมูก ยกคิ้ว เสริมหน้าอก บทความศัลยกรรม วีเนียร์ บทความทันตกรรม สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Fit Firm Emsculpt สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Elite บทความลดน้ำหนัก ดีท็อกลำไส้ EIS BIO SCAN ICELAB IV DRIP ดริปวิตามิน บทความดูแลสุขภาพ Vaginal Lift P-SHOT O-Shot บทความสุขภาพเพศ Meso Hair LLLT ปลูกผมด้วยแสงเลเซอร์ ปลูกผมผู้ชาย ปลูกผมสำหรับผู้หญิง ปลูกผมถาวร ปลูกผม FUE ปลูกผม รักษาผมร่วง บทความรักษาผมร่วง ผมบาง บทความดูแลเส้นผม เลเซอร์รักแร้ขาว เลเซอร์ขน เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนน้องสาว เลเซอร์ขนหน้า เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน เลเซอร์ขนขา เลเซอร์หนวด เลเซอร์เครา เลเซอร์รักแร้ กำจัดขนถาวร เลเซอร์ขน บทความเลเซอร์กำจัดขน เลเซอร์รอยสิว Pico Laser Pico Majesty Pico Majesty Laser Reepot Laser Reepot บทความโปรแกรมหน้าใส NCTF 135 HA Rejuran Belotero Glassy Skin Juvederm Volite Gouri Exosome Harmonyca Profhilo Skinvive Sculptra vs ฟิลเลอร์ Sculptra บทความ Sculptra Radiesse บทความ Radiesse บทความฉีดหน้าใส UltraClear AviClear Laser AviClear Accure Laser Accure บทความโปรแกรมรักษาสิว ฟิลเลอร์คอ ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์มือ ฟิลเลอร์หน้าใส ฟิลเลอร์ร่องแก้มราคา ฟิลเลอร์ยกหน้า ฟิลเลอร์หลุมสิว หลังฉีดฟิลเลอร์กี่วันหายบวม หลังฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ยกมุมปาก ฟิลเลอร์ปากกระจับ ฟิลเลอร์ปาก 1 CC ฟิลเลอร์จมูกราคา ฟิลเลอร์กรอบหน้า ฟิลเลอร์ที่ไหนดี ฟิลเลอร์น้องสาวกี่ CC ฟิลเลอร์ราคา ฟิลเลอร์จมูก ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ฟิลเลอร์แก้มส้ม ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์น้องชาย ฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ บทความฟิลเลอร์ ฉีดโบลดริ้วรอยหางตา ฉีดโบหางตา ฉีดโบลิฟกรอบหน้า ฉีดโบหน้าผาก ฉีดโบยกมุมปาก ฉีดโบปีกจมูก ฉีดโบลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ฉีดโบลดกราม ฉีดโบรักแร้ ฉีดโบลดริ้วรอย ดื้อโบลดริ้วรอย บทความโบลดริ้วรอย Volnewmer Linear Z ยกมุมปาก Morpheus Morpheus8 ลดร่องแก้ม Ultraformer III Ultraformer MPT Emface Hifu ยกกระชับหน้า Ultherapy Prime อัลเทอร่า Ulthera Thermage FLX BLUE Tip Thermage FLX Oligio บทความยกกระชับใบหน้า ร้อยไหมหน้าเรียว ไหมหน้าเรียว ร้อยไหมเหนียง ไหมเหนียง ร้อยไหมยกหางตา ไหมยกหางตา Foxy Eyes ร้อยไหมปีกจมูก ไหมปีกจมูก ร้อยไหมกรอบหน้า ไหมกรอบหน้า ร้อยไหมร่องแก้ม ไหมร่องแก้ม ร้อยไหมก้างปลา ไหมก้างปลา ร้อยไหมคอลลาเจน ไหมคอลลาเจน ร้อยไหมจมูก ร้อยไหม บทความร้อยไหม Apex