© 2017 Copyright - Haijai.com
ออกกำลังแบบใด ยืดอายุไขได้ดีกว่า
รายงานการวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้ระบุว่า การออกกำลังกายแบบแรงๆ ที่ทำให้เหงื่อออก หน้าแดง หายใจแรง อาจทำให้อายุยืนกว่าการออกกำลังกายแบบพอประมาณ
จากรายงานของนักวิจัยชาวออสเตรเลีย ซึ่งทำวิจัยในคนอายุมากกว่า 45 ปี จำนวน 20,000 คน และได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารการแพทย์ American Medical Association Internal Medicine พบว่า ผู้ที่ออกกำลังกายแบบวิ่งเหยาะ แอโรบิก เล่นเทนนิสแบบแข่งขัน (เล่นเดี่ยว) หรือออกแรงแบบหนักๆ เป็นจำนวน 30% ของปริมาณการออกกำลังกายต่อสัปดาห์มีอัตราตาย 9-13% ซึ่งน้อยกว่าคนที่ออกกำลังกายแค่พอประมาณ เช่น ว่ายน้ำ เล่นเทนนิส เพื่อการเข้าสังคม หรือทำงานบ้าน
ผู้นำการวิจัย นาย Klaus Gebel จากศูนย์การป้องกันโรคเรื้อรังแห่งมหาวิทยาลัยเจมส์คุกกล่าวว่า ผลดีของการออกกำลังกายแบบแรงๆ เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวั้นกับระยะเวลาทั้งหมดในการออกกำลังกาย ผลการวิจัยนี้บ่งชี้ว่า ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน มีโรคหัวใจ เบาหวาน แต่ถ้าสามารถจัดให้มีการออกกำลังกายแบบแรงๆ ก็จะมีผลดีต่อความยืนยาวของอายุขัย
ปัจจุบันนี้องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ผู้ใหญ่ออกกำลังกายแบบพอประมาณแค่ 150 นาที หรือออกกำลังกายแบบแรงๆ 75 นาทีต่อสัปดาห์ แต่จากการศึกษานี้พบว่าคนเราควรเลือกออกกำลักงายแบบแรงๆ ถ้าเป็นไปได้ เนื่องจากแม้การออกกำลังกายแบบนี้จะใช้เวลาไม่ยาว แต่ก็สามารถลดการตายก่อนเวลาอันควรได้ สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะผู้สูงวัยและผู้ที่ไม่เคยออกกำลังกายแบบแรงๆ มาก่อน จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ประจำตัวเสียก่อน
นอกจากนี้ยังมีอีกรายงานหนึ่ง ตีพิมพ์ในวารสาร Circulation ซึ่งเป็นวารสารของสมาคมหัวใจอเมริกัน ระบุว่าการที่หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันขณะออกกำลังกายแบบแรงๆ ในคนวัยกลางคนที่มีความฟิตนั้นเกิดขึ้นได้น้อย โดยนักวิจัยได้ศึกษาทบทวนกรณีหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันจำนวน 1,200 รายทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย อายุระหว่าง 35-65 ปี พบว่ามีเพียง 5% ของกลุ่มเท่านั้นที่เกิดขึ้นในขณะเล่นบาสเก็ตบอล วิ่ง หรือขี่จักรยาน และ 2 ใน 3 ของกลุ่มหัวใจหยุดเต้นนั้น มีประวัติว่ามีอาการของโรคหัวใจและหลอดเลือดมาก่อนที่จะมีการหยุดเต้นเฉียบพลันของหัวใจ ดังนั้น ผู้ที่มีอาการจึงควรพึงระวัง
Sumeet Chugh รองผู้อำนวยการสถานบันหัวใจ เจโนมิกแห่งซีดารส์ไซไน ฮาร์ทอินสติติว ที่ลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า “การศึกษาของเราให้น้ำหนักว่า การออกกำลังกายในวัยกลางคนมีผลดีมาก มีความเสี่ยงน้อย และเน้นการให้การศึกษาแก่ผู้คน เพื่อทำให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะในคนสูงวัย พวกเบบี้บูม ที่นับวันจะมีการออกกำลังกายกันมากขึ้นเพื่อยืดชีวิต”
(Some images used under license from Shutterstock.com.)