Haijai.com


น้ำ ธาราบำบัด Hydrotherapy


 
เปิดอ่าน 4262

ธาราบำบัด Hydrotherapy

 

 

น้ำ มีความสำคัญต่อร่างกายและชีวิตของมนุษย์มากๆ คะ เพราะน้ำสามารถช่วยรักษาสมดุลของอวัยวะภายในร่างกาย ให้มีการทำงานที่สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน น้ำช่วยทำให้ระบบเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดี น้ำช่วยให้ร่างกายเราสดชื่นขึ้นหลังจากที่ดื่มน้ำ หรืออาบน้ำ ฯลฯ น้ำจึงเป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์จนไม่สามารถแยกออกไปจากชีวิตได้เลย

 

 

และในปัจจุบันนี้ น้ำ ยังได้เข้ามามีส่วนช่วยในการบำบัด หรือรักษาโรคต่างๆ ได้ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ประโยชน์ที่ได้จากการใช้น้ำเพื่อการแก้ไขปัญหาสุขภาพ เช่น ปัญหาเรื่องปวดข้อ ปวดหลัง โรคอ้วน ผู้ป่วยที่ผ่าตัด อย่างการผ่าตัดข้อ ผ่าตัดหลัง และผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์ รวมไปถึงบุคคลธรรมดาทั่วไป เด็กทารก คุณแม่ตั้งครรภ์ ก็สามารถใช้น้ำเพื่อการออกกำลังกายได้เช่นเดียวกัน ยิ่งโดยเฉพะหญิงตั้งครรภ์นั้น สามารถใช้น้ำหรือที่เรียกกันว่า ธาราบำบัดมาเป็นตัวช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง มีความยืดหยุ่นได้ดีขึ้น ธาราบำบัดเป็นการรักษาด้วยน้ำ ซึ่งธาราบำบัดมาจาก ธารา ที่แปลว่า น้ำ และ บำบัด ก็คือการรักษา พอมารวมกันก็จะเป็นการใช้น้ำเพื่อเป็นตัวช่วยในส่งเสริมรักษาสุขภาพ

 

 

พล.ร.ท.นพ.สุริยา ณ นคร เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ใต้น้ำ กล่าวว่า “ธาราบำบัด หรือจะเรียกว่าวารีบำบัดก็ได้ครับ ซึ่งธาราบำบัดก็คือการเอาน้ำมาใช้ประโยชน์ในด้านของสุขภาพ ที่สามารถใช้ได้กับบุคคลหลายๆ กลุ่ม เช่นใช้กับเด็กทารก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ หรือคนปกติทั่วไป และรวมไปถึงผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ เช่น โรคอ้วน โรคปวดข้อ แล้วก็โรคทางระบบประสาทครับ ประโยชน์ที่จะได้จากการทำธาราบำบัด อย่างที่บอกไปแล้วว่าเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ดังนั้นมันจึงมีผลดีต่อระบบหัวใจ และปอด ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง เพราะน้ำมันจะมีแรงต้านทาน ทำให้เกิดการยืดหยุ่น เคลื่อนไหวได้ดีและคล่องแคล่วขึ้นทั้งนี้จะให้เป็นการออกกำลังเพื่อให้เกิดสมาธิ เพื่อให้ความสดชื่นก็ได้เช่นกันครับ คือต้องบอกว่าการทำธาราบำบัดมันสามารถช่วยได้ทุกอย่างเพื่อสุขภาพร่างกาย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะให้มันมีประโยชน์ทางด้านไหนเท่านั้นเองครับ

 

 

ส่วนในหญิงตั้งครรภ์ ถ้าจะใช้ธาราบำบัดก็สามารถทำได้ เพราะไม่ได้มีโทษอะไร แต่ก็ต้องทำความเข้าใจกันก่อนครับว่า การทำธาราบำบัดในหญิงตั้งครรภ์นั้น ไม่ได้ทำเพื่อการรักษาโรคนะครับ แต่ทำเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ เพราะคนท้องไม่ใช่คนป่วย สำหรับการส่งเสริมสุขภาพนี้ จริงๆ แล้วการออกกำลังกายของคนท้อง สามารถออกได้เลยต่อเนื่องมาตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ได้ตั้งครรภ์ จนเรื่อยมาจนกระทั่งตั้งครรภ์ แต่ในทงปฏิบัติสำหรับคนท้อง มักที่จะมีอาการแพ้ท้องในช่วง 3 เดือนแรก หรือมีการแท้งเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นในทางปฏิบัติมักจะให้หญิงตั้งครรภ์ออกกำลังกายได้หลังจากเดือนที่ 3 ไปแล้ว เพราะว่าปัญหาของการตั้งครรภ์มักจะเกิดขึ้นหลังจากเดือนที่ 3 ครับ ที่เป็นจำเป็นต้องออกกำลังกายเบาๆ เสริมไปด้วยเพื่อลดอาการ เช่น อาการปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ เป็นตะคริว นอนไม่หลับ เป็นต้น ครับ ”

 

 

ธาราบำบัด กับการฟื้นฟูสุขภาพร่างกาย

 

 ผู้ป่วยที่มีปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรง เช่น โรคอัมพฤกษ์ หากได้ออกกำลังกายในน้ำที่ฝึกการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกายที่อ่อนแรงในน้ำ ผู้ป่วยก็จะสามารถทรงตัวให้เดินได้ง่ายกว่า เพราะมีแรงลอยตัวของน้ำช่วยพยุงตัวไว้ ทำให้ร่างกายทุกส่วนได้มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง หากผู้ป่วยได้ทำบ่อยๆ ก็จะสามารถทรงตัวอยู่ได้ขณะอยู่บนบก

 

 

 ผู้ป่วยกระดูกหัก หรือหลังจากการผ่าตัด ผู้ป่วยมักที่จะเดินลงน้ำหนักเท้าได้ไม่เต็มที่มากนัก แต่หากได้มีการออกกำลังกายในน้ำ อย่างการทำธาราบำบัด ก็จะช่วยให้สามารถเดินพยุงตัวในน้ำได้ดีขึ้น อุณหภูมิของน้ำอุ่นจะทำให้เนื้อเยื่อยืดหยุ่นดีขึ้น ทำให้ง่ายกับการต้องยืด หรือเหยียดข้อเท้า และที่สำคัญคือผู้ป่วยจะฟื้นตัวและเดินได้เร็วขึ้น

 

 

 ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพที่เป็นโรคอ้วน การออกกำลังกายในน้ำจะเหมาะมากสำหรับคนอ้วน เพราะสะดวกต่อการเคลื่อนไหวของร่างกาย ที่ทำได้ดีกว่าการออกกำลังบนบก ซึ่งจะไม่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว ที่อาจทำให้ข้อต่อ ข้อเอ็นได้รับบาดเจ็บ

 

 

การออกกำลังกายในน้ำดีอย่างไรกับสุขภาพ

 

 การออกกำลังกายในน้ำ จะช่วยลดแรงกระแทกของการออกกำลังกายได้ เพราะบางครั้งเราจะเห็นว่ากล้ามเนื้อ หรือข้อต่อ มักที่จะบวม ปวด อักเสบได้ จากการออกกำลังกายบนบก

 

 

 แรงต้านของน้ำจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น และก็ช่วยให้กล้ามเนื้อรู้สึกผ่อนคลาย

 

 

 การออกกำลังกายที่มีอุณหภูมิของน้ำอุ่น จะช่วยลดอาการปวด อาการติดข้อติดต่างๆ ได้ รวมทั้งยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของระบบโลหิตในร่างกายได้ดีขึ้นด้วย

 

 

ประโยชน์ของธาราบำบัด สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

 

 ช่วยให้จิตใจสดชื่น ไม่วิตกกังวลในเรื่องใดๆ

 

 

 ลดอาการไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว เช่น เหนื่อยง่าย แน่นอึดอัด นอนหลับไม่ค่อยสนิท เท้าบวม ปวดหลัง และเป็นตะคริว ฯลฯ

 

 

 ช่วยให้การคลอดราบลื่น มีความเจ็บปวดน้อยลง

 

 

 ป้องกันปัญหาเรื่องผิวหนังแตกลาย กล้ามเนื้อหน่อยยาน หลังคลอดลูกแล้วร่างกายจะกลับคืนเป็นปกติได้อย่างสมบูรณ์เร็วขึ้น

 

 

ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายจะมีประโยชน์อย่างมากกับสุขภาพร่างกาย แต่ในคุณแม่ตั้งครรภ์นั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงทางสรีระอยู่ตลอดการตั้งครรภ์ทั้ง 9 เดือน แพทย์จึงแนะนำให้ออกกำลังกายอย่างระมัดระวัง เพราะหากทำไม่ถูกต้อง ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายกับตัวคุณแม่ตั้งครรภ์ รวมถึงทางรกในครรภ์ด้วย ดังนั้นการออกกำลังสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ก็ควรที่จะเริ่มออกกำลังกายเสริมเบาๆ ได้ตอนอายุครรภ์ได้ 3 เดือนขึ้นไปแล้ว และไม่มีปัญหาสุขภาพประจำตัวใดๆ หรือว่ามีปัญหาแทรกซ้อนในระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นข้อห้ามในการออกกำลังกาย เช่นคุณแม่ตั้งครรภ์ที่เป็นโรคหัวใจ มีเลือดออกทางช่องคลอด มีภาวะรกเกาะต่ำ เป็นต้น ฉะนั้นออกกำลังกายในคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ ก็ควรที่จะปรึกษาแพทย์ที่ดูแลครรภ์ให้เสียก่อน เพราะแพทย์จะเป็นผู้ที่ให้คำแนะนำว่าควรที่จะออกกำลังกายได้มากน้อยแค่ไหน และต้องระมัดระวังในเรื่องใดบ้าง เพื่อให้การออกกำลังกายไม่กระทบกระเทือนมาถึงทารกในครรภ์คะ

 

 

พล.ร.ท.นพ. สุริยา ณ นคร

เจ้าแพทย์ทหารเรือ

(Some images used under license from Shutterstock.com.)