Haijai.com


กรดไขมันทรานส์ ทำให้ผิวหนังไวต่อยูวี


 
เปิดอ่าน 1794

กรดไขมันทรานส์ ทำให้ผิวหนังไวต่อยูวี

 

 

วายร้ายในอาหารที่รู้จักกันดีก็คือ “กรดไขมันทรานส์” (Trans fat) ซึ่งมักพบในเนยเทียม ขนมกรุบกรอบ หรืออาหารทอด ความร้ายกาจของกรดไขมันทรานส์ไม่ได้มีเพียงการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ แต่ยังอาจส่งผลให้ผิวหนังถูกทำลาย โดยรังสียูวีจากแสงแดดมากขึ้นดังงานวิจัยในหนูทดลองที่ตีพิมพ์ใน Food and Chemical Toxicology เมื่อปีที่แล้ว

 

 

คณะนักวิจัยจากบราซิลแบ่งหนูทดลองออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 14 ตัว กลุ่มที่หนึ่งเสริมน้ำมันถั่วเหลือง ซึ่งเป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมกา-6 กลุ่มที่สอเสริมน้ำมันปลา ซึ่งเป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมกา-3 และกลุ่มที่สามได้รับน้ำมันพืชที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจน ซึ่งน้ำมันพืชดังกล่าว เป็นแหล่งของกรดไขมันทรานส์ การเสริมไขมันแต่ละประเภททำในปริมาณ 3 กรัมต่อน้ำหนักตัวหนู 1 กิโลกรัม และทำในช่วงที่หนูตั้งท้องและให้นมลูก (รวมเป็นเวลา 43 วัน) จากนั้นลูกของหนูกลุ่มดังกล่าว (รุ่นที่ 1) ได้รับการเสริมไขมันอย่างเดียวกับแม่ของมัน จนกระทั่งมันมีลูก (รุ่นที่ 2) ซึ่งหลังจากหย่านม ก็ได้รับการเสริมไขมันอย่างเดียวกับแม่ของมัน นักวิจัยนำหนูรุ่นที่ 2 จำนวนครึ่งหนึ่งของแต่ละกลุ่มไขมัน (7 ตัว) ไปรับการฉายแสงยูวีสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 12 สัปดาห์ หลังจากจบสัปดาห์ที่ 12 สภาพผิวหนังของหนูทดลองแต่ละกลุ่มจึงถูกประเมิน

 

 

ผลการศึกษาพบว่าผิวหนังของหนูทดลองที่ได้รับไขมันทรานส์ มีริ้วรอยมากกว่าหนูทดลองที่ได้รับไขมั้นทรานส์ มีริ้วรอยมากกว่าหนูทดลองกลุ่มอื่นๆ กรดไขมันทรานส์ทำให้อนุมูลอิสระในผิวหนังมีมากขึ้น และลดความแข็งแรงของไมโตคอนเดรีย ซึ่งเป็นองค์ประกอบของเซลล์ที่มีหน้าที่สำคัญในการสร้างพลังงาน ในขณะที่หนูที่ได้รับน้ำมันปลาจะมีระดับเอนไซม์คาตาเลส ซึ่งเป็นส่วนประกอบของระบบต้านอนุมูลอิสระในผิวหนังสูงขึ้น

 

 

การศึกษานี้จึงเป็นหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งที่ยืนยันถึงความน่ากลัวของกรดไขมันทรานส์ ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจเท่านั้น หากยังทำให้ผิวหนังถูกทำลายด้วยรังสียูวีได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญผลของการรับประทานกรดไขมันทรานส์ ยังสืบทอดไปยังลูกได้อีก (ลูกได้รับกรดไขมันทรานส์จากแม่ผ่านการดื่มนมแม่ แล้วกรดไขมันทรานส์ในอาหารก็ถูกรวมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเซลล์ผิวหนัง) สุขภาพผิวที่ดีจึงไม่ได้ขึ้นกับการประทินผิวจากภายนอกเพียงอย่างเดียว หากแต่ความงามจากภายในด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่ปลอดภัย ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักไว้ เพราะผลเสียไม่ได้ตกอยู่ที่เราแต่เพียงผู้เดียว

(Some images used under license from Shutterstock.com.)