© 2017 Copyright - Haijai.com
ออกแบบยกเครื่องใหม่ให้น้องสาว
ผู้หญิงเป็นสิ่งสวยงามแต่ใครจะสวนที่สุด “ศัลยกรรม” ช่วยตัดสินได้ ด้วยความที่ผู้หญิงเป็นเพศที่มีความรักสวยรักงามพลุ่งพล่านอย่างสูง จึงพร้อมที่จะยอมเสี่ยงกับทุกสิ่งอย่าง แม้กระทั่งต้องแลกกับความเจ็บเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม เพื่อให้ได้มาซึ่งคำชื่นชมทั้งทางสายตาและวาจาว่าสวย และนอกจากการออกแบบใบหน้าและรูปร่างภายนอกให้ดูดีแล้ว การรู้จักตกแต่งสิ่งที่อยู่ภายในอย่าง “ช่องคลอด” ในผู้หญิงก็เป็นอีกความสวยงามที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้หญิงได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ความนิยมของการออกแบบช่องคลอด
การออกแบบช่องคลอด เป็นคำที่ใช้อธิบายถึงการศัลยกรรมช่องคลอดของผู้หญิง ซึ่งมีการระบุถึงขั้นตอนการผ่าตัดและการออกแบบช่องคลอดอย่างละเอียด โดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การศัลยกรรมช่องคลอดหรือการออกแบบช่องคลอด เป็นที่รู้จักกันมากขึ้นใน UK จากการสำรวจพบว่าผู้หญิงอายุตั้งแต่ 18-24 ปี มีความต้องการที่จะแสวงหาเทคนิคต่างๆ เพื่อช่วยปรับขนาดและตกแต่งช่องคลอดของตัวเองให้สวยงาม เพื่อสร้างความประทับใจกับคู่รักมากขึ้น โดยมีตัวเลขของผู้ที่เข้ารับการตกแต่งช่องคลอดมากถึง 5 เท่า ตั้งแต่เริ่มมีเทคนิคนี้กว่า 10 ปี ความนิยมที่เพิ่มขึ้นนี้มีอิทธิพลมาจากสื่อลามก และนิตยสารที่รวมภาพหญิงสาวในชุดวับๆ แวมๆ หรือภาพโป๊ต่างๆ โดยรายงานจากราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ (RCOG) ได้มีการระบุว่าภาพโป๊ที่มีการโชว์ช่องคลอดผู้หญิง หรือองคชาติของผู้ชายก็ตามแต่ เป็นปัจจัยที่ชัดเจนที่สุดที่ทำให้ผู้หญิงรู้สึกว่าช่องคลอดของตัวเองมีความผิดปกติ หรือไม่สวยงามอย่างที่ควรจะเป็น ส่วนมากแล้วผู้หญิงจะใส่ใจกับขนาดความยาวของช่องคลอดด้านใน และต้องการที่จะปรับช่องคลอด้านในให้มีขนาดที่เล็กลง เพื่อที่จะไม่ทำให้ช่องคลอดภายนอกดูใหญ่นั่นเอง ซึ่งปัจจัยที่นอกเหนือจากสิ่งกระตุ้นภายนอกแล้ว ก็ยังมีผลมาจากภายในร่างกายของเราเองอีกด้วย
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของภาวะช่องคลอดไม่กระชับ
เกิดจากผนังของช่องคลอดเสื่อมสภาพ โดยมีปัจจัยต่างๆ ดังนี้
1.อายุ โดยเฉพาะเมื่อถึงวัยหมดระดู ทำให้ขาดฮอร์โมนเอสโรเจน (ฮอร์โมนเพศหญิง)
2.พันธุกรรม
3.ภาวะการตั้งครรภ์และการคลอดทางช่องคลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีคลอดยากหรือใช้เครื่องมือช่วยคลอด
ใครบ้างที่เหมาะกับการปรับแต่งช่องคลอด
• ผู้ที่ผ่านการคลอดบุตรหรือผู้หญิงที่มีอายุที่มากขึ้น รวมไปถึงผู้หญิงที่มีปัญหาจากการลดน้ำหนักและผิวหนังบริเวณนั้นมีความหย่อนคล้อย
• ผู้ที่รู้สึกมีความสุขน้อยลงเมื่อมีเพศสัมพันธ์
• ผู้ที่ขาดความมั่นใจขณะมีเพศสัมพันธ์
• ผู้ที่มีเสียงปล่อยลมขณะมีเพศสัมพันธ์
• ผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการผ่าตัดช่องคลอดมาแล้ว
วิธีตกแต่งช่องคลอดให้สวยงาม
วิธีผ่าตัด เป็นการผ่าตัดที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ การรีแพร์ (Repair) หรือการทำสาว จุดประสงค์คือการตัดผนังช่องคลอดส่วนที่หย่อนออก และเย็บให้ผนังช่องคลอดแข็งแรงและกระชับมากขึ้น คนไข้ต้องใช้เวลาพักฟื้นตัวหลังการผ่าตัดประมาณ 1-2 สัปดาห์
การเลเซอร์ ถือเป็นนวัตกรรมที่เพิ่งนำมารักษาภาวะช่องคลอดไม่กระชับ ข้อดีของวิธีการรักษานี้คือ คนไข้ไม่เจ็บ ไม่มีแผลและไม่ต้องพักฟื้นหลังการรักษาที่สำคัญ คือ สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ภายในหนึ่งสัปดาห์หลังเลเซอร์ หลักการการทำงานของเลเซอร์ คือ การเปลี่ยนพลังงานแสงเป็นพลังงานความร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 60-70 องศาเซลเซียส ความร้อนที่เกิดขึ้นจะทำให้คอลลาเจนที่ผนังช่องคลอด ส่งผลให้ผนังช่องคลอดหดตัวและกลับมายกกระชับขึ้น ข้อดีของวิธีนี้คือ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตรงบริเวณผนังช่องคลอด ทำให้ช่องคลอดการกระชับและมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น หลังจากการเลเซอร์แล้วคนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ควรงดมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
การฉีดฟิลเลอร์และการโบท็อกซ์ วิธีนี้เป็นการเน้นเพื่อช่วยเพิ่มความเต่งตึงและโค้งนุนของอวัยวะเพศ และช่องคลอดซะส่วนใหญ่ โดยมีระยะเวลาแบบไม่ถาวร ทั้งนี้เป็นวิธีที่ยังไม่พบมากในบ้านเรา เพราะเป็นจุดที่ทำแล้วอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย
ผลจากทำการปรับแต่งช่องคลอด
ความรู้สึกแรกที่คนไข้จะได้รับหลังการปรับแต่งช่องคลอด คือ คนไข้จะรู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้น ช่วยแก้ไขปัญหาการหดรัดตัวของช่องคลอดได้ดี และยังช่วยป้องกันการโรคภายในของเพศหญิงได้อีกด้วย
ภาวะแทรกซ้อน
โดยปกติจะไม่ค่อยพบภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงหลังผ่าตัดช่องคลอด แต่อาจจะพบอาการติดเชื้อในบางคน การเกิดอาการชาหรือการรับรู้ความรู้สึกที่เปลี่ยนไปชั่วคราว และอาจมีเลือดออกหลังจากการผ่าตัดอยู่เป็นระยะ รวมถึงการเกิดแผลเป็นตรงบริเวณที่ทำการผ่าตัดด้วย
วิธีบริหารน้องสาว
วิธีบริหารน้องสาวหรือช่องคลอด เพื่อสร้างความกระชับนั้น สามารถทำได้ทันทีโดยไม่ต้องรอมีเพศสัมพันธ์ เพราะถึงแม้ผู้ที่ไม่เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาก่อน ก็สามารถเกิดการหย่อนคล้อยหรือหย่อนสมรรถภาพของช่องคลอดได้ โดยการบริหารช่องคลอดมีขั้นตอนดังนี้
• Kegel Exercises หรือ การขมิบนั่นเอง ทำการขมิบค้างไว้ 5 วินาที และปล่อยผ่อนคลาย ทำซ้ำ 5 ครั้ง นับเป็น 1 เซ็ท ควรทำอย่างน้อย 3 เซ็ทต่อวัน
• African Fly เริ่มจากการยืนแยกขาให้มีความกว้าเท่าสะโพก งอเข่าทั้งสองข้างเล็กน้อยให้น้ำหนักลงที่ส้นเท้า แล้วเคลื่อนตัวไปข้างหน้า พร้อมกระดกก้นขึ้นเล็กน้อย ยืดอกให้ตรงและงอศอกให้ตั้งฉากขึ้นทั้งสองข้าง จากนั้นจึงค่อยๆ บิดตัวไปทางขวาและซ้ายสลับกันไป ทำช้าๆ ประมาณ 1 นาที
• Goddess เริ่มจากนอนหงายลงบนพื้น ชันเข่าขึ้นและวางแขนลงข้างลำตัว ค่อยๆ อ้าเข่าทั้งสองให้ออกจากกัน โดยฝ่าเท้าทั้งสอข้างต้องประกบกันอยู่ และต้องพยายามให้เข่าแต่ละข้างแนบลงบนพื้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ บริหารท่านี้ประมาณ 8 รอบต่อวัน
สิ่งที่ไม่ควรทำระหว่างทำการบริหาร
• ไม่ควรเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอก และกลั้นหายใจขณะทำการบริหารเพราะอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้
• ไม่ควรเกร็งกล้ามเนื้อท้องและกล้ามเนื้อหลังขณะทำการบริหาร อาจทำให้เกิดการปวดท้องหรือหลังได้
(Some images used under license from Shutterstock.com.)