Haijai.com


จะดูแลอย่างไรเมื่อลูกมีอาการไอ


 
เปิดอ่าน 2680

เรื่อง ไอ ไอ ไม่ใช่เรื่องสนุก

 

 

อากาศเปลี่ยนแปลง แปรเปลี่ยนแบบนี้อาจทำให้เด็กๆ ป่วยได้ง่าย ยิ่งช่วงนี้อากาศเย็น หากเด็กๆ ไม่ได้รับการดูแลให้ร่างกายอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา ก็อาจนำมาซึ่งการเจ็บป่วยด้วยโรคปอดบวม หรือโรคไข้หวัดได้ ยิ่งโดยเฉพาะไข้หวัดนั้นเป็นโรคที่เด็กๆ จะป่วยกันเยอะมากในช่วงอากาศแบบนี้ แต่ทราบหรือไม่ว่าขณะที่เด็กเป็นไข้อยู่นั้น อาการที่อาจทำให้เด็กๆ รู้สึกรำคาญได้ก็คือ อาการไอ ที่มาพร้อมกับไข้หวัด อาการไอไม่ใช่อาการที่จะปล่อยไปได้โดยที่ไม่ทำการรักษา เพราะอาการไออาจนำมาซึ่งปัญหาของโรคอีกมากมาย หากเด็กที่มีอาการไอไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องค่ะ

 

 

ในเด็กที่มีอาการไอติดต่อกันมานานถึง 4 สัปดาห์ จัดได้ว่ามีอาการไอเรื้อรัง ซึ่งมีความจำเป็นที่ต้องตรวจหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร อาการไอเรื้อรังในเด็กพบได้ประมาณร้อยละ 8 เด็กผู้ชายจะเป็นมากกว่าเด็กผู้หญิง ในขณะที่อาการไอที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ แต่อาการไอชนิดเรื้อรังในเด็กเกิดจากสาเหตุอื่นๆ มากกว่า ซึ่งร้อยละ 80 ของผู้ป่วยเด็กทั้งหมดที่มีอาการไอเรื้อรังสามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดได้

 

 

อาการไอเรื้อรังที่พบได้ในเด็ก

 

 ภาวะกรดไหลย้อนจากกระเพาะอาหารเข้าสู่หลอดอาหาร

 

 

 การติดเชื้อ

 

 

 ความพิการแต่กำเนิด

 

 

 โรคหัวใจแต่กำเนิด

 

 

 ได้รับควันบุหรี่ในปริมาณมาก

 

 

 มลพิษจากสิ่งแวดล้อม

 

 

 โรคหอบหืด

 

 

 ภาวะภูมิไวเกินของทางเดินหายใจ

 

 

สาเหตุอาการไอที่เกิดจากโรคติดเชื้อ

 

อาการไอเรื้อรังในเด็กที่เกิดจากโรคติดเชื้อพบได้บ่อยพอสมควร เชื้อไวรัสที่เป็นต้นเหตุ ได้แก่ Respiratory Syncytial Virus และพาราอินฟลูเอนซาไวรัส ส่วนเชื้ออื่นๆ ที่พบเป็นสาเหตุ เช่น เชื้อมัยโคพลาสมา เชื้อคลามัยเดีย รวมทั้งเชื้อโรคไอกรนด้วย แต่ในปัจจุบันสาเหตุที่มาจากเชื้อโรคไอกรนนั้นพบได้น้อยลง เพราะเนื่องจากได้รับวัคซีนที่ทั่วถึงและเพียงพอ

 

 

สาเหตุอาการไอที่เกิดจากโรคหอบหืด และภูมิแพ้

 

อาการไอเรื้อรังในเด็กอาจไม่ได้เกิดจากโรคติดเชื้อ แต่อาจเกิดจากอาการไอจากหลอดลมมีภูมิไว หรือเด็กเป็นโรคหอบหืด ส่วนใหญ่เด็กจะไม่มีไข้ พอไอก็หายยาก จะไอมากในเวลานอนตอนกลางคืน ขณะเล่นก็จะเหนื่อยง่าย เล่นมากๆ แล้วไอ หรือมีอาการหอบเกิดขึ้นร่วมด้วย ที่สำคัญที่สุดในครอบครัวของเด็กอาจมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้วด้วย

 

 

จะรู้ได้ไงว่าลูกไอแบบไหน

 

 ถ้าลูกไอแล้วมีเสมหะด้วย บ่งชี้ว่าเกิดจากหลอดลมอักเสบ หรือมีการติดเชื้อ

 

 

 ถ้าลูกไอก้องๆ อาจบ่งถึงการอักเสบที่ท่อลมขนาดใหญ่ เช่น ที่กล่องเสียง หรือไอจนติดเป็นนิสัย

 

 

 ถ้าลูกไอต่อเนื่องกันเป็นชุดๆ ช่วงๆ อาจทำให้นึกถึงการสำลักสิ่งแปลกปลอม การติดเชื้อคลามัยเดีย เชื้อไอกรน

 

 

 ลูกไอตอนกลางคืนมาก ไอเป็นน้ำมูกแล้วน้ำมูกไหลลงคอ อาจเกิดจากโพรงจมูกอักเสบ หรือที่รู้กันว่าเป็นไซนัสอักเสบ หรืออาจเป็นการไอที่เกิดจากโรคหอบหืด

 

 

 ถ้าลูกไอแต่ช่วงเช้า แล้วมีเสมหะออกมากมีลักษณะเป็นคำๆ อาจเกิดจากโรคหลอดลมโป่งพอง

 

 

 ถ้าลูกเล่นมาก ออกแรงเล่นมากๆ จนทำให้ไอออกมา อาจเกิดจากโรคหลอดลมที่ภูมิไวเกิน

 

 

จะรักษาได้อย่างไรเมื่อลูกมีอาการไอ

 

โดยส่วนมากแล้วแพทย์จะทำการรักษาตามสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการไอ และร้อยละ 80 ของผู้ป่วยเด็กที่มีอาการไอเรื้อรังนั้น แพทย์จะสามารถค้นหาสาเหตุได้ และผลการรักษาก็ขึ้นอยู่กับโรคที่ผู้ป่วยเป็น รวมทั้งความรุนแรงของโรคที่เป็นอยู่ในขณะนั้น

 

 

น้ำผึ้ง บรรเทาอาการไอ ได้จริงหรือไม่

 

สรรพคุณของน้ำผึ้งนั้นมีอยู่มากมาย ตั้งแต่เด็กๆ หลายคนคงเคยได้รับประทานกันมาบ้างแล้ว ในรูปของยาแก้ไอ ในน้ำผึ้งนั้นจะมีคุณสมบัติทางยา คือสามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ ได้ เพราะน้ำผึ้งมีความเข้มข้นของน้ำตาลสูง ซึ่งความเข้มข้นนี้เองจะช่วยกำจัดปริมาณน้ำที่แบคทีเรียใช้ในการเจริญเติบโต รวมถึงน้ำผึ้งมีความเป็นกรดสูง และมีปริมาณโปรตีนต่ำ ซึ่งทำให้แบคทีเรียไม่ได้รับไนโตรเจนที่จำเป็น วิธีการนำน้ำผึ้งมาทำเป็นยาทานแก้ไอ ให้ใช้น้ำผึ้ง 500 กรัม ขิงสด 1.2 กิโลกรัม (1 ชั่ง) วิธีการทานให้คั้นขิงสดเอาแต่น้ำ แล้วนำมาผสมกับน้ำผึ้งต้มจนแห้งกินครั้งละขนาดเท่าลูกอมจะช่วยบรรเทาอาการไอเรื้อรังได้ หรืออีกตำรับยาคือ การนำเอาน้ำผึ้งมาผสมกับน้ำมะนาวและเกลือเล็กน้อย จิบกินเวลาที่มีอาการไอระคายคอ

(Some images used under license from Shutterstock.com.)