© 2017 Copyright - Haijai.com
ประจำเดือนไม่มา 3 เดือนตั้งครรภ์หรือเปล่า
Q : ตอนนี้ประจำเดือนไม่มา 3 เดือนแล้ว ไปพบแพทย์เพื่อตรวจว่าตั้งครรภ์หรือเปล่า คุณหมอก็ให้ตรวจปัสสาวะ และตรวจภายในด้วย ก็พบว่าไม่ได้ตั้งท้อง คุณหมอจึงให้ยาฮอร์โมนมาทาน และถ้าทานยาหมดประจำเดือนยังไม่มาอีกก็ให้ไปตรวจใหม่ อย่างนี้ดิฉันจะเข้าข่ายตั้งท้องหรือเปล่า เพราะคนรอบข้างมักที่จะทักว่าอ้วนขึ้น ท้องหรือเปล่า จึงทำให้ดิฉันไม่แน่ใจ และอาการที่เป็นอยู่นี้จะเป็นอันตรายอะไรหรือเปล่าคะ
A : หมอคิดว่าในรายของคุณคงไม่ได้ตั้งครรภ์ เนื่องจากถ้าตั้งครรภ์การตรวจปัสสาวะ หลังประจำเดือนไม่มาเพียง 4 สัปดาห์ก็สามารถตรวจพบได้แล้ว และถ้าไม่แน่ใจ การตรวจเลือดเพื่อดูฮอร์โมนของการตั้งครรภ์จะทราบได้เร็วขึ้นอีก แต่การตรวจเลือดและปัสสาวะบอกได้เพียงว่าตั้งครรภ์ แต่จะเป็นครรภ์ที่ผิดปกติหรือไม่ เช่น ครรภ์นอกมดลูกหรือครรภ์ไข่ปลาอุกหรือไม่ ต้องได้จากการตรวจอัลตร้าซาวน์ยืนยัน นอกจากนี้อาการแสดงของร่างกาย เช่น เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะบ่อย คัดตึงเต้านม อาการดังกล่าวบ่งบอกว่าอาจมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น และการที่คุณหมอให้ยามาทาน เป็นยาฮอร์โมน (โปรเจสเตอโรน) สำหรับปรับรอบเดือนให้มาตามปกติ โดยปกติทานยา 5-7 วัน หลังจากยาหมด ประมาณ 3-5 วัน (ไม่เกิน 7 วัน) ประจำเดือนจะมา ซึ่งความผิดปกติลักษณะนี้ส่วนใหญ่เกิดในรอบเดือนที่ไม่มีการตกไข่ ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ การไม่มีประจำเดือนเป็นเวลานานอาจทำให้ร่างกายอยู่ภายใต้อิทธิพลฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen)เพียงอย่างเดียว ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้ (Endometrial cancer) ดังนั้นเมื่อพบว่าประจำเดือนผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพราะนอกจากสาเหตุที่กล่าวมาแล้ว ยังมีสาเหตุอื่นๆอีกหลายอย่าง เช่น การทำงานผิดปกติของต่อมไทรอยด์ เนื้องอกในบางส่วนของสมอง การใช้ยาบางชนิด ตลอดจนความเครียด การอดหลับอดนอนก็สามารถเป็นสาเหตุของความผิดปกติของประจำเดือนได้
นพ.นิวัฒน์ อรัญญาเกษมสุข
(Some images used under license from Shutterstock.com.)