© 2017 Copyright - Haijai.com
คันหัวเพราะมีเหา
เด็กๆ เมื่อเข้าสู่วัยที่เข้าโรงเรียนได้แล้ว คุณพ่อคุณแม่หลายคนคงจะดีใจกับลูก เพราะลูกจะได้ไปเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่น มีสังคมในวัยของเด็กๆ ได้เล่นได้สนุกกับเพื่อนวัยเดียวกัน แต่ทราบกันหรือเปล่าคะว่าการที่ลูกได้เล่นได้คลุกคลีกับเพื่อนๆ นั้น ก็อาจนำมาซึ่งปัญหาเรื่องสุขอนามัย เพราะเด็กๆ แต่ละคนนั้นยังไม่ค่อยรู้วิธีในการป้องกันและรักษาตัวเองให้ปลอดภัยจากเชื้อโรคต่างๆ และปัญหาหนึ่งที่จะพบได้บ่อยกับลูกหลังจากที่กลับจากโรงเรียน คืออาการคันศีรษะของลูกที่เกิดจากเหาคะ เหาคืออะไร หลายคนอาจสงสัยว่าเหามันเกิดจากอะไร และทำไมเหาถึงได้มาอยู่บนศีรษะลูกได้???
เหาเกิดจากเชื้อปาราสิต ชื่อว่า “Pediculus humanus” ซึ่งจะมีการติดเชื้อและอาศัยอยู่บนหนังศีรษะ เส้นผม ของคนเท่านั้น ส่วนใหญ่จะพบบริเวณท้ายทอย หลังหูและขมับ ตัวเหาจะดูดเลือดกินเป็นอาหาร และน้ำลายของเหานั้นก็เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้คนที่เป็นเหาเกิดอาการคันศีรษะ เหาจะวางไข่บนเส้นผม โดยการหลั่งสารไคตินหุ้มปลายหนึ่งของไข่ให้เกาะติดแน่นอยู่กับเส้นผม ไข่ของเหาจะฟักเป็นตัวได้ภายในเวลา 7-10 วัน เหาตัวอ่อนใช้เวลา 10 วันหลังจากฟักออกจากไข่ในเจริญเติบโตเป็นเหาตัวเต็มวัย
จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกเป็นเหา
หากลูกเป็นเหาจะสังเกตได้คือ ลูกจะมีอาการคันศีรษะและระคายเคืองบริเวณผิวหนังศีรษะ และก็จะเกามาก แผลที่เกิดจากการเกาอาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียตามมาได้ด้วย และหากลูกเป็นเหาแล้วไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง เหาที่อยู่บนศีรษะของลูกก็อาจไปติดต่อให้กับเพื่อนๆ ที่โรงเรียน
สาเหตุการติดต่อของเหา
เหาจะติดต่อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้ เป็นการติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรง เช่นการใช้หวีแปรงผมร่วมกันกับผู้ที่เป็นเหา การใช้หมวกร่วมกัน การนอนหมอนร่วมกัน เพราะฉะนั้นจึงมักพบการแพร่ระบาดในโรงเรียนมากที่สุด อีกสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เกิดเหาบนศีรษะคือ การไม่รักษาความสะอาดของผม ฉะนั้น คุณแม่ควรที่จะดูแลเรื่องความสะอาดให้กับลูกๆ หมั่นที่จะสระผม แปรงผมให้ลูกเป็นประจำทุกวัน
รักษาเหาได้อย่างไร
• สามารถรักษาได้โดยการใช้ยาฆ่าเหา ที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ชื่อยาว่าเบนซิล เบนโซเอต ซึ่งวิธีการใช้ยาคือต้องหมักผมทิ้งไว้ 12-24 ชั่วโมง และต้องใช้หวีซี่ถี่ๆ สางผมเพื่อเอาไข่เหาออกมา แต่ก็มีข้อกำจัดของยาคือ จะทำให้คนที่ใช้มีอาการแสบ คัน ระคายเคือง ยิ่งถ้าใช้ในคนที่ที่มีแผลที่เกิดจากการเกาก็จะมีอาการระคายเคืองที่รุนแรงขึ้น เนื่องจากบริเวณที่ใช้ยานั้นอยู่ใกล้จมูกและยามีกลิ่นแรง ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะได้ ยาทั้งสองชนิดนี้จะกำจัดได้แค่ตัวเหา จะไม่สามารถกำจัดไข่ได้ ดังนั้นจะต้องมีการใช้ยาซ้ำอีกครั้งใน 7 วัน หลังจากที่ใช้ยาในครั้งแรก ข้อควรระวังในการใช้ยาคือ อย่าให้ยาเข้าตา เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคือง ฉะนั้นถ้ายาเข้าให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาด แต่หากไม่ด้ขึ้นให้รีบไปพบแพทย์คะ
• และก็ให้รักษาเรื่องความสะอาดโดยการกำจัดตัวเหา และไข่ที่อาจตกอยู่ตามผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว โดยการซักในน้ำร้อน หรือใช้ความร้อนอบแห้ง ก็จะสามารถกำจัดตัวเหาได้ดีอีกหนึ่งวิธีคะ
ใบหน้อยหน่ารักษาเหาได้
ใบน้อยหน่าถือเป็นยาสมุนไพรชั้นดี สำหรับนำมารักษาเหาให้กับเด็กๆ เพราะผลที่ได้รับนั้นสามารถจำกัดเหาได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องหมั่นและขยันที่จะนำมารักษาด้วยนะคะ เพราะขี้เกียจแล้ว ต่อให้มียาดีแค่ไหนก็ไม่สามารถหายจากเหาตัวร้ายได้ค่ะ
วิธีนำใบน้อยหน่ามาเป็นยารักษาเหา
ให้นำใบน้อยหน่า 3-7 ใบ มาตำให้ละเอียด จากนั้นก็มาคลุกผสมกับเหล้าขาว แล้วให้บีบเอาแต่น้ำมาชโลมที่ผม ทิ้งไว้สัก 15-20 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด ให้ทำอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ข้อควรระวังคืออย่าให้เข้าตา
(Some images used under license from Shutterstock.com.)