Haijai.com


ยกแก้มหย่อนคล้อยห้อยย้อยย้วยให้เด้งกระชับ


 
เปิดอ่าน 52936

ยกแก้มหย่อนให้เด้งกระชับ

 

 

ในยุคปัจจุบันที่ผู้คนต่างใส่ใจดูแลรูปลักษณะของตัวเองกันมากขึ้น จึงมักจะสังเกตเห็นได้ว่าผู้คนดูเด็กขึ้น อ่อนเยาว์ขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีอายุกว่า 50 ปี หรือ 60 ปีขึ้นไป ก็ยังดูดีดูกระฉับกระเฉง ต่างกับในสมัยก่อนที่คนอายุคราวเดียวกันนี้ แต่กลับดูเป็นคุณปู่คุณย่าแก่ชรา ดังนั้น จึงทำให้ปัญหาผิวพรรณที่เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น อย่างใบหน้าหย่อนคล้อย ริ้วรอยเหี่ยวย่น พบได้น้อยลง แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากวัยกลางคนขึ้นไปแล้ว ทุกคนก็จะประสบกับปัญหาแก้มหย่อนคล้อย รูปหน้าจากวีเชพกลายเป็นหน้าสี่เหลี่ยมเหมือนๆ กัน ซึ่งทำให้ดูมีอายุ เมื่อรูปหน้าเปลี่ยนไปก็ทำให้รู้สึกขาดความมั่นใจได้ จึงต้องมีการยกแก้มหรือยกหน้าที่หย่อนคล้อย เพื่อให้กลับมาดูอ่อนเยาว์

 

 

อย่างที่หลายคนพอจะทราบบ้างแล้วว่า หน้าคนเราแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ หน้าส่วนบน (Upper face) หน้าส่วนกลาง (Middle face) และหน้าส่วนล่าง (Lower face) ซึ่งแก้มของเราจะอยู่บริเวณใบหน้าส่วนล่าง คือ ตั้งแต่ระดับฐานจมูกลงมาถึงคาง กายวิภาคของแก้มนั้น ประกอบด้วยชั้นผิวหนังด้านบน ถัดลงไปก็จะเป็นชั้นไขมันใต้ผิวหนัง และลึกลงไปอีกจะเป็นชั้นเนื้อเยื่อที่อยู่เหนือกล้ามเนื้อ เรียกว่าชั้น SMAS เป็นชั้นเนื้อเยื่อชั้นหนึ่ง ที่ช่วยให้มีการยกกระชับของใบหน้า ถัดจากชั้นนี้จึงเป็นกล้ามเนื้อและก้อนไขมันในกระพุ้งแก้ม ไขมันในกระพุ้งแก้มอยู่ระหว่างส่วนกราม ส่วนโหนกแก้ม และส่วนคาง และชั้นในสุดจะเป็นเนื้อเยื่อภายในปาก การทราบถึงกายวิภาคของแก้มจะทำให้วินิจฉัยก่อนการรักษาได้ ทีนี้เรามาดูกันว่า สาเหตุที่ทำให้แก้มย้วยแก้มหย่อนนั้นมีอะไรบ้าง

 

 

สาเหตุที่ทำให้แก้มหย่อนย้วย

 

แก้มหย่อนหรือย้วยแบ่งออกตามช่วงวัย โดยสาเหตุที่ทำให้เรามีแก้มย้วยในวัยเด็ก ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องปกตินั้น เนื่องมาจากไขมันในกระพุ้งแก้มที่มีค่อนข้างเยอะ รวมทั้งมีไขมันใต้ชั้นผิวหนังมาก แต่เป็นแก้มที่ดูแล้วน่ารักน่าชัง ใบหน้ากลม แก้มป่อง ตุ้ยนุ้ย สมกับวัยเด็ก แต่เมื่ออายุเริ่มมากขึ้น ไขมันบริเวณดังกล่าวก็จะลดตัวลง มีการพัฒนาทางด้านร่างกาย เริ่มเป็นสาวเป็นหนุ่มมากขึ้น คางยาวขึ้น หน้าเรียวขึ้น ซึ่งแต่ละคนก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามพันธุกรรม แต่ในบางคนไขมันบริเวณแก้มมีเยอะ เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นแล้วแก้มก็ยังป่องอยู่ ทำให้หน้าไม่เรียว ดังนั้น ในช่วงวัยรุ่นจึงต้องมีการแก้ไขหน้าส่วนล่างให้เรียวลง

 

 

เมื่อเข้าสู่วัยกลางคน หน้าที่เคยมีแก้มตุ่ย เต่งตึง ก็เริ่มห้อยย้อย เนื่องจากแก้มมีน้ำหนักและถูกแรงดึงดูดของโลกดึงมาเป็นเวลานาน เพราะฉะนั้น บริเวณที่มีน้ำหนักคือไขมันในกระพุ้งแก้ม และไขมันใต้ผิวหนังจึงห้อยลงมา ในขณะเดียวกันกล้ามเนื้อต่างๆ ก็เริ่มหลวมและเริ่มคล้อยลง ชั้นเนื้อเยื่อที่หุ้มกล้ามเนื้อที่เรียกว่า SMAS ก็ห้อยลงมาด้วย ผิวหนังที่พยุงด้านนอกเกิดหลวม เนื่องจากอีลาสติกลดลง ทำให้เนื้อเยื่อเกี่ยวพันบริเวณแก้มห้อยลงมา ไขมันที่เป็นก้อนในกระพุ้งแก้มก็จะลงมากองอยู่บริเวณสันขอบคาง ซึ่งไม่สามารถเคลื่อนตัวไปไหนได้อีก ทำให้แก้มห้อยลงมามองเห็นเป็นถุง เกิดกาดึงรั้งบริเวณร่องแก้มและโหนกแก้ม ผลคือทำให้มองเห็นร่องแก้ม ร่องจมูก และร่องปากชัดขึ้น มิติของหน้าเปลี่ยนไป ทำให้หน้าส่วนกลางแบนลง ทำให้หน้าเรียวกลายเป็นหน้าสี่เหลี่ยม ซึ่งนับว่าเป็นปัญหาของวัยกลางคน ช่วงอายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะผู้หญิงจะเกิดปัญหานี้ได้เร็วกว่าผู้ชาย จึงต้องมีการยกหน้าเพื่อให้หน้ากลับไปเป็นวัยรุ่นขึ้น

 

 

แนวทางการรักษา

 

การแก้ปัญหาแก้มหย่อนย้วยขึ้นกับความรุนแรงของอาการ โดยทั่วไปแล้ว แพทย์จะพิจารณาวิธีการรักษาตามระดับอาการของคนไข้ หากคนไข้อายุยังน้อย และมีปัญหาไม่มาก อาจเลือกใช้วิธีการที่ไม่ต้องเจ็บตัว หากเริ่มเข้าสู่วัยกลางคนและเริ่มมีปัญหาที่มองเห็นชัดบ้างแล้ว อาจเลือกใช้วิธีกึ่งผ่าตัด แต่สำหรับคนอายุมากและมีปัญหาที่เด่นชัด ก็สามารถเลือกวิธีการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาแก้มหย่อนย้วยได้ โดยการรักษาหลักๆ เลือกวิธีการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาแก้มหย่อนย้วยได้ โดยการรักษาหลักๆ แล้วแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มด้วยกัน กลุ่มแรกคือการแก้ไขแก้มย้อยในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งมีไขมันในกระพุ้งแก้มและไขมันใต้ผิวหนังมากกว่าวัยกลางคน ดังนั้น แก้มที่ย้อยจึงเกิดจากไขมันทั้งสองส่วนนี้ การแก้ไขจึงเป็นการนำเอาไขมันในกระพุ้งแก้ม ซึ่งเป็นไขมันที่มีลักษณะอยู่รวมกันเป็นก้อนออก การผ่าตัดเป็นการเปิดแผลภายในช่องปาก ซึ่งทำให้มองไม่เห็นรอยแผลเป็น ในบางคนที่ค่อนข้างท้วม จะมีไขมันใต้ผิวหนังมาก การแก้ไขจึงต้องทำการดูดเอาไขมันในส่วนนี้ออกด้วย เมื่อไขมันทั้งสองส่วนถูกกำจัดออกไปแล้ว จึงทำให้แก้มบางลง หน้าเรียวขึ้น

 

 

สำหรับการแก้ไขแก้มย้อยในกลุ่มวัยกลางคน ซึ่งรูปหน้าเริ่มเปลี่ยนแปลง หน้าเริ่มย้อยตามอายุที่มากขึ้น เกิดการเสื่อมสภาพของเซลล์อันดับแรก ต้องมีการวินิจฉัยว่าส่วนของเนื้อเยื่อที่ทำให้แก้มหย่อนยานนั้น มีอะไรบ้าง มีไขมันในกระพุ้งแก้มด้วยหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่ไขมันใต้ผิวหนังในบางคนไม่มีก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดนำออก ส่วนกรณีที่มีไขมันก้อนใหญ่ในกระพุ้งแก้ม ต้องทำการผ่าตัดไขมันในส่วนเนื้อออกก่อน จากนั้นจึงทากรยกหน้าส่วนล่างแก้มขึ้น โดยมี 3 วิธีหลักๆ ดังต่อไปนี้

 

1.การรักษาแบบไม่เจ็บตัว (Non-invasive)

 

เป็นการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อทำการรักษาด้วยการยกกระชับ ซึ่งไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บใดๆ แก่คนไข้ เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาไม่มากนัก เครื่องมือยกกระชับมีหลายกลุ่มด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น RF (Radio Frequency), Ultrasound และ Laser (Nd: YAG Laser) หลักการคือทำให้เกิดความร้อนในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เพื่อให้หดสั้นขึ้นและเกิดการยกกระชับ ซึ่งปัจจุบันเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อความงามส่วนใหญ่ มักจะมีโหมด Lifting เพิ่มเติมในการรักษาด้วย ทั้งนี้ยังรวมถึงการทำทรีตเม้นท์ เพื่อให้ผิวไม่แห้งตึงและหย่อนคล้อย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพื่อให้เนื้อเยื่อเกี่ยวพันใต้ผิวหนัง และชั้นผิวหนังมีการกระชับ หดสั้นขึ้น  จึงทำให้เกิดการยกขึ้นไปของแก้มได้

 

 

2.การรักษาที่ต้องเจ็บตัวเล็กน้อย (Semi-invasive)

 

เป็นการแก้ไขที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งวิธีปัจจุบันที่ได้รับความนิยมคือการร้อยไหมเพื่อช่วยยกกระชับ เหมาะสำหรับกรณีที่มีการหย่อนคล้อยนิดหน่อย ไหมที่นำมาใช้มีตั้งแต่ไหมละลายธรรมดา ไหมเรียบสั้น หรือไหมพิเศษที่มีลักษณะเกี่ยวเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังขึ้นมา จึงทำให้ เกิดการยกขึ้น เช่น ไหมเงี่ยง ไหมกรวย ไหมก้างปลา ไหมหนาม ฯลฯ

 

 

ผลการรักษาคือใช้แทนการดึงหน้ามากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ นับว่าช่วยทดแทนการผ่าตัดยกกระชับไปได้ค่อนข้างมาก

 

 

3.การรักษาโดยการผ่าตัด (Invasive)

 

สมัยก่อนการผ่าตัดยกหน้า เรียกว่า เป็นการรักษาที่เบ็ดเสร็จ คือ ในการผ่าตัดครั้งเดียวสามารถแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อยและมีริ้วรอยที่เกิดจากความชราได้ มีการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ มีการตัดหนังส่วนที่เกิดออก แล้วเย็บดึงรั้งขึ้นไป การผ่าตัดนี้ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนานหลายเดือน และเกิดโรคแทรกซ้อนได้มากกว่า ให้ผลการรักษาที่มากกว่าวิธีแรก และวิธีที่สองประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ ผลการรักษาขึ้นกับการดูแลตัวเองของคนไข้หลังผ่าตัด สมัยก่อนการรักษาส่วนใหญ่จึงมักสิ้นสุดที่การผ่าตัดดึงหน้า และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากการดูแลตัวเองยังมีน้อย แต่ปัจจุบันวิธีดังกล่าวนี้กลับกลายเป็นการรักษาลำดับท้ายๆ ที่คนไข้และแพทย์จะเลือกทำ เพราะคนยุคใหม่ดูแลตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย ใส่ใจตัวเองดูแลสุขภาพมากขึ้น ดังนั้น กว่าที่จะต้องใช้วิธีการยกแก้มหรือดึงหน้า โดยการผ่าตัดก็เหลือจำนวนน้อยมากแล้ว

 

 

ขั้นตอนการรักษา

 

ก่อนการรักษาไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม คนไข้ต้องมีการเตรียมตัวก่อนการรักษา ซึ่งแต่ละวิธีก็มีความแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับชนิดของการรักษา หากเป็นการรักษาโดยวิธี Non Invasive ต้องดูว่าคนไข้มีข้อห้ามในการใช้เครื่องมือทางการแพทย์อยู่หรือไม่ ส่วนการรักษาโดยวิธี Semi Invasive และ Invasive ต้องดูว่าคนไข้มีข้อห้ามในการผ่าตัดหรือไม่ เช่น เลือดออกง่าย โรคเบาหวาน หรือโณคหัวใจ อาจมีการเจาะเลือดเพื่อดูการแข็งตัวของเลือด นอกเหนือจากนั้นเป้นการเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดทั่วๆ ไป หากไม่มีข้อห้ามก็สามารถทำการรักษาได้

 

 

การรักษาโดยวิธี Non Invasive หากคนไข้ไม่มีข้อห้ามในการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ ก็สามารถรักษาได้ทันที โดยแพทย์จะใช้พลังงานที่มีผลทำให้เกิดความร้อนที่ชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดการยกตัวและกระชับขึ้น โดยในระหว่างการรักษาคนไข้จะไม่มีการบาดเจ็บ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง หลังทำสามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ ส่วนการรักษาโดยวิธี Semi Invasive ก่อนการรักษาคนไข้ควรล้างหน้าให้สะอาด จากนั้นแพทย์จะทำการยกแก้มด้วยไหม มีการใช้ยาชาเฉพาะที่ หลังทำอาจบวม เขียว ช้ำ ได้เล็กน้อย วิธีนี้เป็นการรักษาที่ไม่ต้องนอนพักฟื้น ใช้เวลาในการรักษาประมาณ 1-2 ชั่วโมง หลังทำสามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ สำหรับวิธีการผ่าตัดยกแก้มหรือยกหน้า ซึ่งเป็นการผ่าตัดใหญ่ คนไข้ต้องเตรียมตัวโดยการทำความสะอาดใบหน้า สระผมให้สะอาด งดน้ำและอาหารก่อนการผ่าตัด 6 ชั่วโมง หลังจากนั้นแพทย์อาจใช้ยาฉีดให้หลับหรือใช้ดมยาสลบ มีการฉีดยาชาเฉพาะที่เพื่อไม่ให้เลือดออกมาก การผ่าตัดยกแก้มหรือดึงหน้าจะเป็นการตัดหนังส่วนที่เกินออก แล้วดึงเนื้อเยื่อส่วนที่อยู่ติดกับกล้ามเนื้อที่เรียกว่า SMAS ขึ้นไปแล้วเย็บ ก็จะทำให้หน้ากระชับขึ้น สำหรับการผ่าตัดเฉพาะกระพุ้งแก้มหรือเฉพาะแก้มช่วงล่าง ที่ไม่ใช่การผ่าตัดดึงหน้าทั้งหมด (Full Face Lift) อาจใช้ยาชาเฉพาะที่และไม่ต้องนอนพักฟื้น ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 2 ชั่วโมง

 

 

การดูแลหลังการรักษา

 

หลังการรักษาด้วยการผ่าตัดคนไข้ต้องระวังอย่าให้แผลโดนน้ำ จนกว่าจะถึงเวลาตัดไหมประมาณ 5-7 วัน ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 3 เดือน ในช่วงเดือนแรกอาจมีอาการบวมค่อนข้างมาก กว่าที่แผลจะเข้าที่อาจใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน หลังการรักษาด้วยการร้อยไหม คนไข้อาจมีอาการบวม เขียว ช้ำ และผิวไม่เรียบบ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหนังของแต่ละคน ถ้าคนไข้อายุมาก ผิวหนังหย่อนคล้อยมาก ความไม่เรียบก็อาจจะมากกว่า ถ้าคนไข้อายุน้อย ผิวหนังยังตึง มีการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังไม่มาก ความไม่เรียบก็จะน้อยกว่า เนื่องจากการร้อยไหมเป็นการดึงส่วนที่ย้อยให้ยกขึ้น ไม่มีการตัดผิวหนังส่วนเกินออก ดังนั้น หลังจากรักษาแล้วผิวหนังส่วนที่เกินร่างกายก็จะค่อยๆ ปรับตัว ความไม่เรียบก็จะค่อยๆ หายไป หลังจากนั้นอาจมีการทำทรีตเม้นท์ต่างๆ เพื่อให้ผิวมีการสร้างคอลลาเจนมากขึ้น ทำให้เนื้อเยื่อสามารถหดตัวรั้งขึ้นไปได้ ควรระมัดระวังอย่ากระทบกระเทือนแผล สำหรับการรักษาด้วยเครื่องมือยกกระชับ สามารถกลับไปทำกิจกรรมได้ตามปกติหลังการรักษา

 

 

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าทั้งผู้หญิงและผู้ชายจะเกิดปัญหาแก้มหย่อนย้วยเหมือนกัน แต่การรักษาก็ยังต้องคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างเพศ โดยผู้หญิงมักจะต้องการให้รูปหน้าเป็น V-Shape ส่วนผู้ชายหน้าจะค่อนข้างเป็นสี่เหลี่ยมมากกว่า หรือ U ฐานแคบ เพราะหากทำให้ผู้ชายหน้าเป็น V-Shape แล้ว จะทำให้หน้าดูไม่มีพาวเวอร์ และการผ่าตัดในผู้ชายจะทำให้ยากผู้หญิง เนื่องจากผู้ชายผิวหนังมีความหนามากกว่า เนื้อเยื่อเกี่ยวพันหรือพังผืดต่างๆ มีความแข็งแรงเหนียวแน่นกว่า จึงทำให้ในระหว่างการผ่าตัดเลือดออกมากกว่า

 

 

ข้อดี-ข้อเสียของการรักษาแต่ละวิธี

 

ข้อดีของการรักษาโดยใช้เครื่องมือยกกระชับคือไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก ผลข้างเคียงน้อย ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ ข้อเสียคือต้องทำบ่อยครั้งและต่อเนื่อง ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับปัญหาที่เกิดขึ้น หากปัญหามีน้อยผลลัพธ์ก็ดี หากปัญหามีมากผลลัพธ์ก็ช้า เมื่อรักษาด้วยวิธีแรกแล้วไม่ได้ผลตามที่ต้องการ อาจเปลี่ยนมารักษาโดยการใช้ไหม ซึ่งมีข้อดีคือได้ผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการผ่าตัด ใช้เวลาในการรักษาไม่นาน ระยะเวลาพักฟื้นน้อย บาดเจ็บไม่มาก สามารถทำงานได้ในวันรุ่งขึ้นหลังการรักษา ข้อเสียคือมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง หลังทำระยะแรกผิวอาจไม่เรียบ เห็นเป็นคลื่นเล็กน้อย ส่วนวิธีสุดท้ายคือการผ่าตัด ข้อดีคือสามารถตัดหนังส่วนที่ห้อยย้อยออก สามารถดึงให้ตึงขึ้น ข้อเสียคือต้องเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดมาก มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนในระหว่างและหลังการผ่าตัดได้มากกว่า มีความเสี่ยงในการผ่าตัดโดนเส้นประสาท หลังผ่าตัดใช้เวลาพักฟื้นนาน และมีข้อห้ามสำหรับคนที่มีโรคประจำตัว

 

 

เสริมคางเพิ่มความสมดุลหลังยกแก้ม

 

เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่มีคางสั้น ดังนั้น หลังจากยกแก้มขึ้นแล้ว หากต้องการให้ใบหน้ามีความสมส่วน อาจเสริมคาง เพื่อให้หน้าเรียวเป็นรูปตัววี หรือในกรณีที่คางยื่นอาจจะต้องมีการตัดกราม หรือบริเวณกรามใหญ่ ก็อาจจะมีการฉีดโบท็อกซ์ประกอบการรักษาเพื่อให้กรามเล็กลง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วแพทย์จะพิจารณาดูทั้ง 3 สัดส่วนร่วมกัน คือ แก้ม กราม และคาง ก็จะทำให้ใบหน้าส่วนล่างสมบูรณ์มากขึ้น เป็นรูปตัววีหรือตัวยูแคบตามความต้องการของคนไข้และแพทย์ เพราะหน้ารูปไข่คือลักษณะของรูปหน้า ที่อยู่ตรงกลางระหว่างความเป็นเด็ก ความเป็นหนุ่มสาว ซึ่งเป็นลักษณะของหน้ากลม และความเป็นคนมีอายุมาก ซึ่งมีลักษณะของหน้าเหลี่ยม ดังนั้น หน้าที่สมบูรณ์สวยงามคือหน้ารูปไข่ มี 3 มิติ ทั้งความยาว ความกว้าง และความหนา เมื่อแก้ไขบริเวณแก้มที่ย้วยหย่อนคล้อย ไขมันบริเวณแก้มยุบลงแล้ว รวมถึงรักษาแก้ไขเพิ่มเติมในส่วนที่ยังไม่สมดุล ผลการรักษาในกลุ่มวัยรุ่นก็จะทำให้หน้าเรียวขึ้น ในคนอายุมาก ก็จะทำให้หน้าอ่อนวัยขึ้น

 

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าการยกแก้ม หรือ Cheek Lift เป็นการผ่าตัดเพียงอย่างเดียว แต่ความจริงแล้วการยกแก้ม คือ การรักษาคนที่มีปัญหาแก้มหย่อนย้วยด้วยวิธีที่เหมาะสม กับคนไข้ในแต่ละกรณี ไล่มาตั้งแต่เป็นแก้มหย่อนย้วยนิดหน่อย กระทั่งเป็นมาห้อยย้อยลงมากองเป็นถุงอยู่สันขอบคาง หรืออาจจะเป็นวิธีการรักษาที่ผสมผสานหลากวิธีเข้าด้วยกัน หรือที่เรียกว่า Combine Technique ซึ่งจะทำให้ได้ผลการรักษาที่ดีขึ้น และอยู่ได้นานกว่าการรักษาด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง และการผ่าตัดเป็นการตัดหนังส่วนเกินที่ห้อยย้อยออก ไม่ได้เป็นการทำให้สภาพผิวดีขึ้นหรืออ่อนเยาว์ลง เพราะฉะนั้น การดูแลรักษาด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ ก็ยังมีความสำคัญ ดังนั้น การป้องกันและดูแลรักษาใบหน้าหย่อนคล้อยแก้มห้อยย้วยที่ได้ผล คือ การยกกระชับด้วยวิธี Non Invasive ตั้งแต่อายุยังน้อย รวมทั้งใช้ประกอบการรักษาด้วยวิธี Semi Invasive และ Invasive ก็จะทำให้ผลการรักษาดีขึ้นและอยู่ได้นานกว่า

 

 

“ปัญหาแก้มหย่อนคล้อย ห้อยย้อย เกิดขึ้นได้ทั้งวัยรุ่น หรือวัยกลางคนขึ้นไป ในการเลือกวิธีการดูแลรักษา ก็จะแตกต่างกันออกไป เราก็จะเลือกตั้งแต่การรักษาที่ง่ายที่สุด ไปจนถึงวิธีที่ยากที่สุดตามลำดับ คือการรักษาตั้งแต่ Non Invasive, Semi Invasive และ Invasive เพราะฉะนั้น การเลือกการรักษาขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์เป็นสำคัญ ว่าจะเลือกวิธีไหนถึงจะเหมาะสมกับคนไข้แต่ละช่วงวัย การได้มาพบและพูดคุยปรึกษากับแพทย์จึงมีความสำคัญ ในการวินิจฉัยว่าหากเกิดปัญหาแก้มย้อยในระดับนี้ ควรจะรักษายังไงให้เกิดผลดีที่สุด คนไข้เจ็บตัวน้อยที่สุด ลดเวลาการพักฟื้น ลดภาวะแทรกซ้อนให้มากที่สุด รวมถึงมีค่าใช้จ่ายน้อย ซึ่งอาจจะต้องเป็นการรักษาแบบผสมผสานหลากหลายวิธีการร่วมกัน (Combination Technique) เพื่อให้ได้ผลดีในภาพรวม นอกจากแก้มจะยกกระชับขึ้นแล้ว ยังทำให้ภาพรวมของหน้าดีขึ้นด้วย”

 

 

นพ.ธนวรรฒน์ โชติมา

ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมความงาม

TNC Clinic

(Some images used under license from Shutterstock.com.)





ลดไขมันในร่างกาย วิธีลดไขมัน ลดไขมันต้นขา สลายไขมันหน้า ไตรกลีเซอไรด์ เซลลูไลท์ วิธีแก้นอนกรน ลดไขมัน Coolsculpting ทำกี่ครั้ง Sculpsure Sculpsure กับ Coolsculpting นอนกรนเกิดจาก Morpheus8 สลายไขมันหน้าท้อง วิธีลดพุงผู้หญิงเร่งด่วน 3 วัน Body Slim ลดไขมันทั้งตัว วิธีลดพุงผู้ชาย Morpheus8 กับ Ulthera ลดพุงเร่งด่วน วิธีลดไขมันต้นขา ลดพุง ดูดไขมัน วิธีลดหน้าท้อง สลายไขมันด้วยความเย็น คอเลสเตอรอล วิธีลดไขมันหน้าท้อง ไขมัน วิธีลดพุงผู้หญิง Coolsculpting Elite CoolSculpting vs Emsculpt วิธีลดพุง สลายไขมันต้นขา ลดไขมันหน้าท้อง นวดสลายไขมัน ผลไม้ลดความอ้วน ลดน้ำหนักเร่งด่วน อาหารคลีน กินคลีนลดน้ำหนัก ลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน กินคีโต วิธีลดความอ้วนเร็วที่สุด อาหารลดความอ้วน วิธีลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน วิธีลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน ลดความอ้วนเร่งด่วน ผลไม้ลดน้ำหนัก อาหารเสริมลดความอ้วน วิธีลดความอ้วน เมนูลดความอ้วน วิธีการสลายไขมัน ลดความอ้วน สลายไขมัน ลดน้ำหนัก สูตรลดน้ำหนัก Exilis Elite Thermage Body ออฟฟิศซินโดรม Inbody Vaginal Lift Morpheus Pro Oligio Body IV Drip Emsella เลเซอร์นอนกรน Indiba ปากกาลดน้ำหนัก Emsculpt CoolSculpting บทความดูแลรูปร่างและสุขภาพ บทความกระชับสัดส่วนรูปร่าง บทความน่ารู้ romrawin รมย์รวินท์ IPL เลเซอร์ขนแขน YAG Laser Diode Laser ไฮยาลูรอน ฟิลเลอร์น้องชายอันตรายไหม ฉีดสิว Emtone 1 week 1 Kilo ลดน้ำหนัก กลืนบอลลูน Exo Hair Reborn หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ดูดไขมัน ดึงหน้า ตาสองชั้น ทำตาสองชั้น เสริมจมูก ยกคิ้ว เสริมหน้าอก บทความศัลยกรรม วีเนียร์ บทความทันตกรรม สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Fit Firm Emsculpt สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Elite บทความลดน้ำหนัก ดีท็อกลำไส้ EIS BIO SCAN ICELAB IV DRIP ดริปวิตามิน บทความดูแลสุขภาพ Vaginal Lift P-SHOT O-Shot บทความสุขภาพเพศ Meso Hair LLLT ปลูกผมด้วยแสงเลเซอร์ ปลูกผมผู้ชาย ปลูกผมสำหรับผู้หญิง ปลูกผมถาวร ปลูกผม FUE ปลูกผม รักษาผมร่วง บทความรักษาผมร่วง ผมบาง บทความดูแลเส้นผม เลเซอร์รักแร้ขาว เลเซอร์ขน เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนน้องสาว เลเซอร์ขนหน้า เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน เลเซอร์ขนขา เลเซอร์หนวด เลเซอร์เครา เลเซอร์รักแร้ กำจัดขนถาวร เลเซอร์ขน บทความเลเซอร์กำจัดขน เลเซอร์รอยสิว Pico Laser Pico Majesty Pico Majesty Laser Reepot Laser Reepot บทความโปรแกรมหน้าใส NCTF 135 HA Rejuran Belotero Glassy Skin Juvederm Volite Gouri Exosome Harmonyca Profhilo Skinvive Sculptra vs ฟิลเลอร์ Sculptra บทความ Sculptra Radiesse บทความ Radiesse บทความฉีดหน้าใส UltraClear AviClear Laser AviClear Accure Laser Accure บทความโปรแกรมรักษาสิว ฟิลเลอร์คอ ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์มือ ฟิลเลอร์หน้าใส ฟิลเลอร์ร่องแก้มราคา ฟิลเลอร์ยกหน้า ฟิลเลอร์หลุมสิว หลังฉีดฟิลเลอร์กี่วันหายบวม หลังฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ยกมุมปาก ฟิลเลอร์ปากกระจับ ฟิลเลอร์ปาก 1 CC ฟิลเลอร์จมูกราคา ฟิลเลอร์กรอบหน้า ฟิลเลอร์ที่ไหนดี ฟิลเลอร์น้องสาวกี่ CC ฟิลเลอร์ราคา ฟิลเลอร์จมูก ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ฟิลเลอร์แก้มส้ม ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์น้องชาย ฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ บทความฟิลเลอร์ ฉีดโบลดริ้วรอยหางตา ฉีดโบหางตา ฉีดโบลิฟกรอบหน้า ฉีดโบหน้าผาก ฉีดโบยกมุมปาก ฉีดโบปีกจมูก ฉีดโบลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ฉีดโบลดกราม ฉีดโบรักแร้ ฉีดโบลดริ้วรอย ดื้อโบลดริ้วรอย บทความโบลดริ้วรอย Volnewmer Linear Z ยกมุมปาก Morpheus Morpheus8 ลดร่องแก้ม Ultraformer III Ultraformer MPT Emface Hifu ยกกระชับหน้า Ultherapy Prime อัลเทอร่า Ulthera Thermage FLX BLUE Tip Thermage FLX Oligio บทความยกกระชับใบหน้า ร้อยไหมหน้าเรียว ไหมหน้าเรียว ร้อยไหมเหนียง ไหมเหนียง ร้อยไหมยกหางตา ไหมยกหางตา Foxy Eyes ร้อยไหมปีกจมูก ไหมปีกจมูก ร้อยไหมกรอบหน้า ไหมกรอบหน้า ร้อยไหมร่องแก้ม ไหมร่องแก้ม ร้อยไหมก้างปลา ไหมก้างปลา ร้อยไหมคอลลาเจน ไหมคอลลาเจน ร้อยไหมจมูก ร้อยไหม บทความร้อยไหม Apex