Haijai.com


วิธีกระชับผิวหย่อนคล้อยสวยกระชับเด้ง


 
เปิดอ่าน 7614

หลากวิธีมีผิวสวยกระชับเด้ง

 

 

นอกจากใบหน้าที่ได้สัดส่วนสวยงามแล้ว รูปร่างและผิวพรรณก็เป็นอีกองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้บุคคลผู้นั้นดูดีขึ้นมาได้ จะเห็นได้ว่าบางคนหน้าตาสวยหล่อ แต่ผิวพรรณกลับหม่นหมองและผิวหนังหย่อนคล้อย ก็ดูทำให้แก่กว่าวัยและขาดเสน่ห์ไปอย่างไม่น่าเชื่อ แต่บางคนหน้าตาก็ดูธรรมดา แต่มีจุดเด่นคือผิวที่กระชับเรียบเนียนผุดผ่อง กลับเป็นที่ต้องตาต้องใจของใครหลายๆ คน มีหลากหลายวิธีสำคัญที่ช่วยทำให้ผิวพรรณของคุณเด้งกระชับมาฝาก เพราะนอกจากจะทำให้ดูดีในสายตาของสาธารณะชนแล้ว ยังมัดใจคนรักได้อยู่หมัดด้วยเสน่ห์ข้อนี้อีกด้วย

 

 

หากจะพูดถึงการมีผิวที่กระชับ เด้ง เต่งตึง ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ไม่ว่าคุณจะอ้วนหรือผอม ขาวหรือดำ ต่างก็มีหลักการเดียวกันในการทำให้ผิวยกกระชับ ซึ่งหลักการที่ว่านี้มุ่งไปที่การทำให้สองโรงสร้างหลักของผิว นั่นก็คือ “อีลาสติน (Elastin) และคอลลาเจน (Collagen)” มีความแข็งแรงสมบูรณ์ โดยทั่วไปแล้ววิธีดูแลผิวของคนทั่วไปก็คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีการรับรองว่าสามารถยกกระชับผิวคุณได้นั้น ส่วนใหญ่แล้ว เมื่อทาลงไปผิวจะมีลักษณะคล้ายกับว่ามีฟิล์มบางๆ เคลือบผิวเอาไว้อยู่ สามารถทำให้ผิว “รู้สึก” กระชับขึ้นได้ ซึ่งผลจากการใช้ผลิตภัณฑ์กระชับผิวเหล่านี้ จะอยู่เพียงชั่วคราว และคุณก็จะมองไม่เห็นการยกกระชับที่ชัดเจนของผิวหย่อนคล้อย แต่ทว่าความรู้สึกเหล่านี้ก็เพียงพอที่จะโน้มน้าวให้ผู้หญิงที่รักสวยรักงาอย่างเราๆ มองว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวใช้ได้ผล แต่เพียงแค่ “รู้สึก” ว่าผิวกระชับขึ้น คงไม่เหมือนกับการรักษาที่สามารถเปลี่ยนแปลงอย่างได้ผลจริง ดังนั้น คงจะดีกว่าหากเลือกวิธีกระชับผิวหย่อนคล้อยที่เวิร์คที่สุด เพื่อให้คุณเข้าใกล้กับผลลัพธ์ที่ต้องการ และต่อไปนี้ก็คือวิธีที่จะช่วยทำให้ผิวหย่อนคล้อยเด้งกระชับขึ้น

 

1.การสร้างคอลลาเจนมากขึ้นเป็นกุญแจสำคัญ ที่จะทำให้ผิวของคุณยกกระชับขึ้น แม้ว่าคอลลาเจนจะไม่ได้ช่วยทำให้ผิวที่เหี่ยวย่นหย่อนคล้อยกลับมาเด้งเต่งตึง แต่ก็ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิว ซึ่งทำให้ผิวเหี่ยวย่นน้อยลง คุณสามารถช่วยให้ผิวสร้างคอลลาเจนได้มากขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและส่วนผสมที่ช่วยซ่อมแซมผิว

 

 

2.ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 หรือมากกว่า เป็นสิ่งที่ไม่ควรลืม เพราะแสงแดดเป็นตัวการทำลายอีลาสตินและคอลลาเจนในผิว การปกป้องผิวจากแสงแดดในชีวิตประจำวัน ด้วยการทาครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญ แต่วิธีการทาครีมกันแดดของหลายๆ คนคือ ส่วนใหญ่แล้วมักจะทาเฉพาะใบหน้าเพียงอย่างเดียว นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผู้หญิงบางคนคอจึงดูแก่ และเหี่ยวย่นกว่าใบหน้า ดังนั้น ทาครีมกันแดดทั่วใบหน้าแล้ว อย่าลืมทาที่ลำคอและช่วงอกของคุณด้วย

 

 

3.ผลัดเซลล์ผิวอย่างสม่ำเสมอ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของกรดซาลิไซลิก (BHA) หรือ ไกลโคอิก (AHA) ซึ่งช่วยให้ผิวกระชับได้จริง ทั้งยังช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้ ยังมีผลงานวิจัยจำนวนมากที่รองรับสารเหล่านี้ สามารถช่วยสร้างคอลลาเจนมากขึ้น และยังช่วยกระชับผิวได้ด้วย ซึ่งการใช้ไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งสองชนิดไปพร้อมๆ กัน ให้เลือกเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งที่คุณชอบหรือสามารถสลับกันใช้ได้

 

 

4.ใช้วิตามินเอ หรือเรตินอลเป็นประจำ จะช่วยคงรูปร่างของอีลาสตินในผิวของคุณให้สมบูรณ์ มีงานวิจัยจำนวนหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าวิตามินเอสามารถเสริมสร้างอีลาสตินได้ (และแน่นอนว่าช่วยสร้างคอลลาเจนมากขึ้น) ดังนั้น การบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอลทุกคืนจึงช่วยได้มาก

 

 

5.กระบวนการทางการแพทย์ ยกตัวอย่างเช่น เลเซอร์ และการรักษาด้วยแสงอื่นๆ เช่น Fraxel หรือ Ulthera มีผลในการยกกระชับผิวที่น่าประทับใจ และยังสามารถปรับปรุงโครงสร้างผิวที่ยับย่นเสียหายได้ด้วย ดังนั้น แทนที่จะใช้เงินจำนวนมากไปกับครีมยกกระชับราคาแพงที่ไม่เห็นผลแน่ชัด คุณสามารถนำเงินก้อนดังกล่าวไปรักษา ด้วยกระบวนการทางการแพทย์ที่ทำได้ง่ายและเห็นผลในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน และแน่นอนว่าเป็นการรักษาจากแพทย์ผิวหนังที่มีความเชี่ยวชาญ

 

 

6.หากวิธีที่พูดมาทั้งหมดนี้ไม่ได้ผลสำหรับคุณ (หรือไม่ได้ให้ผลลัพธ์อย่างที่คุณต้องการ) ถึงเวลาแล้วที่คุณอาจจะต้องพิจารณาเข้ารับการทำศัลยกรรมความงาม มีวิธีการยกกระชับหน้าหลายประเภทที่ให้ผลลัพธ์ที่ดี และสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก โดยไม่ทำให้คุณดู “หน้าตึงจนเกินไป” และเมื่อรักษาร่วมกับการดูแลผิวอย่างเป็นกิจวัตร ก็จะทำให้ผิวของคุณแต่งตึงกระชับได้เป็นเวลายาวนานยิ่งขึ้น

 

 

เหล่านี้คือหลักการที่จะช่วยทำให้ผิวเหี่ยวย่นหย่อนคล้อยของคุณกลับมายกกระชับมากขึ้น ทีนี้เรามาเจาะลึกกันถึงวิธีการที่จะช่วยยกกระชับผิวเหี่ยวย่นหย่อนคล้อยทั้งบนใบหน้าและลำตัว ทั้งในคนที่ยังหย่อนคล้อยไม่มาก หรือคนที่ผิวหนังเกินจนต้องเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมพลาสติก ซึ่งแนวทางการรักษาเหล่านี้เป็นมาตรฐานในการยกกระชับผิวที่คนวัย 30 อัพ ไม่ควรพลาด

 

 

หลากวิธีมีผิวสวยกระชับเด้ง

 

 ผ่าตัดดึงหน้า

 

การดึงหน้าช่วยให้หน้าและลำคอตึงและเรียบเนียนขึ้น จึงช่วยทำให้ดูอ่อนเยาว์ โดยการตัดแต่งผิวหนังส่วนที่เกิน กระชับผิวหนังส่วนที่หย่อนคล้อย จัดเรียงและกระชับกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง เปิดแผลบริเวณหน้าหู หลังหู หรือแนวไรผม การผ่าตัดนี้ดำเนินการภายใต้การดมยาสลบ ซึ่งผลข้างเคียงจากการดึงหน้าคือ หากเป็นการผ่าตัดดึงหน้าแบบดั้งเดิมต้องดมยาสลบ ซึ่งมาพร้อมกับความเสี่ยงที่มากขึ้น และต้องใส่ท่อระบายเป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังผ่าตัดใบหน้าอาจบวม ช้ำ รู้สึกไม่สะดวกสบาย และมองเห็นภาพเบลอ หรือมีทัศนวิสัยในการมองเห็นที่แย่ลง การผ่าตัดดึงหน้ายังมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ผลการรักษาอาจไม่ถาวร ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอายุของคนไข้ โครงสร้างกระดูก สภาพผิว และการดูแลรักษาตัวเองของคนไข้หลักผ่าตัด

 

 

 ฉีดยกกระชับ

 

การฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ ช่วยลดรอยย่น ลดริ้วรอยเส้นเรียบ และผิวที่อวบอ้วนจากไขมันส่วนเกิน โดยไม่ต้องผ่าตัด โบท็อกซ์หรือโบทูลินั่ม ท็อกซิน จะหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อที่กอให้เกิดริ้วรอย โบท็อกซ์ถูกนำมาใช้กับใบหน้าส่วนบนมากที่สุด ซึ่งเป็นบริเวณที่มีตีนกา รอยย่นหน้าผาก และรอยย่นจมูก โดยจะเห็นผลการรักษาได้ใน 5-7 วัน และมีอายุการใช้งานทุก 4-6 เดือน ส่วนค่าใช้จ่ายนั้น ขึ้นอยู่กับบริเวณที่จะทำการฉีด ส่วนฟิลเลอร์นิยมมากที่สุดในการเติมเต็มร่องลึก รอยพับ ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานคือมีส่วนประกอบของกรดไฮยาลูรอนิก ซึ่งมีประสิทธิภาพในการปรับริ้วรอยให้เรียบ การเติมเต็มส่วนที่พร่อง เช่น ริมฝีปาก แก้มตอบ ลดรอยยับบริเวณคาง ช่วยทำให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบมากขึ้น ซึ่งเมื่อใช้ฟิลเลอร์ร่วมกับเทคนิคการฉีดที่ดี จะทำให้รูปทรงใบหน้าของคนไข้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และดูเป็นธรรมชาติ ผลข้างเคียงคืออาจมีจุดช้ำบริเวณที่ฉีด การฉีดด้วยเข็มคมจะทำให้มีความเจ็บปวดน้อยลง แต่ทำให้เกิดการช้ำมากขึ้น

 

 

 พลังงานอัลตร้าซาวด์ยกกระชับผิว

 

พลังงานอัลตร้าซาวด์ (Ultrasound) ทำให้เกิดความร้อนภายในเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ขึ้น ลดเลือนริ้วรอย ช่วยยกกระชับ แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวหนังได้ โดยวิวัฒนาการล่าสุดคือ พลังงานอัลตร้าซาวด์ที่มีความสามารถเฉพาะเจาะจง ในการมุ่งเป้าไปยังกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันชั้นลึก และสามารถกระชับเนื้อเยื่อที่หย่อนคล้อยบริเวณขากรรไกร ทำให้ผิวหนังลำคอเรียบตึงขึ้น และสามารถยกคิ้วในผู้ป่วยที่มีผิวหย่อนคล้อยปานกลาง โดยปกติแล้วในการรักษาอาจต้องทำหลายครั้ง และมักมีผลอยู่ได้นาน 10 ปี ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นคือ ผิวอาจบวมและมีสีแดงเล็กน้อย แต่จะหายไปภายในหนึ่งวัน แพทย์จะแนะนำให้ทำการรักษา 4-6 ครั้ง (ห่างกันประมาณ 1 เดือน) ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงจึงมักค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป และค่าใช้จ่ายในการรักษาก็ไม่ได้ถูกเท่าไหร่นัก

 

 

 การผลัดเซลล์ผิวและการใช้ผลิตภัณฑ์ยกกระชับ

 

เมื่อสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรดถูกนำไปใช้กับใบหน้า ผิวหนังชั้นนอกหรือชั้นบนสุด จะถูกลอกออกไป เป็นการผลัดเซลล์ผิวเก่า ช่วยกระชับผิว และกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ลบเลือนปัญหาผิวพรรณที่เกิดจากวัยที่เพิ่มขึ้นอย่างรอยย่นและริ้วรอยเส้นเรียบให้จางลง ผิวชั้นใหม่ที่มีสุขภาพดีกว่า พื้นผิวเรียบเนียนกว่า ถูกพัฒนาขึ้น สารผลัดเซลล์ผิวเหล่านี้ มีความเข้มข้นของกรดและส่วนประกอบทางเคมีที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละระดับชั้นของผิวหนัง สารผลัดเซลล์ผิวโดยส่วนใหญ่มีความอ่อนโยน และสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ไม่รุกล้ำผิวเกินไป และมีส่วนผสมที่ไม่รุนแรง เช่น กรดไกลโคลิก ส่วนการผลัดเซลล์ผิวชั้นลึกที่สุดจะมีส่วนประกอบของฟีนอล และสามารถใช้ในการผลัดเซลล์ผิวได้แค่ครั้งเดียว เพราะมีความรุนแรงมาก มีผลในการแทรกซึมชั้นผิวหลายชั้น และอาจทำให้ผิวไหม้ได้

 

 

สารผลัดเซลล์ผิวส่วนมากมีกรดอัลฟ่าไฮดร็อกซี หรือ กรด AHA เป็นส่วนประกอบ มีความเข้มข้นที่หลากหลาย กรด AHA ความเข้มข้นสูงจะมีความเข้มข้น 50 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ แต่มอยส์เจอไรเซอร์และคลีนเซอร์ที่วางขายตามท้องตลาดจะมีความเข้มข้นน้อย คือ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น สำหรับส่วนผสมจากธรรมชาติที่ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส เช่น วิตามินซี กรดแลกติก กรดโคจิก สารสกัดจากเปลือกต้นหลิวสีขาว และสารสกัดจาองุ่น รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในทับทิม วิตามินซีและชาเขียว ยังช่วยทำให้ผิวกระชับและกระจ่างใสได้เช่นกัน ผลข้างเคียงร้ายแรงจากากรผลัดเซลล์ผิวที่มากเกินไปและผิดวิธี อาจทำให้ผิวของคุณบวมแดงเป็นระยะเวลา 12 วัน และค่าใช้จ่ายในการผลัดเซลล์ผิวค่อนข้างสูง

 

 

 ศัลยกรรมพลาสติกกระชับผิว

 

สำหรับเรื่องของรูปร่างที่ไม่กระชับ มีผิวหย่อนคล้อย โดยส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากการสูญเสียน้ำหักเป็นจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว โดยอาจจะเป็นการที่คุณได้ทำตามเคล็ดลับต่างๆ ที่ได้รู้ได้ยินมา เช่น ออกกำลังกายด้วยการเบิร์นไขมันออกให้ได้มากที่สุด หรือ การกระชับกล้ามเนื้อและกำจัดไขมันในส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ซึ่งหลังจากที่นำหนักได้ลดลงแล้ว คุณอาจสังเกตเห็นว่ารอบๆ กล้ามเนื้อของคุณมีผิวที่หลวมและหย่อนคล้อย โดยเฉพาะบริเวณท้องแขนและรอบเอว ทำให้คุณหมดความมั่นใจกับรูปร่างที่ไม่ได้เฟิร์มอย่างทีใจต้องการ การสูญเสียน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแต่ผิวหนังจะสูญเสียความยืดหยุ่น จากการลดลงของไขมันเท่านั้น แต่อีลาสตินยังไม่มีช่วงเวลาในการปรับตัวเข้ากับรูปร่างใหม่ของคุณด้วย นอกจากการสูญเสียน้ำหนักแล้ว สาเหตุที่ทำให้เกิดผิวหย่อนคล้อยยังรวมถึงอายุ, โภชนาการที่ไม่ดี, การขาดน้ำ, ส่งผลกระทบต่อความยืดหยุ่นของผิว และอาจทำให้คุณดูมีรูปร่างเผละทั้งๆ ที่ไม่ต้องการ

 

 

ถึงแม้ว่าผิวหนังจะมีความสามารถยืดออกไปได้มาก แต่เมื่อผิวถูกยืดออกแล้ว ก็จะทำให้ความสามารถในการดึงกลับนั้นลดลง หากคุณตั้งครรภ์เป็นเวลา 9 เดือน ก็ยังวางใจได้อยู่ว่า ผิวหนังจะกลับเข้าที่ได้ การออกกำลังกายสามารถปรับปรุงสภาพผิวที่หย่อนคล้อยได้ โดยเน้นการออกกำลังกายกระชับกล้ามเนื้อใต้ผิวหนัง ร่วมกับการดื่มน้ำมากๆ ผลัดเซลล์ผิวและเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว เพื่อปรับปรุงและป้องกันไม่ให้ผิวหย่อนคล้อย การใช้เลเซอร์และสารเคมีผลัดเซลล์ผิวช่วยทำให้ผิวหย่อนคล้อยมีความกระชับขึ้นได้ แต่ถ้าคุณมีน้ำหนักมากกว่า 50 กิโลกรัมขึ้นไปเป็นเวลานานหลายปี คุณก็อาจจะต้องพิจารณาเข้ารับการทำศัลยกรรมพลาสติกเพื่อยกกระชับผิวที่หลวม  และยังสามารถตัดแต่งผิวหนังส่วนเกินออกไปได้ด้วย ซึ่งการผ่าตัดนี้ควรใช้เฉพาะในกรณีที่รุนแรงเท่านั้น

 

 

ไม่ว่าคุณจะเลือกยกกระชับผิวด้วยวิธีใดก็ตาม หลังจากการรักษาหากคุณมีการดูแลผิวที่ดี รักษาความสะอาดของผิว ใช้ครีมบำรุงผิวและครีมกันแดดทุกวัน รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนอย่างเพียงพอ ก็จะเป็นการช่วยชะลอวัยให้ผิวของคุณได้ หากต้องการรักษาด้วยกระบวนการทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและสอบถามให้เข้าใจถึงกระบวนการรักษาและผลที่จะได้รับก่อนตัดสินใจทุกครั้ง

(Some images used under license from Shutterstock.com.)