หลักการเลือกสื่อบันเทิงสำหรับเด็กและครอบครัว

หาความสุขจากสื่อบันเทิง

ด้วยความหลากหลายของรายการบันเทิงที่นำเสนอผ่านสื่อมากมายในปัจจุบันนี้  หลายรายการพยายามที่จะหารูปแบบและเนื้อหาการนำเสนอที่น่าสนใจเพื่อที่จะดึงดูดผู้ชมและผู้ฟังให้ได้มากที่สุด จนบางครั้งอาจหลงลืมไปว่า เนื้อหาที่นำเสนอนั้น อาจจะไม่เหมาะสมกับวัยของเด็กๆ สื่อบันเทิงหลายช่องทางต่างตั้งตนขึ้นมาว่าจะทำหน้าที่ให้ความบันเทิง แต่ในความบันเทิงนั้นบางครั้งก็ไม่ได้ให้ความบันเทิงหรือทำให้ชีวิตของคนในครอบครัวนั้นมีความสุขเพิ่มขึ้นมาเลย

หลักการเลือกความสุขจากสื่อบันเทิง

คุณศิริบูรณ์ ณัฐพันธ์ สื่อมวลชนและคุณแม่ลูกสองได้ให้หลักการในการเลือกความบันเทิงสำหรับลูกๆ และครอบครัวเอาไว้ดังนี้ สำหรับลูกๆ ที่บ้าน ถ้าเป็นสื่อบันเทิงอย่างละครจะให้ลูกดูน้อยมาก การ์ตูนกับละครบางเรื่องที่ให้ดูนั้น จะต้องเป็นรายการสำหรับเด็กจริงๆ แต่บางฉากบางตอนสำหรับละครและการ์ตูนนั้น ก็ยังมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เด็กๆ อาจจะยังไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้น สิ่งที่สำคัญคือเวลาที่ดูการ์ตูนหรือละครพ่อแม่ต้องคอยอยู่ใกล้ๆ ให้คำปรึกษาและอธิบายในสิ่งที่เกิดขึ้น และถ้าเป็นการดูข่าวเราก็จะดูไปสอนไปด้วย หยิบยกตัวอย่างจากข่าวมาเป็นสิ่งคอยสอน และเตือนในลูกให้ระมัดระวังสิ่งอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้

ผู้ใหญ่ต้องไม่เห็นแก่ตัว

การดูโทรทัศน์หรือสื่อบันเทิงผู้ใหญ่ต้องอยู่ด้วย และผู้ใหญ่ที่อยู่ด้วยนั้นจะต้องเป็นคนที่มีความรู้ที่จะคอยให้คำแนะนำปรึกษาได้ ถ้าเป็นผู้ใหญ่ที่อยู่กับเด็กแล้วไม่สามารถให้ความรู้แยกแยะได้ หรือไม่สามารถให้คำแนะนำได้หรือให้คำแนะนำไปในทางที่ผิด สู้ให้เด็กดูคนเดียวแบบไม่เข้าใจ ดีกว่าที่จะให้เขาเข้าใจอะไรผิดๆ ผู้ใหญ่อย่าเห็นแก่ตัว อย่าคิดว่าเด็กไม่รู้เรื่องอะไร ทุกอย่างซึมซับได้ ต้องใช้สติในการเลือก ถ้าให้เด็กๆ เป็นเด็กดีเราต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้เขาด้วย สัญลักษณ์ที่ขึ้นตรงหน้าจอนั้น ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์จากส่วนนั้น ในที่สุดแล้วรายการที่ดีนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องเป็นผู้พิจารณาอยู่ดี แม้แต่การ์ตูนเองในนั้นจะมีคนดีไม่ดี มีการตีหัว เด็กแยกไม่ออกแน่นอนว่าการตีหัวแบบนั้น คือความรุนแรงอย่างหนึ่ง

ยิ่งมีมากยิ่งต้องเลือก

สื่อไม่ได้หมายถึงอย่างใดอย่างหนึ่ง  เพราะฉะนั้นทุกอย่างจะมีทั้งที่ดี ไม่ดี และไม่มีคุณภาพ การที่พ่อแม่บางคนบอกว่าให้รางวัลกับลูกด้วยการซื้อเกม ให้ลูกดูทีวี หรือใช้อินเตอร์เน็ตได้ตามใจชอบ แต่จะมีพ่อแม่กี่คนที่รู้ว่ากำลังหยิบยื่นยาพิษให้กับลูก ทุกอย่างสำหรับลูกต้องเลือกยิ่งมีเยอะก็ยิ่งต้องเลือก เหมือนของที่วางขายในห้างสรรพสินค้า ยิ่งมีมากเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องเลือกมากเท่านั้นและต้องเลือกแต่สิ่งที่ดีและมีคุณภาพ สื่อนั้นถึงจะให้ประโยชน์และความสุขได้